Thursday, November 21, 2024
AIHealthTechNEWS

ฟิลิปส์ เปิดตัวเครื่องเอ็มอาร์ไอ Philips MR7700 ใช้ AI ช่วยการสแกนและประมวลผล

Philips MR7700

ฟิลิปส์ เปิดตัว Philips MR7700 เทคโนโลยีด้านการตรวจวินิจฉัยสุดล้ำ ครั้งแรกในไทย ชูเทคโนโลยี AI และ SmartSpeed เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ป่วย

ริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Philips MR7700 เครื่องเอ็มอาร์ไอ (MRI) 3.0T รุ่นใหม่ล่าสุดครั้งแรกในประเทศไทย มาพร้อมเทคโนโลยีเอไอ (AI) และเทคโนโลยี SmartSpeed เพื่อการสแกนที่เร็วขึ้นถึง 3 เท่า และให้ภาพที่คมชัดมากขึ้นถึง 65% เมื่อเทียบกับ Philips SENSE

ยังโดดเด่นด้วยฟีเจอร์ multi-nuclei imaging ช่วยให้การตรวจวินิจฉัยสามารถตรวจพบโรคได้ในระยะเริ่มต้น หรือระดับ molecular ช่วยยกระดับกระบวนการทำงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ป่วย

วิโรจน์ วิทยาเวโรจน์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฟิลิปส์ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ เราไม่หยุดที่จะพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจรักษาให้กับผู้ป่วย ในครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราได้นำเทคโนโลยีด้านการตรวจวินิจฉัยระดับโลกเข้ามาในวงการเฮลท์แคร์ในประเทศไทย”

“เพื่อเตรียมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการด้านสาธารณสุขในประเทศไทย สำหรับเครื่องเอ็มอาร์ไอ (MRI) Philips_MR7700 เป็นเครื่องเอ็มอาร์ไอรุ่นใหม่ล่าสุดที่ฟิลิปส์เพิ่งเปิดตัวในงาน RSNA เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีจุดเด่นที่เทคโนโลยี AI และเทคโนโลยี SmartSpeed ที่ช่วยให้สแกนได้เร็วขึ้น 3 เท่า และได้ภาพคมชัดมากขึ้น 65% เมื่อเทียบกับเครื่องเอ็มอาร์ไอรุ่นก่อนที่ใช้เทคโนโลยี Philips SENSE”

ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการสแกนและประมวลผล

เครื่อง Philips_MR7700 ถือเป็นเครื่อง MRI รุ่นใหม่และล้ำสุดของฟิลิปส์ซึ่งนอกจากการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการสแกนและประมวลผล แล้วยังมาพร้อมฟีเจอร์การสแกนและประมวลผลแบบหลายนิวเคลียส ซึ่งจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการของผู้ป่วยได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หรือจะใช้สำหรับการวิจัยทางคลินิกก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้เครื่อง_Philips MR7700 ยังมาพร้อมอุโมงค์ที่กว้างขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายในขณะเข้ารับการตรวจ

Philips_MR7700 เป็นเครื่องเอ็มอาร์ไอรุ่นล่าสุดของฟิลิปส์ที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) จากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นเครื่องตรวจวินิจฉัยที่สนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์