ทรู คอร์ปอเรชั่น ย้ำความสำคัญ Responsible AI พร้อมผลักดันแนวคิดการใช้ AI อย่างยั่งยืน
“ทรู คอร์ปอเรชั่น ย้ำความสำคัญของการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Responsible AI พร้อมผลักดันแนวคิดการใช้ AI อย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม
ทรู คอร์ปอเรชั่น ผุดแนวคิด Responsible AI บนเวที ASEAN Economic Outlook 2025: The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity โดยชูศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ และศูนย์ข้อมูลในการเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจและลดต้นทุน
พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือระดับภูมิภาคในการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ในฐานะองค์กรแรกในประเทศไทยที่นำแผนพัฒนาการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Responsible AI ของสมาคมจีเอสเอ็มมาปฏิบัติ ทรู คอร์ปอเรชั่นพร้อมผลักดันแนวคิดการใช้ AI อย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม
ชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ประเทศไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์สู่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและโทรคมนาคม-เทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ภายใต้ระบบนิเวศทางธุรกิจที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ”
“เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรเหล่านี้ เราจำเป็นต้องร่วมมือกันในระดับภูมิภาค ผลักดันการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีความรับผิดชอบในทุกมิติของ ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างหลักประกันว่าปัญญาประดิษฐ์จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ทั้งในประเทศไทยและนานาประเทศ”
คาดการณ์ว่าปัญญาประดิษฐ์จะเป็นตัวเร่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยอาจสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ GDP ของอาเซียนสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 (อ้างอิงจากการศึกษาของ McKinsey & Company)
ในส่วนของทรู คอร์ปอเรชั่น ได้นำปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ปรับกระบวนการทำงานสู่ระบบอัตโนมัติ และลดการใช้พลังงาน ซึ่งสอดคล้องในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายใน 2573 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
ชารัด กล่าวต่อไปว่า “ปัญญาประดิษฐ์ได้ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในการใช้บริการ โดยเพิ่มความเร็วในการให้บริการ ณ ศูนย์บริการถึง 35% พร้อมทั้งนำเสนอแชทบอตอัจฉริยะที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน”
“นอกจากนี้ ปัญญาประดิษฐ์ยังช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของเรา โดยสามารถลดการใช้พลังงานในหน่วยงานได้สูงสุดถึง 15% ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านการรักษาสภาพภูมิอากาศของเรา”
ภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากปัญญาประดิษฐ์ โดยเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการพลิกโฉมหลากหลายภาคส่วน ทั้งด้านสาธารณสุข การผลิต และการตลาด ในส่วนของทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ก้าวล้ำนำหน้าด้วยการริเริ่มกลยุทธ์สำคัญ อาทิ การเพิ่มหน่วยงาน Chief Customer & AI Officer ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กร
“ในการอภิปรายหัวข้อ “การพัฒนาและอนาคตของปัญญาประดิษฐ์และศูนย์ข้อมูลในอาเซียน” ทรู คอร์ปอเรชั่นได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์อย่างมีจริยธรรมและรับผิดชอบ โดยเน้นย้ำความสำคัญของกฎบัตรด้านจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท”
“และการนำแผนพัฒนาการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีความรับผิดชอบของสมาคมจีเอสเอ็มมาประยุกต์ใช้ พร้อมทั้งตอกย้ำความจำเป็นในการสร้างกรอบการคุ้มครองข้อมูลที่เข้มแข็ง และผลักดันให้เกิดการวางแผนในระดับชาติเกี่ยวกับจริยธรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้างหลักประกันด้านความเป็นธรรมและความโปร่งใส”
“นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้นำเสนอวิสัยทัศน์ในการใช้ปัญญาประดิษฐ์และศูนย์ข้อมูลเพื่อลดช่องว่างทางดิจิทัลระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างโอกาสการจ้างงาน และส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติและการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน”
“ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับบริการด้านปัญญาประดิษฐ์และศูนย์ข้อมูล ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค” ชารัด กล่าวสรุป