เอสซีจีตอกย้ำศักยภาพธุรกิจไทยในงาน World Expo 2020 Dubai ชูนวัตกรรมสินค้าและโซลูชัน ตอบโจทย์ Better Living ใน Thailand Pavilion
เมื่อเร็วๆ นี้ เอสซีจี ได้ไปร่วมออกบูทในฐานะผู้สนับสนุน Thailand Pavilion ในงาน World Expo 2020 ที่จัดขึ้น ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 21 – 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา
โดยเอสซีจี ได้นำเสนอสินค้าและโซลูชันจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจเคมิคอลส์ และธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP) ภายใต้แนวคิด “Innovation for Better Living” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
โดยสินค้าและโซลูชันต่าง ๆ จากเอสซีจี ต่างได้รับความสนใจจากผู้เยี่ยมชมบูทเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสินค้าวัสดุก่อสร้างอย่าง ปูนมอร์ตาร์สำหรับงานก่อสร้างด้วย 3D printing ที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานในหลากหลายประเภท SCG Fretwork วัสดุตกแต่ง Façade จากไฟเบอร์ซีเมนต์ที่มีความหนาแน่นสูง ทนทาน
และสามารถออกแบบลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ได้ OptiBreath® บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยคงความสดของผัก ผลไม้ให้นานขึ้น ด้วยเทคโนโลยีของฟิล์มที่ช่วยควบคุมการผ่านเข้าออกของก๊าซและไอน้ำ ทำให้ผัก ผลไม้หายใจได้และคายน้ำในปริมาณที่เหมาะสม FybroZealTM โซลูชันบรรจุภัณฑ์กระดาษที่แข็งแรง ปิดผนึกด้วยความร้อนได้ พิมพ์สวย ง่ายต่อการรีไซเคิล รวมไปถึง SCG GREEN POLYMER™ โซลูชันนวัตกรรมพลาสติกที่ตอบโจทย์การใช้งานและส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม
โดยในพิธีเปิดงานได้รับเกียรติจาก อบิจิต ดัดต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ วราวุธ ภู่อภิญญา เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ร่วมในพิธีเปิด พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดีและชมการจัดแสดงบูทภายในงาน นำโดย ชัยรัตน์ ศิริวัฒน์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ และ ดร. กษิติธร ภูภราดัย รองผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ในฐานะ Thailand Pavilion Director
อบิจิต ดัดต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “เอสซีจี รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากผู้เยี่ยมชมบูทจากนานาชาติ โดยเราได้นำเสนอนวัตกรรมสินค้าและโซลูชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ รวมไปถึงเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการ
โดยมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ทางเอสซีจีมองว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจ ประสบการณ์จากการร่วมออกงานระดับโลกในครั้งนี้จะช่วยให้เราเข้าใจถึงความต้องการเฉพาะของลูกค้าในภูมิภาคนี้ได้ดียิ่งขึ้น สร้างโอกาสในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจรวมไปถึงความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ ๆ และคู่ค้าในเขตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน กาตาร์ และอีกหลากหลายประเทศ
ซึ่งตลอดระยะเวลาการออกบูทภายในงานดังกล่าวได้รับรายงานว่า Thailand Pavilion มีโอกาสต้อนรับผู้เข้าชมโดยเฉลี่ยมากกว่า 8,000 คนต่อวัน โดยศูนย์การแสดงไทยพาวิลเลียน ติดอันดับ 5 ของโลก จาก 192 ประเทศ ที่มีคนมาเยี่ยมชมศูนย์การแสดงมากที่สุด และมียอดคนแชร์คลิปในโซเชียลมากเป็นอันดับ 1 ของโลก เอสซีจีรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอนวัตกรรมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าชมจากทั่วโลกในครั้งนี้”
ทั้งนี้เอสซีจีเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทชั้นนำของอาเซียนที่ดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environmental, Social and Governance) ด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาคเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เอสซีจีจึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชันเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ด้วยการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สินค้า บริการ และโซลูชันของเอสซีจี เป็นหนึ่งในตัวช่วยในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุกคน เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และยังเป็นการช่วยโลกด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูท SCG ในงาน World Expo 2020 Dubai แบบ 360 องศาผ่าน Virtual เวบไซต์ ได้ที่ www.scg.com/worldexpodubai