Thursday, November 21, 2024
NEWS

ไต้หวัน จัดมหกรรมงาน Smart City Summit & Expo – SCSE ครั้งที่ 10 พร้อมงาน Net Zero City Expo ครั้งที่ 1

ไต้หวัน เปิดเมืองจัดมหกรรมงาน Smart City Summit & Expo – SCSE ครั้งที่ 10  พร้อมงาน Net Zero City Expo ครั้งที่ 1 ยกทัพเทคโนโลยี

ต้หวัน เปิดจัดงาน Smart City Summit and Expo จัดขึ้นที่ไทเปตั้งแต่วันที่ 28 ถึง 31 มีนาคม และที่เกาสงในวันที่ 30 มีนาคมถึง 1 เมษายน ปีนี้สภาพัฒนาแห่งชาติ (NDC) ร่วมมือกับสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งไทเป

ร่วมจัดงาน “2050 Net Zero City Expo” ครั้งแรก พร้อมกับงานไทเป ที่เป็นมหกรรมแสดงสินค้าทั้งสามแห่งในไทเปและเกาสงโดยมีบูธทั้งหมด 1,950 บูธ ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% จากเดิม

และมีบริษัทที่เข้าร่วม 550 แห่ง  พร้อมการจัดแสดง แอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT)  สำหรับเมืองอัจฉริยะและโซลูชันช่วยลดการปล่อยมลพิษก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์   รวมถึงฟอรัมด้านเทคโนฯที่น่าสนใจ จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำมากกว่า 60 รายการ ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกมากกว่า 120,000 ราย

ชิ ชิง (Chee Ching)  ประธาน Taiwan Smart City  Solution Alliance และประธานของ Far EasTone Telecommunications  กล่าวว่า  งานแสดงสินค้าในปีนี้ได้ขยายพื้นที่จัดงานเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์  เมื่อเทียบจากเดิม มาจาก 42 ประเทศและกว่า 115 เมืองใหญ่ที่มาเข้าร่วมงาน

รวมถึงผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูง (VIP) มากกว่า 1,000 คน จากหลากหลายประเทศมาร่วมงานในครั้งนี้  โดยเทียบปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ยังมีตัวแทนธุรกิจที่เข้ามาเยี่ยมชมงานสูงเป็นประวัติการณ์ในครั้ง อาทิ มาเลเซีย, ไทย, บราซิล, สาธารณรัฐเช็ค, โปรแลนด์, มองโกเลีย และ ฮังการี เป็นต้น

ทางด้านสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งไทเปได้จัดการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สถาบันอุตสาหกรรมสารสนเทศ สถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และสมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีน ได้จัดธุรกิจทวิภาคี 13 แห่ง การประชุมที่ตรงกัน ประเทศที่เกี่ยวข้องในการจับคู่

ได้แก่ สหราชอาณาจักร บราซิล ฮังการี สหรัฐอเมริกา ไนจีเรีย มาเลเซีย เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและบริษัทต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ชาร์ลส์ วาย.พี. หวาง (Charles Y.P. Huang) รองเลขาธิการสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งไทเป  เผยว่ารัฐบาลเมืองไทเป รัฐบาลเมืองเกาสง และสภาพัฒนาแห่งชาติร่วมกันจัดงานนิทรรศการในปีนี้ ในพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ เช่น “Smart Healthcare”, “Smart Building” และ “Smart Education” ร่วมกับคณะกรรมาธิการร่วมของไต้หวัน, Taiwan Intelligent Building Association และ กลุ่มDigital Education

ชาร์ลส์ วาย.พี. หวาง เสริมอีกว่า จากการคาดการณ์ของ International Energy Agency ในการใช้พลังงานในเมืองต่างๆ ทั่วโลกคิดเป็น 67% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 74% ภายในปี 2030

อย่างไรก็ตามเมืองต่างๆ จะเป็นด่านแรกในการป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและ ฟิลด์ที่จำเป็นสำหรับการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดงาน “2050 Net Zero City Expo” เมืองในประเทศและต่างประเทศสามารถเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และวิธีการในการบรรลุการปล่อยมลพิษให้เป็นศูนย์

การจัดงานครั้งนี้จะเป็นตัวช่วยเร่งพัฒนาความก้าวหน้าของไต้หวันไปสู่การปล่อยมลพิษที่เป็นศูนย์ และช่วยเหลือองค์กรในประเทศและต่างประเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโซลูชั่นต่างๆ ที่ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เสนอโดยอุตสาหกรรม

