เคทีซีผนึกพันธมิตร จัดงานเสวนา Start and Smart Tourism จุดเริ่มความท้าทายใหม่ของธุรกิจท่องเที่ยว
เคทีซีจัดงานเสวนา “Start and Smart Tourism จุดเริ่มความท้าทายใหม่ของธุรกิจท่องเที่ยวโดยมีพันธมิตรผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวและองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเข้าร่วมพูดคุยถึงทิศทางและการเตรียมความพร้อมของธุรกิจท่องเที่ยวรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักเดินทาง
เจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการ – การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการที่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศให้ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นปกติตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สัดส่วนการใช้จ่ายของสมาชิกผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดการเดินทางท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในหมวดดังกล่าวปรับตัวขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 5 ของพอร์ตการใช้จ่ายโดยรวม (จากอันดับที่ 11 ในปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19)
ทั้งนี้ เคทีซีได้เล็งเห็นถึงพฤติกรรมของนักเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ ความสนใจที่จะใช้บริการกับบริษัทนำเที่ยวมากขึ้น พร้อมที่จะเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย / กระแสการท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชน ไม่นิยมท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนพลุกพล่าน และการท่องเที่ยวแบบครอบครัวหรือการท่องเที่ยวแบบกลุ่มใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะปนกับบุคคลอื่นๆ
โดยจะพักอาศัยอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นระยะเวลานานๆ ไม่เปลี่ยนที่พัก หรือสถานที่บ่อยๆ เคทีซีจึงได้ปรับกลยุทธ์การตลาด จับมือพันธมิตรธุรกิจท่องเที่ยวร่วมกันเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับกระแสการท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมา ดังนี้
1) การมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรในการเดินทางท่องเที่ยวผ่านบัตรเครดิตเคทีซี – บางกอก แอร์เวย์ส และบัตรเครดิตเคทีซี – อโกด้า มาสเตอร์การ์ด
2) การชูจุดแข็งแกร่งของคะแนน KTC FOREVER สมาชิกสามารถใช้คะแนนแลกรับเป็นส่วนลดในการเดินทางท่องเที่ยวกับพันธมิตรธุรกิจท่องเที่ยว อาทิ สายการบิน บัตรเข้าชมสถานที่ และรถเช่า
3) การเปิดแพลตฟอร์ม Travel Hub ภายใต้คอนเซ็ปต์ “หา เรื่อง เที่ยว” เพื่อเป็นแหล่งรวมโปรโมชันด้านการท่องเที่ยว โดยเน้นการเดินทางท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงชุมชนต่างๆ กว่า 252 แห่งทั่วประเทศไทย ในส่วนของพันธมิตรธุรกิจ เคทีซีได้จัดแคมเปญ “เที่ยว อยู่ ได้” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยทางเคทีซีให้การสนับสนุนด้านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึงสิทธิประโยชน์ในด้านการส่งเสริมการขาย
4) การให้บริการด้านการท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านบริการ KTC World Travel Service เพื่อเป็นทางเลือกให้พันธมิตรได้ขยายช่องทางในการจัดจำหน่าย รวมถึงดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สำหรับการจองตั๋วเครื่องบิน แพ็คเกจท่องเที่ยว รถเช่า บัตรเข้าชมสถานที่ รวมถึงการให้บริการรับทำวีซ่า
อรินทร์ชยา บรรเจิดศิริ กรรมการกลาง สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)กล่าวว่า “สถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด ภาครัฐจึงได้ออกโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” เพื่อส่งเสริมและให้การสนับสนุนนักท่องเที่ยวชาวไทยให้กลับมาเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังตอบรับกับการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ อาทิ การเดินทางที่เสรียิ่งขึ้น รวมถึงการอนุญาตให้ธุรกิจบริการกลับมาเปิดกิจการได้มากขึ้นด้วย”
โชติช่วง ศูรางกูร Vice President สมาคมบริการท่องเที่ยว กล่าวว่า “นักท่องเที่ยวไทยให้ความสนใจในการเดินทางเที่ยวในต่างประเทศมากขึ้นหลังจากที่ไทยปิดประเทศมาสองปีครึ่ง แต่คงยังไม่ได้กลับมาท่องเที่ยวแบบทะลักทลาย
