archiveกสิกรไทย

“กสิกรไทย จับมือ EdTech สถาบันการศึกษา และบริษัทเอกชนชั้นนำ รวม 35 องค์กร เสริมแกร่งทักษะดิจิทัลให้คนรุ่นใหม่ ผ่านแพลตฟอร์ม SKILLKAM

“กสิกรไทยเปิดตัว KONCIERGE+ แพลตฟอร์มแรกที่รวมโซลูชันเพื่อธุรกิจโรงแรม ครบทั้งจัดการห้องพัก บริหารการขาย และดูแลลูกค้า สร้างโอกาสทำกำไรให้ธุรกิจ

“ธนาคารกสิกรไทยเปิดแผนธุรกิจปี 2568 มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ขับเคลื่อนการเติบโต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการให้บริการลูกค้า

“กสิกรไทย คาดยอดผู้ใช้ K PLUS ปี 68 เพิ่มล้านราย เป็น 23.9 ล้านราย ชูความสำเร็จ ผู้นำดิจิทัลแบงกิ้งต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นบริการเวลธ์ที่ลูกค้าไว้วางใจ พร้อมสร้างความประทับใจ และมุ่งสู่ ROE เป็น 2 หลัก ปี 69

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขยายระยะเวลาโครงการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย 0% ต่อเนื่องอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 จากเดิมที่โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบันที่เศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวและการขยายตัวยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ โดยโครงการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตมีมาตรการดังนี้

มาตรการการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต

• ลูกค้าบุคคลที่ทำประกันภัยทุกประเภท (ยกเว้น พ.ร.บ.รถยนต์) ทั้งกรมธรรม์ใหม่และต่ออายุ และมีเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ต่อกรมธรรม์
• กรมธรรม์ประกันภัยที่มีผลคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2568 และชำระเบี้ยประกันภัยภายในระยะเวลาที่กำหนด
• การผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ 0% ได้นาน 10 เดือน
• การผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 0% ได้นาน 6 เดือน ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและในเครือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทีทีบี ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารยูโอบี และบัตรกรุงไทย (KTC)

ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0 2285 8888

“กสิกรไทยออกมาตรการช่วยน้ำท่วม พักชำระเงินต้น 6 เดือนและวงเงินเพิ่มเพื่อฟื้นฟูทั้งลูกค้าบุคคลและธุรกิจ หวังช่วยลูกค้าผ่านพ้นวิกฤติ

“เดอะวิสดอมกสิกรไทย ชี้ 3 โจทย์ใหญ่ไตรมาส 4 ปีนี้ จับตาการเมืองในยุโรป – เลือกตั้งสหรัฐ – รวมทั้งจับตานโยบายด้านเศรษฐกิจการค้า เตรียมรับแรงกระเพื่อมทั่วโลก การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

กสิกรไทยจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับแสนสิริ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย สนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 3 โครงการใหม่ ในพื้นที่ศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ เจริญนคร พัทยา และปทุมธานี ตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาสังคมที่อยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญในด้านการออกแบบ คุณภาพ การบริการ และความยั่งยืน

ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า แสนสิริเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญของธนาคาร และเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นการสร้างที่อยู่อาศัยและสังคมที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของธนาคารกสิกรไทยในการเป็น Bank of Sustainability ที่มุ่งเน้นส่งเสริมโครงการเพื่อความยั่งยืน โดยธนาคารได้ให้การสนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 5,000 ล้านบาทแก่แสนสิริ เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 3 โครงการในทำเลศักยภาพ ที่จะส่งมอบโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ควบคู่กับการสร้างสังคมที่น่าอยู่และยั่งยืน

อุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากธนาคารกสิกรไทยในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ใน 3 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ เจริญนคร พัทยาสาย 1  และปทุมธานี ซึ่งเป็นโครงการที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบ (Design) คุณภาพ (Quality) การบริการ (Service) และความยั่งยืน (Sustainability) ตามแผนธุรกิจของแสนสิริในปี 2567 ที่ตั้งเป้าเดินหน้าเปิดตัวอสังหาริมทรัพย์รวม 46 โครงการ มูลค่ารวม 61,000 ล้านบาท สูงสุดในอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นการตอกย้ำการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของแสนสิริและธนาคารกสิกรไทย

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในงาน Earth Jump 2024 : The Edge of Action    จัดขึ้นโดยธนาคารกสิกรไทย ในงานมีการเปิดตัวการจัดตั้ง “เครือข่ายธุรกิจเพื่อการจัดการสภาพภูมิอากาศประเทศไทย” (Thailand Climate Business Network: ThaiCBN) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย

โดย ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมกับ 25 องค์กรชั้นนำทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ เชื่อมโยงการทำงานของทั้ง 5 ภาคส่วน ได้แก่  ภาครัฐ ภาคเอกชน  ภาคการศึกษา ภาคการเงินและการธนาคาร องค์กรและธุรกิจต่างประเทศ เพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ไปด้วยกัน ตามแนวทางการดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่

1) เพื่อสร้างเครือข่ายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตลอดห่วงโซ่อุปทาน และผลักดันให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ งานวิจัย เทคโนโลยี แนวทางปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จ (Best Practice) 2) ส่งเสริมให้เกิดการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีต่างๆ ไปดำเนินการให้เกิดขึ้นจริง และ 3) เพื่อยกระดับศักยภาพของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมตลอดห่วงโซ่อุปทานให้พร้อมคว้าโอกาสใหม่ของธุรกิจในยุคเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