ยันม่าร์ สาธิตเครื่องจักรกลการเกษตรไร้คนขับ หนุนยุทธศาสตร์ Thailand 4.0
“ยันม่าร์ สาธิตเครื่องจักรกลการเกษตรแบบไร้คนขับ ตอบโจทย์เกษตรกรยุคดิจิทัล ประหยัดเวลาและพลังงาน ช่วยเพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนให้สังคมไทยมุ่งสู่สังคมเกษตรอัจฉริยะสอดรับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0
บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี. จำกัด ผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรในประเทศไทย และบริษัท ยันม่าร์ อกริ จำกัด ในเครือบริษัท ยันม่าร์ จำกัด เข้าร่วมโครงการใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงมาใช้ในเครื่องจักรกลการเกษตรในประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการนำร่อง เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการเกษตร
โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนด้านการพัฒนาจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ JICA และคณะกรรมการทำงานร่วมไทย-ญี่ปุ่น ยันม่าร์จึงได้จัดการสาธิตเครื่องจักรกลการเกษตรอัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับระบบ ระบบนำทางด้วยดาวเทียม (Global Navigation Satellite System: GNSS) ของประเทศไทย ณ ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ. สระบุรี
โครงการดังกล่าวได้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว ประเทศไทย 4.0 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศ เพื่อช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำสูง
ยันม่าร์_จึงได้คิดค้นและพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรมาช่วยตอบโจทย์เกษตรกรไทยในการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการเกษตร จึงได้ริเริ่มโครงการนี้ขึ้น และได้สาธิตเครื่องจักรกลการเกษตรแบบอัตโนมัติจำนวน 4 รุ่น ที่ได้ติดตั้งเทคโนโลยีการรับสัญญาณดาวเทียม GNSS มาใช้ควบคุมทิศทางการทำเกษตรกรรมให้กับคนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำสูง
โขว์ประสิทธิภาพเครื่องจักรกลการเกษตรอัจฉริยะ
ยันม่าร์เลือกใช้นวัตกรรมเครื่องจักรทางการเกษตรจำนวน 4 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย 1. แทรกเตอร์ไร้คนขับอัจฉริยะ รุ่น YT5113A และรถดำนาควบคุมการบังคับเลี้ยวอัตโนมัติ รุ่น YR8D ซึ่งเป็นเครื่องจักรกลการเกษตรที่ล้ำสมัยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
อีก 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ รถเกี่ยวนวดข้าว รุ่น YH1180 และแทรกเตอร์ รุ่น YM357A ที่มีการติดตั้งระบบควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติและเซ็นเซอร์วัดประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ในขณะนี้
โดยโครงการดังกล่าว ยันม่าร์จะนำเครื่องจักรกลการเกษตรมาเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติเป็นเส้นตรงและสามารถควบคุมทิศทางการเลี้ยวได้ด้วยการเชื่อมต่อกับระบบ GNSS ของประเทศไทย ในพื้นที่แปลงสาธิตการปลูกข้าว เพื่อแสดงศักยภาพความรวดเร็วและแม่นยำในการทำการเกษตร
การทำนาด้วยแทรกเตอร์ไร้คนขับอัจฉริยะ
ยันม่าร์ชูจุดเด่นของการทำนาโดยใช้รถแทรกเตอร์ 2 คัน เพื่อเตรียมดินและการปลูกข้าวไปพร้อมกัน โดยใช้แทรกเตอร์ไร้คนขับอัจฉริยะรุ่น YT5113A ทำหน้าที่เตรียมดินในการเพาะปลูก วิ่งนำหน้า ตามมาด้วยแทรกเตอร์รุ่น YM357A ที่ติดตั้งระบบควบคุมบังคับเลี้ยวอัตโนมัติอยู่ด้านหลังในการทำหน้าที่หยอดเมล็ดข้าว
ช่วยให้เกษตรกรประหยัดเวลาและแรงงานคน โดยผู้ใช้ 1 คนสามารถควบคุมแทรกเตอร์จากแท็บเล็ตได้ 2 คันพร้อมกัน โดยในแท็บเล็ตยังมีการลงทะเบียนพื้นที่ของทุ่งนา และขั้นตอนการทำงานไว้ล่วงหน้าด้วยระบบดาวเทียม GNSS ทำให้สามารถทำงานไปพร้อมกับตรวจสอบพิกัดของตัวเอง ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานโดยอัตโนมัติตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การปลูกข้าวด้วยรถดำนารุ่น YR8D
จากนั้นยันม่าร์ได้สาธิตรถดำนารุ่น YR8D ที่ติดตั้งระบบควบคุมการบังคับเลี้ยวอัตโนมัติด้วย ซึ่งสามารถทำงานได้ 2 โหมด ทั้งในเส้นทางแนวตรงและการเลี้ยวบริเวณหัวและปลายนาได้อัตโนมัติอย่างปลอดภัย เนื่องจากเชื่อมต่อระบบนำทางดาวเทียม GNSS ช่วยส่งข้อมูลตำแหน่งที่แม่นยำ และสามารถระบุตำแหน่งในการปักดำได้แบบทันที ซึ่งการใช้รถดำนาไม่เพียงจะได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลา ลดต้นทุน และแรงงานคนอีกด้วย
การเกี่ยวนวดข้าวด้วยรถเกี่ยวนวดข้าว รุ่น YH1180
ในขณะที่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยว จะใช้รถเกี่ยวนวดข้าวรุ่น YH1180 มีระบบควบคุมทางไกลอัจฉริยะ (SA-R) มาพร้อมกับพวงมาลัย Mary-hand ที่ติดตั้งตัวควบคุมวิ่งแนวตรงอัตโนมัติ สามารถบังคับเลี้ยวรถเกี่ยวนวดข้าวได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยันม่าร์คิดค้นขึ้น ให้ผู้ใช้งานรถเกี่ยวนวดข้าวสามารถบังคับการเลี้ยวรถตามความโค้งของพื้นที่เก็บเกี่ยวได้อย่างสะดวก ง่ายดายยิ่งขึ้น ประหยัดเวลาโดยไม่ทำให้แปลงนาเสียหาย และขับผ่านทางเข้าแปลงนาแคบๆ ได้
นอกจากนี้ ยังติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจสอบผลผลิตข้าวในถังเก็บเมล็ด เพื่อใช้ตรวจเช็กผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้อย่างแม่นยำ ด้วยการเชื่อมต่อกับระบบนำทางในการเกี่ยวข้าวด้วยดาวเทียม GNSS ทำให้เกษตรกรบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น โดยในอนาคต จะถูกพัฒนาให้เข้ากับผลผลิตและประเภทข้าวในประเทศไทยด้วย
ยันม่าร์ ในฐานะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร มีความยินดีที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการเชิงทดลองเพื่อสังคมนี้จะก่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนให้สังคมไทยมุ่งสู่สังคมเกษตรอัจฉริยะสอดรับยุทธศาสตร์ชาติส่งเสริมการเกษตร 20 ปี (Thailand 4.0)
ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีล้วนตอบโจทย์เกษตรกรยุคใหม่ ทั้งในด้านการประหยัดเวลาและพลังงาน และช่วยเพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืน ในอนาคตยันม่าร์จะมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ICT มาใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับลูกค้าและลดความต้องการใช้แรงงานคนลง เพื่อให้ยันม่าร์เป็นผู้นำด้านการเกษตรแบบยั่งยืน