เนื่องจากประเทศที่เป็นที่นิยมของคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้เปิดเต็มรูปแบบ ถึงแม้จะไม่มีมาตรการกักตัว แต่ก็มีเรื่องอื่นๆ เช่น การขอวีซ่า การตรวจโควิด การซื้อประกันการเดินทาง และการลงทะเบียนเข้าประเทศก่อนเดินทาง ทำให้นักท่องเที่ยวไทยยังไม่ตัดสินใจเดินทาง ประกอบกับต้นทุนการเดินทางที่สูงขึ้น จากเดิมที่สูงอยู่แล้วจากสภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก การพุ่งขึ้นของค่าน้ำมันและอาหารจากสภาวะสงคราม ราคาตั๋วเครื่องบินที่สูงขึ้นเพราะจำนวนไฟลท์ที่น้อยลงไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ในขณะที่การแพร่ระบาดของโควิดกระทบเศรษฐกิจอย่างหนัก ส่งผลให้คนจำนวนมากมีปริมาณเงินในกระเป๋าลดน้อยลง ทางสมาคมฯ คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในปีนี้ประมาณ 1.2 ล้านคน
จากเดิมที่เคยทำสถิติสูงสุดไว้ที่ 11.2 ล้านคนในปี 2562 สำหรับช่วงไตรมาสที่ 3 ของงทุกปีเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศน้อยกว่าไตรมาสอื่นๆ อยู่แล้ว จึงต้องรอติดตามผลในไตรมาสที่ 4 ที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งหลายๆ ประเทศมีนโยบายที่จะเปิดเมืองมากขึ้นพร้อมกับผ่อนคลายมาตรการต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวลง”
จารุวรรณ พงษ์จารุวัฒน์ ผู้จัดการโครงการ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ กล่าวว่า “นักเรียนไทยสามารถทำวีซ่าไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ที่รัฐบาลนิวซีแลนด์จะเปิดรับนักเรียนต่างชาติ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนตุลาคม 2565 นักศึกษาต่างชาติทุกคนที่ผ่านเกณฑ์การรับเข้าเรียนต่อสามารถสมัครเรียนต่อและทำวีซ่านักเรียนได้อย่างเต็มรูปแบบ
โดยทางหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ได้ทำโปรโมชันพิเศษต้อนรับการเปิดประเทศด้วยการจ่ายค่าเล่าเรียนผ่านบัตรเครดิตเคทีซี รับคะแนน KTC FOREVER พิเศษ 4 เท่า และยังสามารถใช้คะแนนแลกจ่ายค่าเล่าเรียนได้อีกด้วย”
ศิริพร บัณฑิตย์จิรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) สำนักงานกรุงเทพฯ กล่าวว่า “ประเทศญี่ปุ่นมีความยินดีต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวไทยอีกครั้ง โดยสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน ศกนี้ เป็นต้นไป
โดยทาง JNTO พร้อมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นต่างให้ความสำคัญกับตลาดท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก ด้วยการโปรโมทให้ชาวไทยเดินทางเที่ยวชมเสน่ห์มุมมองใหม่ของญี่ปุ่นอีกครั้ง”
อริญชยา เลิศวัฒนชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี สำนักงานกรุงเทพฯ กล่าวว่า “อสท.เกาหลี เตรียมความพร้อมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ชูจุดเด่นสถานที่ท่องเที่ยวปลอดภัย (Safe Travels Destinations) ทั่วประเทศ
ภายใต้แคมเปญ “Travel to Korea, Begins Again” จัดกิจกรรมพิเศษ อาทิ กิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวและรับของที่ระลึกพิเศษที่สนามบินอินชอน รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน มอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ ตั๋วเครื่องบิน สถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และ อื่นๆ อีกมากมาย”
นิโคลัส ลิม ผู้จัดการสำนักงานการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ประจำประเทศมาเลเซียและบรูไน กล่าวว่า “การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board – STB) เดินหน้าเผยแผนสร้างความเชื่อมั่น เปิดรับ นักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบโดสจากทั่วโลก มาพบประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้นิยามใหม่ ‘SingapoReimagine’ ให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางมาสัมผัสสิงคโปร์ในมุมมองใหม่เหนือจินตนาการ พร้อมชู 4 หัวใจหลัก “ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน-สุขภาพดี-ประสบการณ์อาหารที่หลากหลาย-สถานที่เที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจ”
ณัฐินีฐิติ ภิญญาปิญชาน์ ตัวแทนการท่องเที่ยวปีนังประจำประเทศไทย กล่าวว่า “มาเลเซียเปิดพรมแดนต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เมื่อวันที่1 เมษายน 2565 การท่องเที่ยวปีนังกำลังเจรจากับ สายการบินและภาคธุรกิจเพื่อเปิดเส้นทางการเดินทางเข้าสู่ปีนังให้มากขึ้น
โดยในเดือนสิงหาคม 2565 การท่องเที่ยวปีนังจะจัดโรดโชว์ที่กรุงเทพฯ และหาดใหญ่ภายใต้ธีม “Experience Penang” เพื่อโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เพิ่งได้รับรางวัลระดับโลก เช่น ปีนังฮิลล์ ป่าฝนปฐมภูมิอันเขียวชอุ่มที่มีอายุ 130 ล้านปี ที่เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลกจากยูเนสโก (UNESCO) รวมถึงสตรีทอาร์ท และแหล่งรวมอาหารท้องถิ่นชื่อดัง จนทำให้ CNN จัดอันดับให้ปีนังเป็น หนึ่งใน 22 สถานที่ดีที่สุดที่ควรไปเยือนในปี 2565