Wednesday, December 4, 2024
InnovationNEWS

สกสว.วางแผนผลิตนักวิจัยให้ได้ 4.2 แสนคน สิ้นปี 70

สกสว.

สกสว. เปิดเวทีผนึกกำลังเครือข่ายเมธีวิจัยอาวุโส และศาสตราจารย์วิจัยดีเด่นเพื่อหารือแนวทางพัฒนานักวิจัยและส่งเสริมศักยภาพนักวิจัยในระบบ เป้าหมายเพิ่มบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม 4.2 แสนคน หรือ 40 คน ต่อประชากรหมื่นคน

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดการประชุม ระดมความคิดเห็นจากเครือข่ายเมธีวิจัยอาวุโสและศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น เพื่อร่วมออกแบบการผลิตและพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ

โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยชั้นนำของประเทศเข้าร่วมหารือถึง ทิศทางการผลิตและพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม ใน 3 แผนงานที่เกี่ยวข้องกับ การพัฒนาการวิจัยขั้นแนวหน้า, การเพิ่มจำนวนและพัฒนาบุคลากรวิจัยของประเทศ และการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกำลังคนและศูนย์กลางการเรียนรู้ เพื่อการพัฒนาบุคลากรวิจัยใน 3 ประเด็น ได้แก่ งานวิจัยขั้นแนวหน้า อุตสาหกรรม และสังคมศาสตร์ ให้มีศักยภาพพร้อมรับการพัฒนาประเทศในอนาคต

ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.)

ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ ทิศทางการขับเคลื่อนระบบ ววน.ของประเทศ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างและพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้สอดรับกับทิศทางการพัฒนาประเทศตามนโยบาย ววน.

ความสำคัญประการหนึ่งคือ จำเป็นต้อง สร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถและทักษะที่หลากหลาย ที่มีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายในอนาคต ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยที่อยู่ในระบบ ววน. ในปัจจุบัน

ผ่านกลไกต่างๆ เช่น การสนับสนุนทุนวิจัย การอำนวยความสะดวกในการทำงานวิจัย การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ การส่งเสริมนักวิจัยรุ่นใหม่ และการสนับสนุนโครงการวิจัยระยะยาวแบบต่อเนื่องหลายปี เป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพอันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

ระดมสมองหาโซลูชันการพัฒนาวงการนักวิจัย

ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวเพิ่มเติมว่า สกสว. ได้เล็งเห็นศักยภาพของเมธีวิจัยอาวุโสและศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักวิจัยชั้นนำที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติและนานาชาติ

อีกทั้งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทีมและบ่มเพาะนักวิจัยรุ่นใหม่ จึงเป็นที่มาของการจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อร่วมออกแบบกรอบทิศทางการผลิตและพัฒนาบุคลการวิจัยและนวัตกรรมให้สอดคล้องกับแผนด้าน ววน. พ.ศ. 2566-2570 ของประเทศ

ประกอบด้วย 1) การวิจัยขั้นแนวหน้าที่สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้านวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ รวมถึงการประยุกต์ใช้และพัฒนาต่อยอดสู่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมขั้นแนวหน้า 2) การยกระดับการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์และนวัตกรที่มีทักษะสูงให้มีจำนวนมากขึ้น

3) การพัฒนาการเป็นศูนย์กลางกำลังคนทักษะสูงที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และศูนย์กลางการเรียนรู้ที่มีความร่วมมือด้านการวิจัยการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของสถาบันหรือศูนย์วิจัยกับเครือข่ายระดับนานาชาติอย่างเข้มแข็งในวงกว้าง

การประชุมครั้งนี้ สกสว. มุ่งหวังที่จะผนึกกำลังจากนักวิจัยระดับแนวหน้าของไทยในการร่วมกำหนดโจทย์การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรับมือความท้าทายในอนาคต และต่อยอดผลงานวิจัยออกสู่การใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

ตลอดจนร่วมระดมความคิดเห็นในการพัฒนาศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ให้พร้อมสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศด้วย ววน. ทั้งการวิจัยพื้นฐานและขั้นแนวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ตลอดจนการวิจัยเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

นอกจากนี้สกสว. ยังมีแผนที่จะจัดเวทีประชุมร่วมกับกลุ่มนักวิจัยรุ่นใหม่ในโอกาสถัดไป เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดยข้อเสนอแนะจากการประชุมจะถูกนำไปใช้ในการวางแผนบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมของประเทศในระยะยาวต่อไป

งบประมาณสร้างนักวิจัย นักวิจัยสร้างชาติ

ดร.นพ.สิริฤกษ์ ประธานฯ กสว. อธิบายว่า “ประเทศไทยมีสัดส่วนนักวิจัยประมาณ 15 คน ต่อ ประชากรหมื่นคน ซึ่งน้อยกว่าประเทศอื่นในระดับการพัฒนาที่เคียงกัน ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 40 คนต่อประชากรหมื่นคน”

“คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (กสว.) ได้กำหนดนโนบายและการตั้งเป้าหมายการเพิ่มจำนวนนักวิจัยรุ่นใหม่ในหมวดหมู่ต่างๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาด อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ ยานยนต์ไฟฟ้า เรื่องใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีควอนตัม การเพิ่มจำนวนนั้น กสว. ต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานผลิตนักวิจัยในภาคการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัย”

“ในแง่ของงบประมาณที่ใช้ในการเพิ่มจำนวนและพัฒนาบุคลากรวิจัยของประเทศนั้น ได้รับการจัดสรรไว้ราว 1 ใน 3 ของงบประมาณ 8 พันล้าน จากงบประมาณปี 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้รับการจัดสรรราว 1.93 หมื่นล้านบาท”

งบประมาณดังกล่าวจะนำมาผลักดัน ยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคน ในแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมของประเทศ พ.ศ. 2566 – 2570 โดยตั้งเป้าหมายด้านกำลังคนของ ววน. ไว้คือ ผู้มีความสามารถพิเศษโดดเด่นระดับโลก 3.8 หมื่นคน (Global League (0.1%))

บุคลากรวิจัยและนวัตกรรม 4.2 แสนคน หรือสัดส่วน 40 คน ต่อประชากรหมื่นคน กําลังคนทักษะสูง 15.2 ล้านคน คิดเป็น 40% จาก 38 ล้านคน

ผู้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา สาขา STEM 1.6 แสนคน หรือ 50% จาก 3.2 แสนคน และเยาวชนผู้สมัครสอบ TPAT ความถนัดทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ สาขา STEM 3.1 แสนคน จาก 6.3 แสนคน