Thursday, November 21, 2024
ArticlesDigital TransformationMarTech

อนาคตของการสร้าง Customer Experience

จากปัจจัยหลายๆ ประการ ทั้งโรคระบาด ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล พฤติกรรมของลูกค้า ได้สร้างความต้องการและการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่วันย้อนกลับ นี่คือ เทรนด์การสร้าง Customer Experience ที่ผู้เขียนคาดการณ์ไว้ถึงความสัมพันธ์ที่มีส่วนร่วมระหว่าง คน องค์กร ธุรกิจ และเทคโนโลยี

งค์กรรวมถึงพนักงานต่างก็ปรับตัวอย่างถาวรให้เข้ากับวิธีการทำงานในรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนรูปแบบการทำงานไปอย่างสิ้นเชิงจาก COVID-19 ในขณะเดียวกัน แบรนด์ก็ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริการเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า การสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า (Customer Experience: CX) จึงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

เราได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการมอบประสบการณ์ของลูกค้า การบริการลูกค้าได้ขยายพรมแดนผ่านช่องทางหลากหลาย อีกทั้งยังมีการพัฒนาวิธีการใหม่ๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้รับบริการได้มากขึ้น บริษัทหลายแห่งได้พยายามเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าให้แก่แบรนด์ของตนมากขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่คล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังมีลูกค้ากลุ่มเดียวกันด้วย

บทความโดย: กิบู แมทธิว VP and GM, APAC, Zoho Corp

ผู้นำทางธุรกิจกำลังเริ่มหันกลับมามองว่าพฤติกรรมใดที่เกิดขึ้นในช่วงการระบาดของ COVID-19 จะหายไปบ้าง หรือพฤติกรรมใดจะยังคงเกิดขึ้นอยู่ ประเด็นสำคัญที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือเทรนด์การสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่ผู้เขียนได้ลองคาดการณ์ไว้ ความสัมพันธ์ที่มีส่วนร่วมระหว่าง คน องค์กร และธุรกิจ

1. CEO จะเป็นผู้นำในการทำ Digital Transformation (DX)

แม้ว่าการเปลี่ยนโฉมด้วยดิจิทัลนั้นได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่เคย การให้ความสำคัญแก่ DX อย่างเร่งด่วนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นมากจนกลายเป็นความท้าทายต่อความอยู่รอดของธุรกิจ

การเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัลนี้ไม่ได้เพียงเข้าไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในเท่านั้น แต่ยัง ได้ขยายขอบเขตไปทั่วระบบนิเวศของธุรกิจโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกค้าต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ผ่านช่องทางดิจิทัลในปัจจุบัน

จากรายงานข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค (Consumers respond to waves of disruption June 2022 Global Consumer Insights Pulse Survey) โดย PwC กล่าวว่า ช่องทางยอดนิยมที่ชาวสิงคโปร์ซื้อผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ช่องทางออนไลน์ทั้งจากสมาร์ทโฟน ผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียงในระบบสมาร์ทโฮม และแท็บเล็ต

รายงานข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค (Consumers respond to waves of disruption June 2022 Global Consumer Insights Pulse Survey), PwC

ดังนั้น ในปี 2565 DX ที่เคยเป็นความรับผิดชอบของ CIO จึงมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนผ่านไปอยู่ใต้ความรับผิดชอบของ CEO โดยตรง ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าอย่างจริงจัง เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้านั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้จึงขึ้นอยู่กับ CEO ที่มีหน้าที่กำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจซึ่งใช้เทคโนโลยีและคำนึงถึงผลลัพธ์เป็นหลัก แทนที่จะใช้เทคโนโลยีสนับสนุนกลยุทธ์ที่มีอยู่เดิม

2. หลักการ BizOps จะพัฒนาไปสู่ระดับยุทธศาสตร์

การเปลี่ยนระบบเป็นดิจิทัลและการยกระดับกลยุทธ์ทางธุรกิจนั้นจะเกิดขึ้นพร้อมกัน การระบาดของ COVID-19 ได้เร่งการนำเฟรมเวิร์คในการพัฒนาธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ ความต้องการทางธุรกิจ (Business requirement) และความต้องการในเชิงเทคโนโลยี (Technical requirement) หรือ BizOps ไปปรับใช้ในองค์กร

ซึ่งเป็นทิศทางด้านกลยุทธ์ในการรวมกระแสข้อมูลจากส่วนธุรกิจต่างๆ เช่น การขาย การตลาด และการบริการลูกค้า เพื่อไม่ให้เกิดการตัดสินใจทางธุรกิจแบบไซโล การปรับใช้ BizOps ในเชิงกลยุทธ์จะเป็นเรื่องปกติในอนาคตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในองค์กร

ความสำคัญของทีม BizOps จะเพิ่มมากขึ้นอีกเนื่องจากเทคโนโลยีนั้นได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโต ไม่ใช่เป็นตัวเลือกอีกต่อไป

