Saturday, November 23, 2024
NEWS

อินเทรพิด ตั้งเป้ารายได้สู่ 1.3 พันล้านดอลลาร์ ปักหมุดไทย เป็นหนึ่งในประเทศสำคัญ

อินเทรพิด

อินเทรพิด ทราเวล ย้ำยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าปี 2030 รายได้ 1.3 พันล้านดอลลาร์และลูกค้าเพิ่มสองเท่า

าร์เรล เวด ประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท อินเทรพิด_ทราเวล จำกัด (Intrepid Travel) บริษัทท่องเที่ยวแบบผจญภัย เปิดเผยว่า ในปีนี้ผมได้เดินทางมาประเทศไทยและสำนักงานของบริษัทรวม 27 ประเทศเพื่อร่วมฉลองครบรอบ 35 ปี

พร้อมตอกย้ำการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กับบุคลากรของบริษัทฯ ทุกคนและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเป้าหมายในปี ค.ศ. 2030 ที่บริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีรายได้ราว 1.3 พันล้านดอลลาร์ โดยในปี ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ 621 ล้านดอลลาร์ และจะมีจำนวนลูกค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเป็น 600,000 ราย

ในปีที่ผ่านมามีจำนวน 320,000 ราย พร้อมกับการร่วมบริจาค 1% ของรายได้ให้กับโครงการที่ได้เริ่มดำเนินงานตามวัตถุประสงค์เดียวกับทางบริษัทฯ และยังดำเนินการบูรณาการแบบแนวดิ่ง (Vertical Integration) เพื่อขยายการทำงานไปยังพื้นที่ต่างๆ ในประเทศสำคัญๆ ซึ่งประเทศไทยก็คือหนึ่งในนั้นด้วย

สำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แบ่งเป็น 2 ประเด็นแตกต่างกันจริงๆ ประเด็นหนึ่งคือ ผู้คนมาจากไหน และประเด็นที่สองคือ พวกเขาจะไปที่ไหน ในมุมมองของผมไม่ได้มองว่าความยั่งยืนเป็นเทรนด์ แต่เป็นส่วนสำคัญที่อยู่ในองค์กรและเกิดขึ้นจริงตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มตั้งบริษัทฯ

ดังนั้นสิ่งที่พวกเราทำอยู่ตอนนี้เป็นเพียงการขยายสิ่งที่เราเคยทำในอดีต ทั้งเรื่องการนับคาร์บอนและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมทางเพศ สวัสดิภาพสัตว์ สภาพแวดล้อม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มลูกค้าของอินเทรพิดมีแนวโน้มที่จะท่องเที่ยวแบบยั่งยืนมากขึ้น

ไมค์ สจ๊วต ผู้จัดการทั่วไป บริษัท_อินเทรพิด ดีเอ็มซี (ประเทศไทยและลาว) เปิดเผยว่า สำหรับการเดินทางมาเยือนสำนักงานทุกประเทศของ ดาร์เรล เวด เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในฐานะที่เป็นจุดหมายแรกของอินเทรพิดที่ได้นำผู้คนจากทั่วโลกมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากกว่า 35 ปี ซึ่งเรายังมีความมุ่งมั่นเหมือนเริ่มต้นครั้งแรก ในการเป็นบริษัทด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันบริษัทฯ มีสำนักงาน 28 แห่งทั่วโลกและดำเนินการท่องเที่ยวแบบผจญภัยมากกว่า 1,150 ครั้งใน 119 ประเทศ รวม 7 ทวีป มีบุคลากรประจำ 18 คนและไกด์นำเที่ยวท้องถิ่น 40 คน กับการดำเนินแผนการเดินทางระหว่างประเทศ 22 ทริปในปีที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยว 5,000 คนที่ใช้บริการท่องเที่ยวกับบริษัทฯ ในการสัมผัสวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมและการอยู่ร่วมกับชุมชนท้องถิ่น

การรับประทานอาหารท้องถิ่นและค้นพบประเทศไทยที่แท้จริง ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ทั้งนี้ยังเป็นการสนับสนุนส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัวใจหลักของอินเทรพิด ด้วยรูปแบบการเดินทางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ตั้งมูลนิธิ Intrepid Foundation ที่ไม่แสวงหากำไร โดยระดมทุนได้กว่า 15.5 ล้านดอลลาร์ สำหรับสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2002 และในปี 2023 Intrepid foundation ได้ร่วมมือมูลนิธินิเวศวิถี (Eco Thailand Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรท้องถิ่นในประเทศไทย เพื่อดำเนินการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นด้วยการจัดโปรแกรมการศึกษาที่สอนเรื่องวิธีการรักษา แก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในระดับท้องถิ่น”

“โดย Eco Thailand มุ่งเน้นที่ 4 เรื่องหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม การศึกษา ชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ “ค่านิยมของเราสอดคล้องกับความสำคัญของการมีอิทธิพลต่อมุมมองและการดำเนินการของชุมชนผ่านการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นต่อไปในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” สจ๊วต กล่าว

จินตมาศ ศิลปพรหมมาศ รองประธานกรรมการมูลนิธินิเวศวิถี (Eco Thailand Foundation) กล่าวว่า ในฐานะองค์กรที่ให้การส่งเสริมศักยภาพชุมชนในประเทศไทยด้วยทักษะและความรู้ในการปกป้องสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น สร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ขอขอบคุณ “อินเทรพิด” ในการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ในการให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อความยั่งยืน โดยมอบแนวทางการรับมือและแก้ไขผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในวันนี้และอนาคตของประเทศไทย”

ดาร์เรล เวด ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท_อินเทรพิด ทราเวล จำกัด กล่าวทิ้งท้าย “อินเทรพิด” เชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจจะทำให้ชุมชนท้องถิ่นได้รับประโยชน์เชิงบวกจากการท่องเที่ยวนำไปสู่ความยั่งยืน โดยบริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานในการดำเนินงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมสูงสุด (Certified B Corporation)”

“นับหนึ่งในความสำเร็จสูงสุดของธุรกิจด้านความรับผิดชอบ ซึ่งต้องมีการพิจารณาผลกระทบในการตัดสินใจขององค์กรตามกฎหมายที่มีต่อ พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่สำคัญอันดับแรกของ อินเทรพิด” สำหรับธุรกิจในประเทศไทยและทั่วโลก