“ตั้ง วง เล่า จากประสบการณ์สู่ชีวิตจริง เรื่องเล่าจาก CEO – MD ส่งพลังบวกแก่นิสิตนักศึกษา ในโครงการ AP OPEN HOUSE 2024
บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ ภายใต้คำมั่นสัญญา “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” เปิดโลกการเรียนรู้เป็นปีที่ 9 กับนิสิตนักศึกษาฝึกงาน ในโครงการ AP OPEN HOUSE 2024 กับกิจกรรม session สุดพิเศษที่ชื่อ “ตั้ง วง เล่า” ที่สอง พี่ใหญ่ของเอพี “อนุพงษ์ อัศวโภคิน” CEO และ “พิเชษฐ วิภวศุภกร” MD มาบอกเล่าประสบการณ์จริงที่ยากกว่าทฤษฎี พร้อมเปิดโอกาสให้น้องๆ Gen Z ได้พูดคุยถาม-ตอบ เรียนรู้แนวคิดในการทำงานและประสบการณ์ตรงของสองผู้บริหารรุ่นเก๋า
โดยมุ่งหวังให้น้องๆ นำไปปรับใช้ เตรียมตัวก่อนเข้าสู่ชีวิตการทำงานด้วยทัศนคติเชิงบวก เหมือนที่ผู้บริหารสองท่านกล่าวไว้ในหนังสือ “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” – เพราะเมื่อโลกยิ่งแย่ ใจเราต้องบวก ถ้าอยากมีชีวิตที่ดีก็ต้องเริ่มที่ Mindset ตัวเอง
ซึ่งเรื่องราวและแนวคิดต่างๆ ที่ผู้บริหารทั้งสองท่านได้มาแชร์นั้น ล้วนมาจากประสบการณ์จริงที่อยากแบ่งปันให้กับคนรุ่นใหม่ ส่วนหนึ่งมาจากเนื้อหาของ Pocket Book ที่มีชื่อเดียวกับวิสัยทัศน์องค์กร “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” ที่ได้แจกให้กับน้องๆ ทุกคน ก่อนได้ไปค้นหาคำตอบกันต่อ ถึงสิ่งที่ทำให้มีเอพี ในทุกวันนี้ ในกิจกรรม “ตั้ง วง เล่า” กับ อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ พิเชษฐ วิภวศุภกร กรรมการบริหาร บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ที่ได้มาร่วมเปิดมุมมองของชีวิตการทำงานจากประสบการณ์จริงมาเล่าให้น้องๆ นิสิตนักศึกษาได้ฟัง เพื่อให้สามารถนำไปต่อยอดการทำงานในอนาคตได้
อาทิ การทำงานร่วมกัน ซึ่งได้ยกตัวอย่างประสบการณ์การทำงานร่วมกันของทั้งสองท่าน ในฐานะพาร์ทเนอร์ ที่แม้ไม่ได้มีนิสัยใจคอที่เหมือนกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกัน จึงเคารพและให้เกียรติ ความแตกต่าง ให้จุดต่างมาเติมเต็มการทำงานร่วมกัน ควบคู่กับการปรับใช้แนวคิด Outward Mindset หรือ การนำใจเขามาใส่ใจเรา การรับฟังความต้องการ จุดประสงค์ และปัญหาของอีกฝ่าย โดยได้ส่งต่อแนวคิดนี้ให้กับพนักงานทุกคนในบริษัทจนพัฒนาสู่การเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้าง
“แนวคิด Outward Mindset ช่วยผมและคุณพิเชษฐ เปลี่ยนมุมมองในการมองสิ่งต่างๆ ให้เราสองคนมี ชีวิตที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมองคน ทำให้เข้าใจตัวเองและผู้คนรอบตัว และสามารถรับมือกับคนที่มี Generation ต่างกันได้อย่างเหมาะสม และบริษัทได้ดีคือผลที่ตามมา” อนุพงษ์ อัศวโภคิน กล่าว
พิเชษฐ วิภวศุภกร กล่าวเสริม “การที่น้องๆ ได้มาร่วมโปรแกรม AP OPEN HOUSE 2024 และได้พูดคุยกับเราสองคนในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนเสียเวลากับชีวิตตัวเองให้น้อยที่สุด สามารถนำแนวคิดและประสบการณ์ของพี่ๆ มาเป็นบทเรียน ให้เข้าใจและตัดสินใจในชีวิตการทำงานบนสายงานในอุตสาหกรรมที่เราชอบ และไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนจงเป็นแก้วเปล่าแล้วพยายามเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด”
หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม นุชจิรา โผลัย จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้เผยว่า “หลังจากที่ได้ฟัง อนุพงษ์ และ พิเชษฐ เล่าประสบการณ์ วิธีคิดต่างๆ เหมือนทำให้เราได้เข้าใจถึงที่มาของบรรยากาศภายในองค์กรที่เราได้สัมผัสตลอดการฝึกงาน พี่ๆ ในฝ่ายที่เปิดรับไม่เคยปิดกั้นไอเดียต่างๆ จากเรา
นอกจากนี้ยังรู้สึกประทับใจในความเปิดกว้างของทั้งสองท่านที่เปิดใจรับฟังพนักงานโดยไร้ซึ่ง Ego พร้อมสนับสนุนให้พนักงานกล้าตัดสินใจเป็น Independent Responsible Leader ในขอบเขตของตน”
ภูริยศ ชื่นวรกิตติพล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า “โดยส่วนตัว ผมรู้สึกสนใจเรื่อง Outward Mindset คิดว่าเป็นแนวคิดที่สามารถใช้ในชีวิตจริงได้ โดยเฉพาะคนในรุ่นเดียวกับผม ข้อมูลต่างๆ มีเยอะมากทั้งที่เราได้รับมาโดยตรงและจากในโซเชียลมีเดีย การที่ได้พยายามเรียนรู้ความต้องการ จุดประสงค์ และปัญหาของคนๆ หนึ่งทำให้เข้าใจคนๆ นั้นได้มากยิ่งขึ้น มองในมุมของคนๆ นั้นได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งผมรู้สึกได้ว่าพี่ๆ ที่เอพี เขาได้นำแนวคิดนี้มาปรับใช้จริงๆ ภายในองค์กร เพราะทุกคนพร้อมที่จะให้ความรู้กับเราในเรื่องต่างๆ ขณะเดียวกันก็รับฟังเราถึงแม้ผมเป็นเพียงแค่เด็กฝึกงาน”
AP OPEN HOUSE 2024 เป็นโปรแกรมฝึกงานเข้มข้นของเอพี ที่เปิดโอกาสให้น้องๆ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้มาเรียนรู้จากการทำงานจริง นอกเหนือจากทฤษฎีในชั้นเรียน ได้เห็นตลอดทั้งกระบวนการทำงานของทางเอพี ทั้งงานด้านวิศวกรรม การตลาด การขาย และนวัตกรรมดีไซน์ต่างๆ
โดยจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 กับกิจกรรมพิเศษกว่าที่เคย ให้น้องๆ ได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของสองผู้ก่อตั้งผ่านการพูดคุย และหนังสือ Pocket Book “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” ที่เรียบเรียงขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งต่อวัฒนธรรมองค์กรในแบบเอพี พอเป็นไอเดียว่า อดีตเป็นอย่างไร และจะนำไปสู่อนาคตของเอพีอย่างไร
นอกจากนี้ โปรแกรม AP OPEN HOUSE ยังคัดเลือกนิสิตนักศึกษาที่มีผลงานที่โดดเด่นจำนวน 4 คน ไปศึกษาดูงานกับ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ถึงที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย