Tuesday, July 2, 2024
ArticlesBig DataData ManagementInterview

เมื่อองค์กรต้องก้าวสู่ กระบวนการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ฮิตาชิ แวนทารา

ส่องประเด็นความท้าทายหลักในการบูรณาการและจัดการข้อมูล เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในยุคที่องค์กรก้าวสู่ กระบวนการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ผ่านมุมมองของ โจ ออง จาก ฮิตาชิ แวนทารา

สัมภาษณ์พิเศษ โจ ออง รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคอาเซียนของบริษัท ฮิตาชิ แวนทารา กับความท้าทายหลักในการบูรณาการและจัดการรูปแบบข้อมูล ในยุคที่โครงสร้างพื้นฐานขององค์กรได้ก้าวเข้าสู่รูปบบผสมผสาน และเกิดข้อมูลทั้งในแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างจำนวนมหาศาล

หลายองค์กรต้องการระบบอัตโนมัติในการจัดการข้อมูล รวมไปถึงการสร้างธรรมาภิบาลข้อมูล สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบในการเลือกลงทุนเทคโนโลยีจากผู้ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานและโซลูชันดิจิทัลที่อยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรม เพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์การใช้ประโยชน์จากข้อมูลสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจ

สารพัดปัญหาการจัดการข้อมูลองค์กรยุคคลาวด์เนทีฟ

โจ ออง รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคอาเซียนของบริษัท ฮิตาชิ_แวนทารา กล่าวกับ CIO World Business ว่า “ปริมาณและความหลากหลายของข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในองค์กรขนาดใหญ่ เป็นความท้าทายที่สำคัญ”

“แนวทางการจัดการข้อมูลแบบเดิมที่ออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมภายในองค์กรรุ่นเก่า มักจะทำให้ความท้าทายเหล่านี้รุนแรงขึ้น โซลูชันแบบเดิมเหล่านี้ซึ่งเน้นที่การสำรองข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ สร้างคอขวดหลายประการที่ขัดขวางการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ไฮบริดในปัจจุบัน”

“ปัญหาสำคัญประการหนึ่งคือ การกระจายของข้อมูล ซึ่งแนวทางแบบเดิมมักจะนำไปสู่ไซโลข้อมูล ที่จะต้องซื้อและจัดการอุปกรณ์แยกกันเมื่อที่เก็บข้อมูลเต็ม แนวทางแบบไซโลนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความซับซ้อนในการจัดการ แต่ยังจำกัดการมองเห็นภูมิทัศน์ข้อมูลโดยรวมขององค์กรอีกด้วย”

“นอกจากนี้ โซลูชันแบบเดิมมักต้องมีการประเมินความจุล่วงหน้าเกินจริง เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต องค์กรอาจจัดเตรียมพื้นที่เก็บข้อมูลมากเกินไป ส่งผลให้ทรัพยากรสูญเปล่าและมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น”

“ปัญหาอีกประการหนึ่งของระบบเก่าคือ การอัปเกรดแบบยกเครื่อง ที่มีต้นทุนสูง และต้องทำเมื่อถึงเวลาต่ออายุ การอัปเกรดเหล่านี้มักจะต้องมีการหยุดระบบเพื่อย้ายข้อมูล ทำให้เกิดการหยุดชะงักอย่างมากและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม”

“การทำงานร่วมกับระหว่างการจัดเก็บข้อมูลแบบเก่ากับระบบคลาวด์เป็นอุปสรรคอีกประการหนึ่ง ซึ่งโซลูชันเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิมอาจมีความสามารถที่จำกัดในการย้ายไปสู่ระบบคลาวด์ (หรือไม่มีเลย) ทำให้องค์กรต้องใช้โซลูชันเพิ่มเติมสำหรับการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ ส่งผลให้มีความซับซ้อนและต้นทุนเพิ่มมากขึ้น”

“ในที่สุด ระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าจะประสบกับประสิทธิภาพที่ลดลงเมื่อความจุเพิ่มขึ้น โดยทั่วไประบบเหล่านี้จะมีความจุสูงสุดเมื่อซื้อ แต่จะส่งผลให้เกิดปัญหาประสิทธิภาพเมื่อปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้น” โจ กล่าว

