“แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่โลกนี้จะไม่มีระบบการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ แต่ด้วยหลายเหตุผลที่ไม่มีใครเลือกที่จะอยู่ในโลกที่ปราศจากความปลอดภัยทางไซเบอร์
โลกที่ไม่มีระบบการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์
วิทาลี คัมลัก ผู้อำนวยการทีมวิจัยและวิเคราะห์ระดับโลก (GReAT) เอเชียแปซิฟิก ได้บรรยายในหัวข้อ จะเกิดอะไรขึ้นถ้า… โลกที่ไม่มีระบบการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์? ในการบรรยาย วิทาลีได้ตั้งคำถามถึงสถานการณ์การลงทุนด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาทั่วโลก
โดยให้ข้อมูล การคาดการณ์ถึงค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 460 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าของปี 2564 และเกือบเท่ากับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศไทย (520 พันล้านดอลลาร์)
และตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงลงทุนอย่างมากในการรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ และมันอาจจะดีกว่าถ้าจะประหยัดเงินทั้งหมดนี้เพื่อไปทำอย่างอื่น?
คำตอบในเรื่องนี้นั้น วิทาลี ให้ความเห็นว่า “แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่โลกนี้จะไม่มีระบบการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ แต่ด้วยหลายเหตุผลที่ไม่มีใครเลือกที่จะอยู่ในโลกที่ปราศจากความปลอดภัยทางไซเบอร์ นั่นเพราะจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ เช่น ไม่มีการเข้ารหัส ไม่มีความเป็นส่วนตัว ไม่มีความลับ ไม่มีการควบคุมการเข้าถึง และไม่มีการตรวจสอบความถูกต้อง”
สิ่งนี้คือ การเปิดประตูออกกว้างที่สุดและพร้อมต้อนรับอาชญากรไซเบอร์ รอให้ผู้ร้ายเหล่านั้นใช้ประโยชน์จากข้อมูลของผู้คนและองค์กร ตั้งแต่ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลส่วนบุคคลด้านสาธารณสุข แผนการเดินทาง พฤติกรรมการใช้จ่าย และอื่นๆ
นอกจากนี้ยังรวมถึง โอกาสของการฉ้อโกงในการซื้อ-ขายสินค้า ซึ่งทุกคนสามารถอ้างสิทธิ์ในการซื้อและโอนเงินได้ หากไม่มีการควบคุมการเข้าถึงธุรกรรมต่างๆ การแสดงความคิดเห็นส่วนตัวผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์และแบบสำรวจก็สามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของผู้อื่นได้ และจะไม่มีความเป็นส่วนตัวในโลกออนไลน์
โลกนี้จะไม่มีระบบการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ จะขาดการตรวจสอบความถูกต้อง ทำให้ข้อมูลข่าวสารขาดความน่าไว้วางใจ โดยข่าวปลอมและข้อมูลเท็จคาดว่าจะแพร่ขยายออกไป คุณไม่สามารถเชื่อถือเทคโนโลยีใดๆ ที่คุณใช้ ข้อมูลใดๆ ที่คุณอ่าน โดยพื้นฐานแล้ว ทุกสิ่งสามารถปลอมแปลงได้ในโลกที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
“ผมมองว่าโลกที่ปราศจากความปลอดภัยในโลกไซเบอร์เป็นโลกดิจิทัลที่ไม่มีใครสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุดที่เรามีอยู่ได้อย่างเต็มที่ หากไม่มีบริษัทและโซลูชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อปกป้องข้อมูลของเรา ตัวตนของเรา ข่าวสารที่เราใช้ และแอปพลิเคชันและอุปกรณ์ที่เราใช้ เราจะใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยง”
“และผมแน่ใจว่าจะไม่มีใครเลือกอยู่ในโลกที่วุ่นวายแบบนี้ ทุกวันนี้การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มักเป็นส่วนที่มองไม่เห็นในชีวิตของเรา ซึ่งเรามองข้ามไป แต่เราเป็นหนี้มันเกือบทุกอย่างที่เราประสบความสำเร็จ” วิทาลี กล่าวเสริม
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ถึงสิงหาคม 2565 แคสเปอร์สกี้ได้ตรวจพบและบล็อกการโจมตีจากภัยคุกคาม ซึ่งเป็นภัยประเภทมัลแวร์และเนื้อหาเว็บที่เป็นอันตรายกว่า 7.2 พันล้านครั้ง
