UiPath ประกาศเพิ่มประสิทธิภาพให้แพลตฟอร์มระบบอัตโนมัติ ด้วยโมเดล LLM ตัวใหม่
“UiPath ประกาศเพิ่มประสิทธิภาพให้แพลตฟอร์มระบบอัตโนมัติ ด้วยโมเดล LLM ตัวใหม่ เสริมแกร่งการประมวลผลเอกสารและการสื่อสาร ด้วย DocPATH และ CommPATH พร้อมประกาศความสามารถ OCR ที่รองรับภาษาไทย
UiPath บริษัทผู้ให้บริการด้านซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติ และ AI ระดับองค์กร ได้เปิดตัวโมเดล AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (large language models: LLM)) รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมกับการประกาศฟีเจอร์ Extended Languages Optical Character Recognition (OCR) ที่รองรับภาษาไทย
ซึ่งการผนวกฟีเจอร์ AI เข้ากับปพลตฟอร์มของ UiPath จะช่วยให้กระบวนการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติขององค์กรมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำมากขึ้น ด้วยของโมเดลและเครื่องมือ GenAI รวมทั้งรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจที่หลากหลายได้อย่างง่ายดายมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ
เกรแฮม เชลดอน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ UiPath กล่าวว่า “UiPath เล็งเห็นศักยภาพที่สูงมากของประเทศไทย เพราะองค์กรต่างๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป กล่าวคือ ตอนนี้การปรับใช้เทคโนโลยี AI ถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด โดยผู้บริหารองค์กรธุรกิจต่างๆ กำลังมองหาหนทางที่จะใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ AI เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
และ UiPath LLM ชุดใหม่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ทำอย่างนั้นได้ ด้วยการปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของ GenAI และปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงขององค์กร
ขณะเดียวกัน เครื่องมือ UiPath OCR ที่รองรับภาษาไทย จะช่วยให้องค์กรของไทยสามารถใช้การประมวลผลเอกสารอัจฉริยะที่แม่นยำมากขึ้น เรามุ่งหวังที่จะสนับสนุนองค์กรต่างๆ ในไทย เพื่อให้เติบโตอย่างรวดเร็วโดยอาศัยพลังของ AI และระบบอัตโนมัติ”
การประมวลผลเอกสารและการสื่อสาร ด้วย DocPATH และ CommPATH
ในการประชุมสุดยอดที่กรุงเทพฯ UiPath ได้ประกาศถึง LLM ชุดใหม่ นั่นคือ DocPATH และ CommPATH จะช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ สามารถใช้งาน LLM ที่ได้รับการฝึกอย่างกว้างขวางสำหรับงานเฉพาะด้านในส่วนของการประมวลผลเอกสารและการสื่อสาร
โดยให้ข้อมูลว่า โมเดล GenAI สำหรับการใช้งานทั่วไป อย่างเช่น GPT-4 มีประสิทธิภาพและความแม่นยำน้อยกว่าโมเดลที่ได้รับการฝึกเป็นพิเศษสำหรับงานเฉพาะด้าน นอกจากนั้น แทนที่จะต้องพึ่งพางานวิศวกรรมที่ต้องใช้เวลานานและขาดความแม่นยำ
ซึ่ง DocPATH และ CommPATH มอบเครื่องมือมากมายให้กับองค์กรธุรกิจสำหรับการปรับแต่งโมเดล AI ให้สอดรับกับความต้องการที่แน่ชัด เพื่อให้โมเดลดังกล่าวเข้าใจเอกสารและข้อความหลากหลายประเภท DocPATH และ CommPATH จะเปิดให้ทดลองใช้งานในรูปแบบของ Public Preview ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
นอกจากนั้น UiPath_Extended Languages OCR ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเฟรมเวิร์ก UiPath Document Understanding รองรับภาษาไทยแล้ว โดยตอนนี้ OCR สามารถแปลงเอกสารเป็นรูปแบบดิจิทัลได้มากกว่า 200 ภาษา รวมถึงภาษาไทย เวียดนาม ภาษาหลักทั้งหมดของอินเดีย
และภาษาที่ใช้ตัวอักษรซีริลลิกและกรีกซึ่งจะช่วยให้ขั้นตอนการดึงข้อมูลจากเอกสารกลายเป็นเรื่องง่าย เพราะลูกค้าจะสามารถสร้างเวิร์กโฟลว์เพียงหนึ่งเดียวสำหรับการดึงข้อมูลจากเอกสารหลากหลายประเภท
Context Grounding เพื่อยกระดับโมเดล GenAI ด้วยข้อมูลเฉพาะทางธุรกิจ
องค์กรธุรกิจต้องการวิธีที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากสำหรับการใช้งานข้อมูลทางธุรกิจร่วมกับโมเดล AI เพื่อตอบสนองความต้องการนี้ UiPath_จึงได้นำเสนอ Context Grounding ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ภายใน UiPath_AI Trust Layer ซึ่งจะเปิดให้ทดลองใช้งานแบบ Private Preview ในช่วงเดือนเมษายน