บทบาทของระบบอัตโนมัติในการจัดการข้อมูล

“ระบบอัตโนมัติกำลังมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงและเพิ่มคุณค่าให้กับข้อมูลและเมตาดาต้า ผ่านแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลที่ทันสมัย ข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับเครื่องมือประมวลผลขั้นสูงที่ใช้ในงานวิเคราะห์ การค้นหา และการปฏิบัติตามข้อกำหนด”

“ระบบอัตโนมัติยังขยายไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดและการกำกับดูแลอีกด้วย แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลสามารถทำงานอัตโนมัติ เช่น การจัดการการเก็บรักษา การระงับทางกฎหมาย และการกำจัดข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อบังคับและลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาดของมนุษย์”

“ซึ่งรวมถึงการสนับสนุน ขอบเขตการเชื่อมต่อของเครือข่าย (geo-fencing), กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ, กฎหมายว่าด้วยการควบคุมและการส่งผ่านข้อมูลทางด้านการประกันสุขภาพ (HIPAA) และกรอบการกำกับดูแลอื่นๆ” โจ อธิบายถึงทิศทางของการจัดการข้อมูลด้วยระบบอัตโนมัติ

ความปลอดภัยของข้อมูลที่มาพร้อมกับระบบการจัดการข้อมูลอัตโนมัติ

“องค์กรจำเป็นต้องใช้วิธีการเชิงรุกในสถานการณ์ภัยคุกคามในปัจจุบัน ที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญของมนุษย์เข้ากับระบบอัตโนมัติ ระบบอัตโนมัติมีบทบาทสำคัญในที่นี้โดยทำให้ระบบสามารถตอบสนองต่อความผิดปกติที่ตรวจพบโดย AI อย่างอัตโนมัติ”

“อาจเกี่ยวข้องกับการส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลระบบเพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินการที่จำเป็น เช่น การกักกันอุปกรณ์ที่ติดไวรัส ควรพิจารณาใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลสมัยใหม่ที่ช่วยเสริมทั้งสองด้าน”

“ข่าวดีก็คือ แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลสมัยใหม่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น ที่เก็บข้อมูลที่ไม่เปลี่ยนรูป ซึ่งจะสร้างสำเนาข้อมูล ณ จุดเวลาที่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าผู้โจมตีจะพยายามแก้ไขข้อมูล แต่สำเนาเหล่านี้จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้สามารถกู้คืนได้ง่าย”

“รวมถึงความสามารถในการตรวจจับและกู้คืนจากแรนซัมแวร์อัตโนมัติ ซึ่งเป็นระบบที่สามารถระบุการโจมตีของแรนซัมแวร์และแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการกู้คืนอย่างรวดเร็วจากสแนปช็อตหรือข้อมูลสำรอง”

“ฟังก์ชันอัตโนมัติเหล่านี้ ช่วยปรับปรุงความปลอดภัยและความยืดหยุ่นของข้อมูลได้อย่างมาก ที่สำคัญคือ ฟังก์ชันการทำงานเหล่านี้สามารถทำงานร่วมกับโซลูชันการปกป้องข้อมูลที่มีอยู่อย่างราบรื่น ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบรักษาความปลอดภัยโดยรวมขององค์กร”

แนวคิดเรื่องการใช้โซลูชันการเก็บข้อมูลยุคใหม่และมาพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐาน

“แนวคิดเรื่องการใช้แพลตฟอร์มข้อมูล ที่เป็นโซลูชันการเก็บข้อมูลยุคใหม่และมาพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐาน กลายเป็นทางเลือกที่สามารถลดปัญหาที่ได้กล่าวถึงอย่างมาก โซลูชันเหล่านี้สามารถจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์สำหรับที่เก็บข้อมูลแบบบล็อก ไฟล์ และอ็อบเจ็กต์ ซึ่งจะช่วยลดการเก็บข้อมูลแบบไซโลและเพิ่มการมองเห็นได้”