สภาพัฒนาแห่งชาติ (NDC) ได้เผยแพร่แผนงานการปล่อยมลพิษที่เป็นศูนย์ของไต้หวันในปี 2050 เมื่อปลายเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งได้จัดทำแผนการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์พร้อมกันในปีนี้ งาน “2050 Net Zero City Expo” จัดขึ้นครั้งแรกในปีนี้

โดยมี NDC, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงเศรษฐกิจ, หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม, กระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร, สภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ จัดงาน Net Zero ของไต้หวัน Vision Pavilion ซึ่งมีผลประกาศที่สำคัญทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้การประชุมสุดยอดผู้นำเมืองครั้งนี้ มีตัวแทนจากรัฐบาลกว่า 50 คนจากเมืองต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วม จะเป็นกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศครั้งแรกของไต้หวันเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์

และจากผลกระทบของสภาพอากาศที่รุนแรงและการแพร่ระบาดของโควิด-19 การกำกับดูแลความยั่งยืนขององค์กรได้กลายเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน และประเทศที่ก้าวหน้าทั่วโลกต่างเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กรมากขึ้น

ได้แก่ TATUNG COMPANY, Taiwan Secom Co, Kwang Yang Motor Co., Ltd. และ TECO ELECTRIC & MACHINERY เข้าร่วมนิทรรศการ Net Zero City ครั้งแรกที่มี ESG เป็นธีมหลัก โดยจัดแสดงความสำเร็จในด้านสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ภายในงานยังมีกลุ่มสตาร์ทอัพ ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการแลกเปลี่ยนของนิทรรศการในปีนี้ โดยมีสตาร์ทอัพ 10 รายที่นำสตาร์ทอัพทั้งในและต่างประเทศ 87 รายเข้าร่วมในพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการไทเป  ในจำนวนนี้มีบริษัทจากต่างประเทศ 49 แห่ง คิดเป็น 56% ขณะที่ 38 แห่งเป็นบริษัทในประเทศ คิดเป็น 44% สมาคมคอมพิวเตอร์ไทเปได้วางแผน “Net Zero Startup Theme Zone” ในพื้นที่นิทรรศการของเกาสง โดยคัดเลือก 8 โรงเรียน

เช่น National Sun Yat-sen University, National Kaohsiung University of Science and Technology, Kaohsiung Medical University, National Cheng Kung University, Pingtung University of Science and Technology, I-Shou University, Fu Jen Catholic University

และบริษัทสตาร์ทอัพ 16 แห่ง เพื่อจัดแสดงผลงานวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ และบริการ ผู้จัดงานแบ่งนิทรรศการออกเป็น 3 หัวข้อหลักได้แก่ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเกษตรกรรมยั่งยืน เทคโนโลยีและวัสดุที่เป็นนวัตกรรมสุทธิเป็นศูนย์  และบริการและผลิตภัณฑ์สุทธิเป็นศูนย์ โดยหวังว่าจะรวมทรัพยากรและความพยายามมากขึ้นเข้ากับงานด้านพลังงานสีเขียวและยั่งยืนในท้องถิ่นผ่านการแลกเปลี่ยนและนิทรรศการ

งานครั้งนี้จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการไทเปหนานกัง ข้อมูลเพิ่มเติม https://en.smartcity.org.tw/index.php/en-us/ ส่วนไฮไลท์นอกเหนือจากงาน Expo แล้ว ทางนายกรัฐมตรีของไต้หวัน เฉิน เชียง-เจ็น (Chen Chien-jen) ยังให้เกียรติมาร่วมงานและกล่าวถึงงานในครั้งนี้ด้วย

พร้อมกันนี้ภายในงานนี้เวทีมอบรางวัลงาน “APICTA – Asia Pacific ICT Alliance” โดยจัดขึ้นในลักษณะพบหน้ากันอีกครั้งหลังจากล่าสุดที่จัดที่ปากีสถาน ซึ่งงานนี้ได้รับเกียรติจาก แอนเดรีย ถัง (Audrey Tang) รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของทางไต้หวัน หรือ MODA ได้ปาฐกถาพิเศษ พร้อมทั้งมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันด้าน ICT ทั้งเยาวชนและหน่วยงานเอกชนต่างๆ ภายในงานนี้