Wednesday, December 4, 2024
NEWS

ลุมพินี วิสดอมฯ ระบุ LEED ND มาตรฐานพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ลุมพินี วิสดอมฯ ระบุมาตรฐาน LEED ND เป็นมาตรฐานสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ประพันธ์ศักดิ์  รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)

ระพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ระบุว่า ปัจจุบันการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ประเภทที่ผสมผสานการใช้งานหลากหลายรูปแบบหรือ Mixed-Use

โดยมีการพัฒนาโครงการประเภทที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก เข้าไว้ในพื้นที่เดียวกัน เป็นที่นิยมกันมากขึ้น เนื่องจากที่ดินที่มีจำกัดในพื้นที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจของเมือง (Central Business District : CBD) การพัฒนาโครงการในรูปแบบบ Mixed-Use สามารถสร้างการรับรู้รายได้ทั้งจากการขายและรายได้จากการเช่า ทำให้ผู้พัฒนาโครงการสามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว

จากการสำรวจของ LWS พบว่าปัจจุบันในประเทศไทยโดยเฉพาะในทำเลศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ เช่น พระราม 4, อ่อนนุช, บางนา มีการพัฒนาโครงการประเภท Mixed-Use มูลค่ารวมเกือบล้านล้านบาทในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา(2561-2565)   ได้แก่ โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค, เดอะ ฟอร์เรสเทีย, วัน แบงค็อก, แบงค็อก มอลล์, เมกะ ซิตี้ บางนา เป็นต้น

การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ แล้ว การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบกับชุมชน และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ดังนั้นการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ดังกล่าว จำเป็นต้องพัฒนาโครงการโดยนำมาตรฐานการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกระบวนการก่อสร้างที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน และสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ที่อยู่อาศัยและใช้งานในพื้นที่โครงการดังกล่าว

จากผลการศึกษาของ LWS พบว่า ปัจจุบัน US Green Building Council (USGBC) องค์กรที่สร้างมาตรการในการพัฒนาอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการพัฒนามาตรฐานอาคารเขียวใหม่ที่เรียกว่า LEED-ND (Leadership in Energy and Environmental Design Neighborhood Development) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ออกมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืนสำหรับชุมชน ผ่านระบบการให้คะแนนในองค์รวม โดยหัวข้อที่ LEED-ND ให้ความสำคัญมีดังนี้

 – Smart Location & Linkage (SLL) มุ่งเน้นไปที่การเลือกสถานที่ตั้งของโครงการให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการพัฒนาที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทำให้ต้องพึ่งพารถยนต์ และอาจก่อให้เกิดการรุกล้ำซึ่งเป็นอันตรายต่อธรรมชาติ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญถึงรูปแบบการเชื่อมต่อกับพื้นที่ข้างเคียง เพราะถ้าหากไม่คำนึงถึงจุดนี้ ก็อาจสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน

 – Neighborhood Pattern & Design (NPD) มุ่งเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรกับคนเดินเท้าโดยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงร้านค้า, บริการและพื้นที่สาธารณะได้อย่างสะดวก มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งชุมชนใกล้เคียง

 – Green Infrastructure & Buildings (GIB) มุ่งเน้นไปที่มาตรการในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการก่อสร้างและการบริหารอาคาร ใช้เทคโนโลยีที่ยั่งยืนเพื่อช่วยลดของเสีย ใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจใช้มาตรฐานอาคารเขียวในการก่อสร้างแต่ละอาคารร่วมด้วยเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการก่อสร้างอาคาร

หลังจากที่มาตรฐานดังกล่าวถูกนำมาใช้นอกจากการพัฒนาโครงการในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว มาตรฐานดังกล่าวยังถูกนำมาใช้ในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก อาทิ การพัฒนาโครงการ China Central Place โครงการประกอบด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรม และห้างสรรพสินค้า ที่ตั้งอยู่ติดกับย่านศูนย์กลางธุรกิจในกรุงปักกิ่งของประเทศจีน โครงการนี้อยู่ในช่วงพัฒนาและก่อสร้าง แต่ได้ผ่านมาตรฐาน LEED-ND ถึงระดับ Gold

HARUMI Flag เป็นอีกหนึ่งโครงการที่พัฒนาในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โครงการประกอบด้วย สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน สถานพยาบาล ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิดคาร์บอนต่ำ ผ่านแนวคิด Hydrogen Society ซึ่งเป็นการใช้ไฮโดรเจนที่เป็นพลังงานสะอาดภายในโครงการ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่นำมาตรฐาน LEED-ND มาใช้จนได้ Certificate ระดับ Gold

สำหรับประเทศไทย โครงการ วัน แบงค็อก (One Bangkok) พระราม 4 เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน อาคารชุดพักอาศัย โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก โดยโครงการพัฒนาภายใต้มาตรฐาน LEED-ND  และกำลังยื่นเรื่องกับ USGBC เพื่อให้ได้มาตรฐาน LEED-ND ในระดับ Platinum เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่พัฒนาโครงการภายใต้มาตรฐานนี้

โดยโครงการถูกออกแบบให้พื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งของโครงการเป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง ทั้งยังมีแนวคิดสู่ความยั่งยืน อาทิ แนวคิดเรื่องเมืองเดินได้, ระบบป้องกันน้ำท่วม, ลดปริมาณคาร์บอนฟุตปริ้นที่เกิดจากการใช้งานอาคาร เป็นต้น นอกจากนี้ แต่ละอาคารในโครงการก็ผ่านมาตรฐาน WELL ในระดับ Platinum ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเอาใจในสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคารอีกด้วย

“การพัฒนาโครงการภายใต้มาตรฐาน LEED-ND นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมแล้ว การพัฒนาโครงการโดยใช้มาตรฐานนี้ยังสร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นให้กับโครงการ จากการสำรวจของ LWS พบว่าโครงการที่พัฒนาภายใต้มาตรฐาน LEED-ND ในต่างประเทศมีอัตราค่าเช่าที่สูงกว่าอาคารสำนักงานปกติถึง 10-20% ในประเทศไทยถึงแม้จะยังไม่มีโครงการที่ได้มาตรฐาน LEED-ND แต่ที่ได้มาตรฐาน LEED และ WELL จะได้รับอัตราค่าเช่าที่สูงกว่าอาคารปกติประมาณ 15-20% เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับโครงการ

ดังนั้นการพัฒนาโครงการภายใต้มาตรฐาน LEED-ND จึงเป็นการสร้างมิติใหม่ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สำหรับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันและอนาคต” ประพันธ์ศักดิ์ กล่าว