ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เข้าลงทุนใน “มั่งมี” ธุรกิจสตาร์ทอัพแบบ B2B แพลตฟอร์มที่มุ่งพลิกโฉมการค้าแบบโชห่วยของไทย
บริษัท ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (WHAVH) ในเครือบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศลงทุนมูลค่าราว 34 ล้านบาท ในบริษัท มั่งมี อีคอมเมิร์ซ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท สตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่มุ่งปฏิวัติการค้าแบบดั้งเดิมของไทยให้ทันสมัยด้วยการใช้เทคโนโลยี และข้อมูลแบบบูรณาการ เพื่อปรับระบบการทำงานของผู้ใช้งานให้เป็นรูปแบบดิจิทัล
บริษัท มั่งมี อีคอมเมิร์ซ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปลายปี 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ B2B ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตสินค้า ตัวแทนจำหน่าย ผู้กระจายสินค้า ร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีกทั่วประเทศให้ สามารถซื้อขายกันอย่างสะดวกและรวดเร็วกว่าเดิมด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยีแพลตฟอร์มมั่งมีนี้จะ ช่วยให้ร้านค้าผู้ซื้อสามารถตรวจสอบราคาสินค้าโปรโมชัน และข้อมูลของคู่ค้าได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในกระบวนการดำเนินงานของผู้ขายตั้งแต่การบริหารร้านค้าการจัดการสินค้า และคำสั่งซื้อ การบริหารเครื่อง มือทางการตลาดไปจนถึงการเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่
การเข้าลงทุนของดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง ดำเนินการเสร็จสิ้นไปเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเป็น ส่วนหนึ่งของการระดมทุนรอบ Seed Round ครั้งที่ 2 ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของ “มั่งมี” ในการเจาะตลาดการค้า แบบดั้งเดิมของไทย ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 50 ของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ในประเทศไทย
ซึ่งคาดว่าน่าจะมี มูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านบาท (หรือกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2569 ยิ่งไปกว่านั้นมั่งมียังสามารถประสาน รวมห่วงโซ่คุณค่าด้านอีคอมเมิร์ซ (E-commerce value chain) ของบริษัท เข้ากับระบบนิเวศด้านโลจิสติกส์ (logistics ecosystem) ที่แข็งแกร่งของ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็นคลังสินค้าระดับพรีเมียม ศูนย์กระจายสินค้า หรือระบบ จัดการด้านการขนส่งที่ให้บริการโดยจิซทิกซ์ บริษัทสตาร์ทอัพชั้นนำด้าน E-Logistics ที่ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เข้าไปลงทุน เมื่อปีที่ผ่านมา
จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของ “มั่งมี” ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขาย และเร่งกระบวน การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของร้านค้าแบบดั้งเดิมนั้นสอดคล้องกับแผน ‘นวัตกรรมและการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล’ ของเราใน การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ
โดยร่วมมือกับธุรกิจสตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนของเราครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการขยายฐานลูกค้าและการมีบทบาทมากขึ้นในการสนับสนุนห่วงโซ่อุปทาน ของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และอยู่เคียงข้างการเติบโตทางธุรกิจของมั่งมีซึ่งก็เป็นช่อง ทางการขยายธุรกิจอีกช่องทางหนึ่งสำหรับดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป”
“ในฐานะผู้นำด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทย ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการไทย ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาพัฒนาธุรกิจให้ก้าวสู่ระดับแนวหน้า เราจะมองหาโอกาสการลงทุน ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค เพื่อขยายธุรกิจของเราให้เติบโตอย่างยั่งยืน” จรีพร กล่าวเสริม
ปัจจุบันแอปพลิเคชันมั่งมี ช่วยบริหารงานร้านโชห่วยกว่า 3,900 ราย ใน 3 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของไทย ได้แก่ อุดรธานี นครราชสีมา และสกลนคร และมีแผนที่จะขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคให้ครอบคลุม 12 จังหวัดหลัก ในปี 2566 ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 36 จังหวัดในต้นปี 2568