ในขณะที่หลายบริษัทได้นำโมเดล BizOps มาใช้แล้ว ในไม่ช้าพวกเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากโมเดลนี้เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่สูงขึ้นในการพัฒนาการบริการลูกค้าและสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น และถ้าหากมองถึงการดำเนินงานของแบรนด์ในปัจจุบัน ทีม BizOps จะเข้าไปเติมเต็มให้แก่ทีมธุรกิจและทีม IT ในการจัดการการเปลี่ยนแปลงภายในให้ราบรื่นยิ่งขึ้น และผสานรวมลูกค้าเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเหล่านี้

3. ประสบการณ์การบริการตนเองและการโต้ตอบลูกค้าได้อย่างชาญฉลาด

หลายๆ แบรนด์ต่าง ได้เริ่มนำประสบการณ์ดิจิทัลแบบบริการตนเองมาใช้แล้ว ซึ่งลูกค้าก็ชื่นชอบเพราะสามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานและการทำธุรกรรมได้ ซึ่งปัจจุบัน ลูกค้าต้องการควบคุมการซื้อขายและจัดการบัญชี ไปจนถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดและการปรับให้ตรงตามความต้องการส่วนตัวให้ได้มากที่สุด

ดังนั้นการใช้อินเทอร์เฟซสำหรับการสนทนาจะลดความซับซ้อนของกระบวนการเหล่านี้ลง โดยสามารถสร้างบทสนทนาให้เหมือนกับการคุยกับบุคคลจริงๆ เพื่อให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น

ยุคของ Zero UI ได้เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซล่องหน โดยจะรับคำสั่งจากการแสดงท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว เสียง และท่าทาง อันจะเป็นที่ต้องการจากหลายองค์กรในไม่ช้านี้ ส่วนในด้านของผู้บริโภค การใช้ Zero UI เพิ่มขึ้นเพื่อตั้งค่าสมาร์ทโฮมแสดงให้เห็นว่าพวกเขาคาดหวังว่าจะต้องมี Zero UI อยู่ในสินค้าอุปโภคบริโภคภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

4. Trust-by-design จะเป็นความคาดหวังจากลูกค้าและเป็นเป้าหมายสูงสุดของแบรนด์

จากรายงาน The State Of Privacy In Asia Pacific: A Wake-Up Call For Marketers ของ Forrester นักการตลาดในเอเชียแปซิฟิก 59% ปฏิบัติตามข้อกำหนดขั้นต่ำตามกฎหมาย คุ้มครองข้อมูลส่วนข้อมูล และมีเพียง 30% เท่านั้นที่พัฒนากลยุทธ์เฉพาะที่เอาไว้ใช้สื่อสารกับผู้บริโภคเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ตัวเลขเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น

ที่มา: รายงาน The State Of Privacy In Asia Pacific: A Wake-Up Call For Marketers, Forrester

อีกทั้งผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไปใช้แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น รวมถึงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลผู้บริโภคมากกว่าเดิม และยังมีแนวโน้มที่จะจ่ายในราคาที่สูง ซึ่งสามารถพบเห็นได้ในกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมากและยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเรื่อยๆ

5. แพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบครบวงจรจะเป็นตัวเลือกที่คนใช้กัน

ในขณะที่องค์กรต่างๆ ได้เร่งการเปลี่ยนระบบไปเป็นดิจิทัล พวกเขาต่างกำลังใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบครบวงจรเพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากแพลตฟอร์มแบบครบวงจรจะเป็นแอปพลิเคชันที่ดีที่สุดที่มีการผสานรวม ยังจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่อีกด้วย

เพราะสามารถทำหน้าที่เป็นร้านค้าครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าถึงบริบทของลูกค้า ระบบอัตโนมัติ การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว

ในระยะยาว แพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ทำงานได้อย่างราบรื่นจะช่วยลดความเสี่ยงของเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นและความเสี่ยงทางการเงินจากการใช้งานแอปพลิเคชันแพตช์เวิร์คจากผู้ให้บริการโซลูชัน

อนาคตอันใกล้ของ CX

โดยรวมแล้ว เราได้เห็นแบรนด์พยายามพัฒนา CX มากยิ่งขึ้น เนื่องจากความคาดหวังและพฤติกรรมของลูกค้าได้เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และดำเนินงานให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ในขั้นนี้ ขณะที่เรายังคงปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เราคาดการณ์ว่าในเดือนต่อๆ ไปจะสำคัญสำหรับการพัฒนา การลดความซับซ้อน และนำแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศของ CX มาใช้ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงขององค์กรต่อไป การปฏิบัติสิ่งเหล่านี้เป็นการกรุยทางให้ CX ว่าจะเป็นไปในทิศทางใดในอนาคตอันใกล้ไม่กี่ปีต่อจากนี้