“เมืองไทยประกันชีวิต ส่งประกันสุขภาพเหมาจ่ายสุดฮอต “Health จุใจ IPD+OPD” จัดแคมเปญ Summer So Strong ช่วยเพิ่มความอุ่นใจ หายห่วงเรื่องค่ารักษา พร้อมสิทธิพิเศษสุดคุ้มถึง 2 ต่อ
สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้ารุกตลาดประกันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำกระแสความแรงของ โครงการ Health จุใจ IPD+OPD ครบ คุ้ม สุขภาพที่เต็มอิ่ม โดดเด่นด้วยความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่ายแบบผู้ป่วยใน (IPD)
และเลือกคุ้มครองสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ที่คุ้มครองตั้งแต่โรคเล็ก โรคร้ายแรง โรคทั่วไป อุบัติเหตุ แอดมิตก็เหมาจ่ายตั้งแต่บาทแรกในวงเงินเดียวสูงสุด 200,000 บาทต่อครั้ง ไม่จำกัดครั้ง
นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานได้ทุกโรงพยาบาล และดูแลค่ารักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) เหมาจ่ายสูงสุด 50,000 บาทต่อปี พร้อมดูแลยาวถึงอายุ 99 ปี มีให้เลือกได้จุใจถึง 4 แพ็ค คือ S M L และ XL เบี้ยประกันภัยแพ็คเล็กเริ่มต้นเพียงเดือนละไม่ถึง 1,056 บาท
พร้อมส่งแคมเปญรับลมร้อน Summer So Strong สำหรับผู้สนใจ โครงการ Health จุใจ IPD+OPD โดยมอบความคุ้มให้อีกถึง 2 ต่อ โดยต่อที่ 1 เมื่อเลือกซื้อแพ็ค M L หรือ XL แล้วเลือกชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายปี
รับส่วนลดเบี้ยปีแรก 10% เพียงกรอกโค้ด JUJAI10 และต่อที่ 2 รับโปรโมชันผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน เมื่อชำระเบี้ยประกันภัยขั้นต่ำ 10,000 บาท ผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือรับโปรโมชันผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน ผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารยูโอบี ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย (เฉพาะการชำระเบี้ยประกันภัยต่อกรมธรรม์ ในปีแรกเท่านั้นและสำหรับการซื้อแบบประกันใหม่เท่านั้น) โดยสิทธิพิเศษเริ่มตั้งแต่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2567
“เมืองไทยประกันชีวิต เรามีความมุ่งมั่นในการสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกคนในสังคม (Democratizing Insurance) พร้อมเดินหน้าออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างเข้าใจและเข้าถึงได้จริง เพื่อเป็นส่วนช่วยให้ทุกคนได้มีความอุ่นใจ มีหลักประกันที่มั่นคง
และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ตามแนวนโยบายสำคัญของบริษัทฯ ที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรด้วยการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติสิ่งแวดล้อม (Environment) มิติสังคม (Social) และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance and Economy) หรือ ESG เพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย” สาระ กล่าว