“ในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลก เราได้ริเริ่มโครงการ AI Kaohsiung เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม AI เฉพาะสำหรับไต้หวัน โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนช่วยยกระดับการจัดการเมือง
.หนึ่งในความท้าทายหลักของเกาสงในการก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ คือ การพัฒนาแพลตฟอร์ม Generative AI (GenAI) ที่พัฒนาขึ้นเองโดยใช้ข้อมูล LLM และ VLM ที่สร้างขึ้นจากเมืองเกาสง มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลท้องถิ่น เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนอย่างปลอดภัยและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของเมืองอย่างเข้มแข็ง พร้อมชูความเป็นเมืองอุตสาหกรรมด้านเซมิคอนดักเตอร์ และฐานผลิตสำคัญของโลก
ชาร์ลส์ ลิน (Charles Lin) รองนายกเทศมนตรีเมืองเกาสง เปิดเผยว่า ในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลก เราได้ริเริ่มโครงการ AI Kaohsiung เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม AI เฉพาะสำหรับไต้หวัน โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนนี้จะช่วยยกระดับการจัดการเมือง สนับสนุนอุตสาหกรรม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไต้หวันสู่ระดับโลก นำมาสู่การพัฒนา “Kaohsiung City GPT” ขึ้น ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ระดับเมืองที่พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเมืองเกาสง และภาคเอกชน NVIDIA และ Chunghwa Telecom
รวมถึงพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาท้องถิ่น แบบเฉพาะเจาะจงในพื้นที่ โดยการใช้ข้อมูลท้องถิ่นเฉพาะของเมืองเกาสงในการพัฒนา AI ให้สามารถเข้าใจในภาษาท้องถิ่น วัฒนาธรรม และตอบสนองความต้องการของประชาชนในเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“บทบาทหลักของแพลตฟอร์ม Kaohsiung City GPT มี 4 ด้านหลัก คือ 1.แก้ไขปัญหาที่เฉพาะเจาะจงในพื้นที่ Kaohsiung City GPT ใช้ชุดข้อมูลเฉพาะของเมืองเกาสง เพื่อให้ AI สามารถวิเคราะห์และตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนของประชาชนในภาษาท้องถิ่นได้อย่างแม่นยำ
2.ยกระดับประสิทธิภาพการบริการสาธารณะ ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และประมวลผลสถานการณ์ที่ซับซ้อน Kaohsiung City GPT สามารถให้คำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสาธารณะ เช่น การจัดการจราจร การจัดการพลังงาน และการดูแลสุขภาพ
ส่วนที่ 3.การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ การพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ในบ้านช่วยให้รัฐบาลควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลได้มากขึ้น ลดความเสี่ยงของการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และ
4.สร้างกรอบการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ด้วยระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ครอบคลุม โดยเน้นที่เทคโนโลยี LLM และ VLM เพื่ออำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหาของเมืองอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้แพลตฟอร์ม AI เมืองเกาสง ดังกล่าวนับเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI เมืองเกาสงมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐาน ถือเป็นการบูรณาการข้อมูลจากหลายแหล่ง ทั้งจากหน่วยงานต่างๆ ภาพจากกล้องวงจรปิด และข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT
โดยใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model -LLM) และโมเดลภาษาวิสัยทัศน์ (Vision Language Model -VLM) เพื่อให้ระบบสามารถเข้าใจสถานการณ์ที่ซับซ้อน และให้คำแนะนำแก่ภาครัฐในการบริหารจัดการเมือง รวมถึงการแก้ไขปัญหาของเมืองอย่างตรงจุด โดยมีการเก็บข้อมูลท้องถิ่นที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งจะช่วยยกระดับการให้บริการแก่ประชาชนและการดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ “เมืองเกาสง” ยังเมืองอุตสาหกรรมด้านเซมิคอนดักเตอร์ ไต้หวัน นับเป็นฐานผลิตที่ใหญ่และสำคัญของโลก ถือเป็นฐานที่ตั้งและกำลังเป็นหนึ่งในเมืองของไต้หวันที่มีโรงงานผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรถึง 5 แห่งในพื้นที่
โดยชิปดังกล่าวนี้เป็นที่ต้องการในตลาด AI , เทคโนโลยี 5G และคอมพิวเตอร์ควอนตัม โรงงานเหล่านี้มีกำลังการผลิตรวมกันมากกว่าล้านชิปต่อเดือน และยังเป็นซัพพลายเออร์หลักให้กับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Apple, NVIDIA และ AMD
รวมถึง TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ที่มีแผนขยายการลงทุนกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์อีกด้วย พร้อมยังได้ระบุเพิ่มเติมถึงโครงการ Kaohsiung Sovereign AI ซึ่งจะใช้ชิป 2 นาโนเมตรของ TSMC ควบคู่ไปกับ GPU ของ NVIDIA
ทั้งนี้โรงงานผลิตชิปไม่เพียงแต่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ยังสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทั้งการจ้างงานคนในท้องถิ่น ซึ่งในโรงงานหนึ่งแห่งต้องการวิศวกรราว 1,500 คน และแต่ละคนยังนำไปสู่การสร้างงานอีกมากมาย
“ในการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ เมืองเกาสง เราตั้งเป้าสู่ความเป็นผู้นำด้าน AI ในระดับภูมิภาค นอกจากนี้การพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ยังสามารถรองรับแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ต่างๆ หรือการร่วมมือกับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) บริษัทผู้ผลิตชิปอันดับต้นของโลก เพื่อพัฒนาชิปประมวลผล AI ในระดับ 2 นาโนเมตร อีกด้วย และถ้าดำเนินการสำเร็จ จะทำให้เมืองเกาสงเป็นผู้นำและส่งมอบต้นแบบความสำเร็จการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ไปยังเมืองอื่นๆ ทั่วโลก ด้วยประสบการณ์จริงและความรู้ด้าน AI” ชาร์ลส์ ลิน (Charles Lin) กล่าว
