“ลองพิจารณาถึงทิศทางการทำงานปี 2023 และทักษะที่คนทำงานควรมีติดตัว เป็นทักษะแบบ Cross-cutting ซึ่งเป็นที่ต้องการสำหรับกลุ่มงานสำหรับโลกยุคใหม่ เพื่อก้าวสู่อนาคต
ช่วงที่ผ่านมา เราได้ยินเรื่อง The Great Resignation ที่คนทำงานพร้อมใจกันลาออก โดยมีผลสำรวจชี้แนะว่าหลายคนเลือกย้ายไปสู่งานที่ดีกว่า ซึ่งนั่นทำให้ดูเหมือนอำนาจการต่อรองได้ย้ายมาสู่มือพนักงาน แต่ในปี 2023 นี้ สถานการณ์ยังเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า เมื่อโลกยุคนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และยังมีข่าวเรื่องการ Layoff รวมถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยอยู่ไม่ขาด
ลองมาเรียนรู้ทิศทางของการทำงานปี 2023 และทักษะที่คนทำงานควรมีติดตัว เพื่อก้าวสู่อนาคตที่ต้องการได้อย่างมั่นคง
เรียนรู้โลก: โลกการทำงานปี 2023 จะหมุนไปทางไหน
ในระยะสั้น อาจกล่าวได้ว่า ชีวิตของคนทำงานพ้นช่วง Honeymoon ที่ลาออกและเปลี่ยนงานได้อย่างที่ต้องการมาแล้ว เพราะเหตุผลอย่างการที่หลายบริษัทอาจยับยั้งการจ้างงานเนื่องจากกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอย นิตยสาร Forbes เองได้วิเคราะห์ตลาดงานอเมริกาในปี 2023 ไว้ว่า คนทำงานจะเปลี่ยนงานบ่อยๆ ได้ยากขึ้น และข้อเสนอดีๆ ก็จะมีน้อยลง
อย่างไรก็ตาม พนักงานยังคงมีอำนาจต่อรองในระยะยาว เพราะในหลายประเทศจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ขณะที่มีคนวัยทำงานและผู้อพยพลดลง ทำให้องค์กรจ้างและรักษาพนักงานเอาไว้ได้ยากกว่าเดิม แต่สิ่งที่ควรระวังคือ ตัวเราเองมีศักยภาพพอที่จะต่อรองเมื่อโอกาสมาถึงหรือไม่
เพราะในปัจจุบัน งานรูปแบบเก่าที่คนทำงานคุ้นเคยกำลังถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี พร้อมกับมีงานใหม่ๆ เกิดขึ้น ส่งผลให้คนทำงานที่พัฒนาทักษะตอบโจทย์ตลาดแรงงานไม่ทันต้องตกงาน ขณะเดียวกัน ตลาดก็ขาดแคลนคนเข้ามาทำงานตำแหน่งใหม่เหล่านี้ จนเกิดเป็นปัญหาขาดแคลนแรงงานทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่คนทำงานควรทำคือ การพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่บริษัทยังคงต้องการเสมอ และเมื่อมีโอกาส ก็ก้าวสู่เส้นทางใหม่ได้ทันที แต่ในโลกที่ไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงเร็ว เราควรพัฒนาทักษะอะไรเพื่อตอบโจทย์อนาคต?
วิชาชีวิต: ทักษะไหนที่โลกการทำงานอนาคตมองหา
รายงานจาก World Economic Forum ได้พูดถึงทักษะสำหรับคนทำงานที่น่าสนใจคือ Cross cutting skills หรือทักษะที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายงาน ด้านล่างนี้คือตัวอย่าง 5 ทักษะแบบ Cross cutting ซึ่งเป็นที่ต้องการสำหรับกลุ่มงานสำหรับโลกยุคใหม่
- Business Management: ทักษะเฉพาะทางในการดำเนินธุรกิจ การวางกลยุทธ์ การบริหารจัดการ และสภาวะการเป็นผู้นำ ตลอดจนความรู้ความเข้าใจในทีมและองค์กร สามารถนำไปใช้ได้กับกลุ่มงานอย่างPeople and Culture และ Marketing
- Data Science: ทักษะการนำข้อมูลซึ่งเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการตัดสินใจทางธุรกิจ มาวิเคราะห์เชิงลึกและคาดการณ์ความเป็นไปได้เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน รวมถึงสร้างความเชี่ยวชาญในการวางนโยบาย และการบริหารจัดการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อรองรับข้อมูลจำนวนมาก ทักษะนี้ใช้ได้กับกลุ่มงานอย่าง Data and AI และ Product Development
- Product Marketing: ทักษะการวางแผนเชิงกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าสู่ตลาดและสร้างจุดยืน พร้อมนำเสนอจุดเด่นและเรื่องราวของผลิตภัณฑ์นั้น ทักษะนี้เหมาะกับกลุ่มงานอย่าง Product Development และ Data and AI
- Digital Marketing: ทักษะการทำการตลาดบนโลกโซเชียล ใช้ได้กับกลุ่มงานอย่าง Marketing และ Data and AI
- Artificial Intelligence: ทักษะด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่เรียนรู้เกี่ยวกับระบบประมวลผลของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเหมาะกับกลุ่มงานด้าน Data and AI และ Cloud Computing
จนถึงตอนนี้ คุณคงเห็นแล้วว่า หลายทักษะด้านบนไม่ใช่สิ่งที่เราเคยเรียนรู้ตอนปริญญาตรี และอีกหลายทักษะคือสิ่งที่ต้องอัปเดตเพื่อตอบโจทย์งานใหม่ๆ ในตลาด คำถามถัดมาคือ เราควรเรียนรู้ ลับคมทักษะเหล่านี้ที่ไหนและด้วยวิธีไหน
โรงเรียนชีวิต: เทรนด์การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
ไม่ใช่แค่โลกการทำงานที่เปลี่ยนไป โลกการศึกษาก็หมุนเร็วเพื่อตอบโจทย์ผู้เรียนให้ทัน ทุกวันนี้ มีการเรียนออนไลน์แบบ Self-Paced Learning ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเรียนเมื่อไรก็ได้ตามจังหวะของตัวเอง ผู้เรียนไม่ต้องจัดเวลาตามตารางของสถานศึกษาหรือลาออกจากงานประจำเพื่อเรียนต่อ
นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรออนไลน์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังร่วมทำกับเอกชนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ช่วยให้เราเข้าถึงความรู้จากสถานศึกษาคุณภาพได้สะดวก โดยรูปแบบการเรียนที่มีทั้งเรียนเพื่อรับประกาศนียบัตร และเรียนเพื่อรับปริญญาออนไลน์ ซึ่งมีศักดิ์และสิทธิ์ไม่ต่างจากปริญญาจากการเรียนในสถานที่จริง
ถึงโลกการทำงานจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คนไทยที่อยากเพิ่มหรือลับคมทักษะจึงมีช่องทางเข้าถึงความรู้รับมือโลกอนาคตอยู่เสมอ บนโลกออนไลน์ใกล้ตัวเรานั่นเอง
Featured Image: Image by macrovector on Freepik