Thursday, November 21, 2024
ArticlesEduTech

Soft Power พลังที่ช่วยสร้างอิทธิพลทางความคิด

Soft Power

ทำความเข้าใจถึงความสำคัญของ Soft Power และวิธีการนำไปใช้ในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของประเทศ ผ่านมุมมองของ เอริกา เมษินทรีย์ เช็น และ สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร

ฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันนับเป็นยุคที่การเชื่อมต่อกันระหว่างสังคมและเทคโนโลยีนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด “Soft Power” จึงเป็นคำศัพท์ที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น

ซึ่ง Soft Power เป็นคำที่มีความหมายตรงข้ามกับคำว่า Hard Power อย่างสิ้นเชิง ซึ่งนิยามของ Hard Power คือการใช้อำนาจ แต่ทว่านิยามของ Soft_Power นั้นคือ การสร้างอิทธิพลและกำลังใจให้กับผู้อื่น ด้วยการโน้มน้าวใจหรือการทำให้กลุ่มเป้าหมายคล้อยตามและชื่นชอบ โดยปราศจากการใช้อำนาจ

แต่จะใช้จุดเด่นด้านความแตกต่างทางวัฒนธรรมมาสร้างเสน่ห์ให้คนหลงรัก จนกลายเป็นความเชื่อถือและความไว้ใจ เช่น การใช้ภาษา ศิลปะ ดนตรี กีฬา การศึกษา วิทยาการและการวิจัย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ความเชื่อมั่น และการสนับสนุนจากคนอื่นๆ เป็นต้น

ในบทความนี้ ได้หยิบยกส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์จาก เอริกา เมษินทรีย์ เช็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิน เดอะ ลีด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์ม Youth In Charge และ สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร Founder & CEO Saturday School ที่มาร่วมมาแบ่งบันประสบการณ์ ทำความเข้าใจถึงความสำคัญของ Soft_Power และวิธีการนำไปใช้ในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของประเทศ

ในแง่มุมของสังคมและวัฒนธรรม

การพัฒนาสังคมและวัฒนธรรมในปัจจุบัน การใช้ Soft_Power นับว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการช่วยส่งเสริมความเข้าใจและสร้างความสามารถให้กับประชาชนและสังคม ซึ่งการร่วมมือกันของหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการที่จะช่วยพัฒนาสังคมและวัฒนธรรมให้แพร่หลายไปในระดับสากล

โดยการช่วยส่งเสริมความเสมอภาค สนับสนุนสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรม เพื่อให้เกิดสัมพันธภาพและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้คนในสังคม รวมทั้งสนับสนุนศิลปะ วัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง พร้อมทั้งช่วยสร้างความเข้าใจและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน

เอริกา เมษินทรีย์ เช็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิน เดอะ ลีด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด

เอริกา ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า “Soft_Power ถ้าเรามองแล้วจริงๆ มันเป็นอะไรที่มีพลังและมีศักยภาพในการสร้างผลประโยชน์ให้กับประเทศ ให้กับคนไทยเยอะแยะมากมาย ดังนั้น ทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงานควรหลุดออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นความไม่คุ้นเคยกับการทำงานข้ามสาย หรือการร่วมมือกันกับหน่วยงานอื่นๆ”

“เพราะในอนาคตหากเราต้องการจะอยู่รอด ประสบความสำเร็จ หรือต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้และยั่งยืน จะต้องเกิดการทำงานร่วมกันที่จริงจังมากกว่านี้แน่นอน”

“ดังนั้น การจะผลักดันให้ Soft_Power ของไทยแพร่หลายไปในระดับสากลได้นั้น ความตั้งใจของบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคงไม่พอ สิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งคือ ต้องมีการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่จำนวนเงินที่สนับสนุนเท่านั้น

แต่จำเป็นต้องพึ่งพานโยบายต่างๆ และต้องมีการวางแผนการปฏิบัติตามแผนอย่างถูกต้อง จึงจะสามารถพัฒนาและสร้างความเจริญก้าวหน้าในสังคมและวัฒนธรรมได้อย่างยั่งยืน”

ในแง่มุมของการพัฒนาการศึกษา

การที่จะสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพขึ้นมาในสังคมได้นั้นหนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ การศึกษา เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความรู้และพัฒนาตนเองได้แล้วนั้น สิ่งนี้ยังสามารถเป็นตัวกำหนดทิศทางของประเทศได้

สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร Founder & CEO Saturday School

ยกตัวอย่างเช่น การส่งเสริมทรัพยากรความหวังและอนาคตของประเทศให้มี Soft Skill ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรากฐานและกระบวนการสร้าง Soft_Power เพราะหากประเทศมีการส่งเสริมการศึกษาที่ถูกทิศทาง

ตลอดจนวางแผนการผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ ย่อมทำให้ประเทศมีต้นทุนที่เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพในการสร้างประเทศให้ก้าวหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง

โดย สรวิศ กล่าวว่า “อยากให้เราเชื่อมั่นในศักยภาพของเด็กแต่ละคนว่าเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้ แม้ว่าเราจะมีพื้นฐานและต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกัน และเชื่อว่าเด็กๆ จะเรียนรู้ได้ดีเมื่อเขาได้ทำในสิ่งที่เขาสนใจ”

“ดังนั้นการมุ่งพัฒนา Soft Skills ให้กับเด็กๆ ซึ่งจะติดตัวพวกเขาไปในอนาคตได้อย่างดีเยี่ยม การมุ่งพัฒนาและดึงศักยภาพของทุกคนจากภายใน จะช่วยเสริมสร้าง Growth Mindset ให้เขาเป็นคนดี และอยากแบ่งปันให้ผู้อื่น”

“ดังนั้น การพัฒนา Soft Skill ในเด็กๆ จึงไม่เพียงแค่สร้างสรรค์ทักษะที่เป็นประโยชน์ในอนาคตเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานและเป็นกระบวนการสำคัญที่จะส่งเสริมให้เกิด Soft_Power ในระดับบุคคลและสังคมได้ ผ่านการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้และกิจกรรมนอกห้องเรียน ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนและแทรกซึมอย่างเป็นธรรมชาติ”

“ซึ่งนับว่าเป็นผลโดยอ้อมที่ช่วยส่งผลถึงค่านิยมและหลงใหลในวัฒนธรรม จนเกิดเป็นบุคคลในรูปแบบที่ต้องการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ สามารถเรียนรู้ได้ตลอด และสามารถเป็นพลังขับเคลื่อน Soft_Power ของไทยให้แพร่หลายไปในระดับสากลได้ในอนาคต”

Soft_Power อาจเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะไกลตัว แต่ในความเป็นจริงแล้วใกล้ตัวกว่าที่คิดกันไว้มาก เนื่องจาก Soft_Power นั้นสามารถส่งผลต่อความคิดและทัศนคติให้คนคล้อยตามได้แบบที่ไม่รู้ตัว เป็นตัวช่วยในการสร้างอิทธิพลทางความคิดด้วยการเชื่อมถึงกันด้วยวิธีการที่ไม่ใช่การบีบบังคับ ซึ่งนับว่าเป็นผลโดยอ้อมที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนของ Soft Power

ดังนั้น เพื่อสร้างเสริมความแข็งแกร่งและความสำเร็จของประเทศในยุคที่มีการเชื่อมต่อระหว่างสังคมและเทคโนโลยี รวมไปถึงการเปิดโอกาสให้ผู้คนได้แสดงความคิดและเสรีภาพมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดแล้วนั้น Soft_Power จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสร้างอิทธิพลและความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งในระดับนานาชาติได้ต่อไป

Featured Image: Image by Lifestylememory on Freepik