โดย UiPath_Context Grounding จะช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ปรับปรุงความแม่นยำของโมเดล GenAI ด้วยการจัดหาข้อมูลบริบททางธุรกิจผ่านกระบวนการ Retrieval Augmented Generation ระบบนี้จะดึงข้อมูลจากชุดข้อมูลเฉพาะของบริษัท เช่น ฐานความรู้หรือนโยบายและขั้นตอนภายในองค์กร เพื่อสร้างคำตอบที่ถูกต้องแม่นยำและรายละเอียดที่มากขึ้น
ระบบอัตโนมัติสำหรับนักพัฒนาและผู้ทดสอบ
รวมถึงได้แนะนำถึง UiPath_Autopilot ซึ่งคือชุดระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย GenAI บนแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้นักพัฒนาและผู้ใช้ระบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Autopilot อยู่ระหว่างการทดลองใช้งาน และจะเปิดให้ใช้งานทั่วไปในเดือนมิถุนายน
ปัจจุบันองค์กรต่างๆ มากกว่า 1,500 แห่งกำลังใช้ UiPath Autopilot โดยมีการสร้างผลลัพธ์มากกว่า 7,000 รายการ และมีการสร้างสัญลักษณ์ต่างๆ (Expression) มากกว่า 5,500 รายการต่อสัปดาห์ Autopilot for Developers ช่วยให้นักพัฒนาระบบอัตโนมัติทั้งมืออาชีพและคนทั่วไปสามารถสร้างระบบอัตโนมัติ โค้ด และสัญลักษณ์ (Expression) โดยใช้ภาษาธรรมชาติ
พร้อมทั้งเพิ่มความรวดเร็วให้กับทุกแง่มุมของการสร้างระบบอัตโนมัติ ส่วน Autopilot for Testers จะช่วยปรับปรุงกระบวนการทดสอบทั้งหมด ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนไปจนถึงการวิเคราะห์ ทั้งยังช่วยลดภาระงานในการดำเนินการทดสอบด้วยตนเอง และช่วยให้ทีมงานฝ่ายทดสอบขององค์กรสามารถทำการทดสอบแอปพลิเคชันได้เพิ่มมากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น
สร้างแรงผลักดันด้าน AI ในประเทศไทย
เพื่อสร้างแรงผลักดันด้าน AI ในประเทศไทย UiPath_ได้จัดงานประชุมสุดยอดระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือ AI-Powered Automation Summit เน้นย้ำและนำเสนอให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเปลี่ยนศักยภาพของ AI ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ด้วยการบูรณาการ AI เข้ากับระบบอัตโนมัติเพื่อสามารถดำเนินการปฏิบัติและสร้างผลกระทบได้อย่างชัดเจน
โดย เจสส์ โอ เรียลลี่ รองประธานภาคพื้นเอเชีย กล่าวว่า “UiPath_เชื่อว่ามีโอกาสที่จะนำประสิทธิภาพของ AI และระบบอัตโนมัติเข้ามาเสริมประสิทธิภาพให้องค์กร ด้วยเหตุผลที่ว่า UiPath_ลงทุนใน AI ที่ทำหน้าที่เหมือนกับมันสมอง ให้ข้อมูลเชิงลึกกับธุรกิจ แต่สิ่งที่เป็นความท้าทายคือ จะนำ AI หรือข้อมูลต่างๆ เหล่านั้นมาสร้างผลกระทบอย่างมหาศาลกับธุรกิจ สร้างกระบวนการทำงานได้ตั้งแต่ต้นจบจบ หรือเวิร์คโฟล์ในองค์กรได้อย่างไร”
“ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า AI ที่เปรียบเหมือนสมองกล ที่ทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติซึ่งเปรียบเหมือนกล้ามเนื้อจะทำให้การใช้งาน AI เกิดขึ้นและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงในองค์กร”
“UiPath_มีความมุ่งมั่นที่จะนำความสามารถเหล่านี้มาสู่ผู้บริหารทั้งในสายงานเทคโนโลยี สายงานดิจิทัล และผู้บริหารระดับสูงท่านอื่นๆ เพื่อพัฒนาองค์กร สร้างกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจให้เติบโต” เจส กล่าว
หัวใจของ AI และ Automation
โทมูร์ โฮ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมประจำภาคพื้นเอเชีย ให้ข้อมูลเสริมว่า “แพลตฟอร์มของ_UiPath ที่นำเสนอระบบอัตโนมัติแบบครบวงจรสำหรับกระบวนการทางธุรกิจ ได้ผนวกรวม AI เข้ากับโปรแกรมระบบอัตโนมัติ จะช่วยให้องค์กรสร้างระบบอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผู้บริหารองค์กรจะต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่ (1) บริบททางธุรกิจ (2) ความยืดหยุ่นของโมเดล AI (3) ความสามารถในการนำไปใช้ทำงาน (4) ความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ”
“และฟีเจอร์ AI ใหม่ของ UiPath_Platform ได้ตอบโจทย์ที่สำคัญเหล่านี้ และช่วยให้ลูกค้าได้รับเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำของโมเดลและเครื่องมือ GenAI รวมทั้งรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจที่หลากหลายได้อย่างง่ายดายมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ”