Friday, November 22, 2024
NEWS

เมืองไทยประกันภัย เผยผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2565 เบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้น 14.4% กำไรพุ่ง 477.9 ล้านบาท

บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการ 6 เดือนแรก ปี 2565 ด้วยเบี้ยประกันภัยรับ รวมที่สูงถึง 7,980.5 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 14.4 กำไรสุทธิ 477.9 ล้านบาท

นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI

วลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทฯ มีผลประกอบการโดยรวมเติบโตเป็นที่น่าพอใจ เฉพาะไตรมาสที่ 2 มีกำไรสุทธิ 242.0 ล้านบาท มาจากการบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดี

ส่งผลให้ครึ่งปีแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 7,980.5 ล้านบาท เติบโตจากปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 14.4 ในขณะที่อัตราส่วนสินไหมปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน จากการบริหารความเสี่ยงในการจัดทำประกันภัยต่ออย่างเหมาะสม ทั้งประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและภาคบังคับ ทำให้เบี้ยประกันภัยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 28.5

บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัย นอกเหนือจากประกันภัยรถยนต์, ประกันภัยขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Marine Carco), อัคคีภัย และ PA บริษัทได้เล็งเห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพ เพื่อรองรับความเสี่ยงในชีวิตของตนเองและครอบครัว จึงได้พัฒนาประกันสุขภาพ Health me+ (เฮลมีพลัส) เน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการประกันสุขภาพ ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกด้าน

ภาพรวมของเบี้ยประกันที่ถือเป็นรายได้สำหรับปี 2565 มีจำนวน 4,077.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 325.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.7 นอกจากนี้รายได้ค่าจ้างและบำเหน็จก็ยังเพิ่มขึ้น 47.8 ล้านบาท มาจากการเอาประกันภัยต่อที่เพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง กำไรจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายดำเนินงานมีจำนวน 299.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 97.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48.4 ในส่วนกำไรและรายได้จากการลงทุน มีจำนวน 289.8 ล้านบาท กำไรสุทธิปีนี้ จำนวน 477.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 25.7 ล้านบาท

นวลพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในครึ่งปี ที่ผ่านมานั้น วงการประกันภัยเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องสำหรับเมืองไทยประกันภัย เราพร้อมเดินหน้าอย่งเต็มกำลัง บูรณาการการทำงานแบบ 360 องศา รวมทุกคนเป็น One Team ด้วยการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนา อย่างไม่หยุดยั้ง พยายามมองหาและสร้างโอกาสภายใต้วิกฤตอยู่เสมอ โดยประสบการณ์ที่ผ่านมายังเป็นสิ่งย้ำเตือนผู้บริหารและพนักงานของเราทุกคนเสมอว่า ความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน นั่นคือการมองทุกอย่างว่าอยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยง ที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ ทุกมิติการทำงาน”