ประกันภัยไทยวิวัฒน์ เพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้าประกันภัยรถยนต์ ด้วยการเสนอ “การประกันรถเปิดปิด แบบคุ้มครองนานถึง 2 ปี” ย้ำมุ่งมั่นเรื่อง “คุ้มค่าทุกวินาที คุ้มครองครบ 24 ชั่วโมง”
“ประกันภัยไทยวิวัฒน์”ยกระดับนวัตกรรมเพื่อเพิ่มทางเลือก “ประกันรถเปิดปิด”พร้อมตอกย้ำเรื่อง“คุ้มค่าทุกวินาที คุ้มครองครบ 24 ชั่วโมง” ด้วยการนำเสนอกรมธรรม์ประกันรถเปิดปิดแบบคุ้มครองนานถึง 2 ปี พร้อมฟีเจอร์ Auto Top-up เติมชั่วโมงการใช้งานแบบอัตโนมัติรายแรกของประเทศไทย มอบส่วนลดพิเศษทั้งลูกค้าเก่าและใหม่สูงสุด 1,000 บาท ดีเดย์ 4 ตุลาคมนี้
เดินหน้าผนึกความร่วมมือพันธมิตรขยายสิทธิพิเศษรองรับทุกไลฟ์สไตล์ เติมเต็มอิสระการใช้ชีวิตคนยุคใหม่ พร้อมเปิดตัวบริการ MARS Garage นวัตกรรม AI เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินไหมรถยนต์ และส่งแบรนด์แคมเปญใหม่ ภายใต้แนวคิด “คิดเผื่อทุกวินาที คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต” สร้างกิมมิคเพิ่มสีสันการตลาด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน InsurTech
เทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI ผู้นำนวัตกรรมด้าน Insur Tech เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เดินหน้ายกระดับนวัตกรรมพลิกโฉมอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ประเทศไทยอีกครั้ง กับการนำเสนอกรมธรรม์ “ประกันรถเปิดปิด” แบบคุ้มครองนานถึง 2 ปี
ซึ่งช่วยให้ผู้เอาประกันประหยัดค่าเบี้ยประกันสูงสุดถึง 80% เมื่อเทียบจากประกันรถแบบรายปีทั่วไป ตอกย้ำความมุ่งมั่นเรื่อง “ความคุ้มค่าทุกวินาที คุ้มครองครบ 24 ชั่วโมง” จ่ายค่าเบี้ยตามเวลาที่ขับจริง จอดไว้ไม่ขับไม่ต้องจ่าย แต่ให้ความคุ้มครองครบตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากการสร้างนวัตกรรม Insur Tech ด้านการ เปิด-ปิด อัตโนมัติด้วย TVI Connect แล้ว กรมธรรม์“ประกันรถเปิดปิด” แบบคุ้มครองนานถึง 2 ปี ยังมาพร้อมกับสุดยอดนวัตกรรม Insur Tech ใหม่ล่าสุดของทางบริษัทคือการ Auto Top-up เติมชั่วโมงการใช้งานแบบอัตโนมัติ
โดยชั่วโมงการใช้งานในกรมธรรม์ ประกันรถแบบเปิดปิดจะถูกเติมโดยอัตโนมัติเพื่อตัดปัญหาผู้เอาประกันภัยเรื่องการลืมการเติมชั่วโมงความคุ้มครอง ตอกย้ำแนวทางการดำเนินธุรกิจของทางบริษัท “คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต”
โดยผู้ที่สนใจทำประกัน หรือต่ออายุประกันรถเปิดปิด แบบ Top-up แผนคุ้มครอง 2 ปี ทุกประเภท ภายในวันที่ 4 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2565 จะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 1,000 บาท พร้อมรับชั่วโมงการใช้งานเพิ่มฟรี 20 ชั่วโมง เมื่อสมัคร Auto Top-up ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaivivat.co.th
นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ขยายความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจ เพิ่มสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ คลาสออกกำลังกายสุด Exclusive กับ WE Fitness สำหรับลูกค้าประกันสุขภาพ, ที่จอดรถพิเศษ Thaivivat Parking ในห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล และ HAUP CAR และบริการล้างรถฟรี โดย Wizard Car Wash และ Instawash สำหรับลูกค้าประกันรถยนต์ และส่วนลด AIS SIM2Fly สำหรับลูกค้าประกันเดินทาง เป็นต้น
รวมทั้งยังได้เปิดตัวการบริการใหม่ของ บริษัท MARS – Deep Tech Startup ที่ประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้ร่วมก่อตั้ง จากที่เปิดตัวไปแล้วกับ MARS Inspect ซูโลชั่น AI เช็กสภาพรถยนต์ก่อนทำประกันภัย สู่การบริการด้วยนวัตกรรมอีกระดับหนึ่งคือ MARS Garage นวัตกรรมที่มาพลิกโฉมการบริการจัดการสินไหมรถยนต์
โดยการนำระบบ AI มาประมวลผล ประเมินการซ่อมรถ อย่างแม่นยำ และเรียลไทม์ ทำให้บริษัทและลูกค้าประกันรถยนต์ได้รับการบริการที่รวดเร็วและได้มาตรฐาน ช่วยเติมเต็มอิสระการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่อย่างไม่สะดุด และคุ้มค่าในทุกช่วงเวลา
เทพพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่องแล้ว ประกันภัยไทยวิวัฒน์ยังให้ความสำคัญกับอีกมิติในด้านของความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะด้านการศึกษาของเด็กและเยาวชน เพราะตระหนักและเชื่อมั่นว่าการศึกษาเป็นรากฐานและแนวทางขับเคลื่อนการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
ซึ่งล่าสุดได้ร่วมมือกับโครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ สนับสนุนโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School Project) โครงการภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้ร่วมมือกับภาคเอกชน ผ่านหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมผลักดันแนวนโยบายและแผนบริหารจัดการโรงเรียนเพื่อยกระดับศักยภาพการเรียนการสอน สู่ Smart e-Learning Innovation พร้อมสนับสนุนด้านทุนการศึกษาอันเป็นลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงการศึกษา
ขณะเดียวกัน เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำด้าน Insur Tech ของ “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ที่มุ่งเดินหน้าคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อแก้ทุก Pain Point ยกระดับคุณภาพทุกชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ล่าสุดบริษัทฯได้จัดแคมเปญทางการตลาดใหม่ ภายใต้แนวคิด “คิดเผื่อทุกวินาที คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต” ให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าทุกวินาที และ คุ้มครองครบตลอด 24 ชั่วโมง โดยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านโฆษณาชุดใหม่ ซึ่งจะเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2565 นี้เป็นต้นไป