“แพลตฟอร์มข้อมูลคลาวด์ไฮบริดแบบครบวงจร อาทิ สถาปัตยกรรมที่ปรับขนาดได้ของ Hitachi Virtual Storage Platform (VSP) One ช่วยให้องค์กรขยายพื้นที่เก็บข้อมูลได้ตามต้องการโดยไม่ต้องจัดเตรียมพื้นที่มากเกินไป ทำให้มั่นใจได้ว่าทรัพยากรจะถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“สิ่งที่น่าสังเกตคือ ความท้าทายเหล่านี้ส่วนใหญ่สามารถแก้ไขได้โดยใช้แพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ไฮบริดที่ครอบคลุม เช่น VSP One ที่ นำเสนอโซลูชันการจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์สำหรับการจัดเก็บแบบบล็อก ไฟล์ และอ็อบเจ็กต์ ช่วยขจัดการเก็บข้อมูลแบบไซโล และเพิ่มความสามารถในการมองเห็นข้อมูล”

“สถาปัตยกรรมของ VSP One ที่สามารถปรับขนาดได้ ช่วยให้ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการขยายพื้นที่จัดเก็บตามต้องการโดยไม่ต้องจัดเตรียมพื้นที่มากเกินไป การอัปเกรดและการขยายระบบที่ราบรื่นช่วยลดเวลาหยุดทำงานและต้นทุน”

แพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลไฮบริดคลาวด์ของ VSP One สามารถทำงานร่วมกับคลาวด์สาธารณะได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ย้ายข้อมูลและจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งระบบเซิร์ฟเวอร์ในองค์กรและคลาวด์ สถาปัตยกรรมขั้นสูงช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอโดยไม่คำนึงถึงปริมาณข้อมูล ช่วยแก้ไขปัญหาด้านประสิทธิภาพการทำงาน สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการข้อมูลได้อย่างมากและเอาชนะข้อจำกัดในการจัดการข้อมูลแบบเดิมได้

สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่จัดการข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างจำนวนมาก แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลขจากฮิตาชิมีโซลูชันที่ครอบคลุมได้รับการพัฒนาจนสมบูรณ์ โดยมีคุณสมบัติต่างๆ อาทิ การจัดการนโยบายอัตโนมัติและเวิร์กโฟลว์ข้อมูล ซึ่งช่วยปรับปรุงกระบวนการจัดการข้อมูล นอกจากนี้ ยังมีความโดดเด่นในการใช้งานโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์แบบไฮบริด และการปกป้องข้อมูล

องค์กรที่ต้องก้าวสู่ กระบวนการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

โจ ได้ออกความเห็นผ่านไปยังผู้บริหารในองค์กรที่กำลังขับเคลื่อนนโยบาย ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยเขากล่าวว่า “เมื่อใดที่องค์กรมีการวางแผนการลงทุนในการจัดการข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ สิ่งสำคัญคือ ผู้นำองค์กร โดยเฉพาะ CIO, CEO, และ CFO ต้องตระหนักถึงบทบาทสำคัญที่การลงทุนเหล่านี้มีต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ และการเสิรมสร้างศักยภาพของ AI เข้าไปด้วย”

“การจัดการข้อมูลที่แข็งแกร่ง และโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถขยายตัวได้อย่างคล่องตัว จำเป็นต่อบการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาลที่ AI ต้องการ การทำให้ระบบมีความปลอดภัย พร้อมๆ กับประสิทธิภาพสูง และยังสามารถผสานกับ AI ได้อย่างไร้รอยต่อนั้น จะช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำขึ้นและนำไปสู่การตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น”

“การลงทุนเหล่านี้ให้ผลตอบแทนในระยะยาว ผ่านการประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังทำให้องค์กรก้าวสู่ความเป็นผู้นำที่พร้อมใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของ AI ในอนาคต การให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ในโครงการริเริ่มต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับ AI และยังทำให้องค์กรมีความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงที่เทคโนโลยี AI จะนำมาได้อย่างดีอีกด้วย” โจ กล่าวสรุป

ข้อมูลไม่ใช่แค่ตัวเลขในสเปรดชีต แต่เป็นขุมทรัพย์แห่งข้อมูลเชิงลึกที่รอการปลดล็อก องค์กรที่สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพนี้ได้จะมีข้อได้เปรียบที่แตกต่างในโลกธุรกิจในปัจจุบัน โดยการใช้การวิเคราะห์ข้อมูล ธุรกิจต่างๆ สามารถค้นพบแนวโน้มที่ซ่อนอยู่ในพฤติกรรมของลูกค้า ระบุพื้นที่สำหรับการปรับปรุงกระบวนการ และแม้แต่จุดประกายนวัตกรรมสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ทั้งหมด

Featued Image: Image by vecstock on Freepik