“อินโฟบล็อกซ์ อิงค์ ประกาศรีแบรนด์จุดยืนขององค์กร เป็นการปรับตำแหน่ง ภาพลักษณ์ขององค์กร และผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อต่อสู้กับอาชญากรไซเบอร์ ย้ำถึงความสำคัญของ DNS Security
อินโฟบล็อกซ์ อิงค์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเชื่อมโยงเครือข่ายและความปลอดภัยที่จัดการโดยผ่านคลาวด์ ประกาศรีแบรนด์จุดยืนขององค์กร เป็นการปรับตำแหน่ง ภาพลักษณ์ขององค์กร และผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อต่อสู้กับอาชญากรไซเบอร์ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ DNS Security และแนวทางการทำงานที่ทีมงานด้านเครือข่ายและทีมรักษาความปลอดภัยต้องผนึกกำลังกัน
ทั้งนี้ บริการด้านความปลอดภัยใหม่และเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ปรับปรุงใหม่ของอินโฟบล็อกซ์ในครั้งนี้ได้สะท้อนถึงกลยุทธ์ ความเชื่อมั่น และการมุ่งเน้นธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างครอบคลุม ช่วยให้ธุรกิจขององค์กรเติบโตอย่างรวดเร็ว
ชูจุดแข็ง DNS Security
ในตลาดผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่าย อินโฟบล็อกซ์ เป็นที่รู้จักมายาวนานในฐานะผู้ให้บริการความปลอดภัยเครือข่าย ที่สามารถช่วยลดความซับซ้อนของการจัดการและปรับขนาดเครือข่ายขององค์กร และช่วยให้เกิดการเติบโตทางดิจิทัลอย่างรวดเร็วที่โลกได้เห็นในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ตามรายงายของ IDC อินโฟบล็อกซ์มีส่วนแบ่งการตลาดราว 54%
อินโฟบล็อกซ์ พบว่า อาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐาน DNS เพื่อหลบหนีเครื่องมือและเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย (ซึ่งมีการลงทุนมหาศาล) และดำเนินการโจมตีที่สร้างความเสียหายจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ IDC ให้ข้อมูลว่า การลงทุนด้านความปลอดภัยทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 12.1% ในปี 2566 เป็น 219 พันล้านดอลลาร์
การศึกษาสถานะความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกปี 2023 แสดงให้เห็นว่ากว่า 90% ขององค์กรใช้ DNS เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การรักษาความปลอดภัย ซึ่งอินโฟบล็อกซ์เองในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน DNS Security ที่สามารถช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นและหยุดการคุกคามเหล่านี้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ข้อนี้จึงเป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่ อินโฟบล็อกซ์ ได้ประกาศรีแบรนด์และเน้นย้ำในจุดแข็งที่เป็นระบบเน็ตเวิร์ค DDI (ประกอบไปด้วย DNS, DHCP และ IP Address Management) ที่บริหารผ่านคลาวด์ และประกาศขับเคลื่อนตลาดความปลอดภัย DNS ที่ปัจจุบันซึ่งมีมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
พอล วิลค็อกซ์ รองประธานฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ที่อินโฟบล็อกซ์เปิดเผยว่า “อินโฟบล็อกซ์ทำหน้าที่วิเคราะห์ DNS มากกว่า 70,000 ล้านรายการต่อวัน ซึ่งในรายงาน Lookalike domain report นี้ อินโฟบล็อกซ์แสดงให้เห็นว่า ในขณะที่ผู้ประสงค์ร้ายยังคงลวงโดยการใช้โดเมนที่มีลักษณะคล้ายกันอยู่”
“และยิ่งเห็นการพัฒนาก้าวล้ำมากขึ้นในปีค.ศ. 2022 ที่ผ่านมา โดยได้กำหนดเหยื่อเป้าหมายไปที่ทุกภาคอุตสาหกรรม และร่วมโจมตีกับภัยไซเบอร์อื่นๆ ในรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ภัยที่เลี่ยงการตรวจสอบหลายปัจจัย (MFA)”
“ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันการรักษาความปลอดภัยในชั้น Domain Name Server (DNS) ที่ดีที่สุด อินโฟบล็อกซ์ยังคงก้าวหน้าก่อนใครในอุตสาหกรรม โดยมุ่งมั่นใช้ DNS เป็นแหล่งข้อมูลข่าวกรองภัยคุกคามที่ไม่เหมือนใครและเป็นจุดจัดการกับภัยคุกคามที่มีประสิทธิภาพ”
“เราเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัย DNS รายแรกและรายเดียวที่สามารถป้องกันภัยลวงที่ใช้โดเมนที่มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งการโจมตีเหล่านี้นับวันจะมีความซับซ้อนและแพร่หลายมากขึ้น ส่งให้มีความจำเป็นต้องใช้โซลูชันเฉพาะทางในการการรักษาความปลอดภัยขององค์กรและผู้ใช้งาน” เขากล่าวเสริม
ความสำคัญการทำงานร่วมกันของ NetOps และ SecOps
อินโฟบล็อกซ์ เชื่อว่าการรวมทีม NetOps และ SecOps เข้าด้วยกันสามารถหยุดการทำงานของมัลแวร์ ระบุแหล่งที่มาของภัยคุกคาม และปรับปรุงประสิทธิภาพและการป้องกันภัยไซเบอร์ได้
“อินโฟบล็อกซ์เป็นบริษัทเดียวที่สามารถให้ศักยภาพการมองเห็นได้แบบเรียลไทม์และควบคุมได้ถึงผู้ใช้งานและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายประเภทต่างๆ และสภาพแวดล้อมแบบมัลติคลาวด์ทั้งหมายได้เพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น”
“การนำทีม NetOps และ SecOps มารวมกันจะสามารถสร้างการมองเห็น การแบ่งปันข้อมูล การทำงานของระบบที่เป็นอัตโนมัติและให้อำนาจในการควบคุมร่วมกันได้ ในขณะที่องค์กรยังสามารถป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์และระบุแหล่งที่มาของภัยคุกคามชนิดต่างๆ และยกระดับประสิทธิภาพและการป้องกันให้สูงไปอีกขั้น”
“ซึ่งโซลูชันของ อินโฟบล็อกซ์ สามารถสนับสนุนให้ การทำงานร่วมกันของ NetOps และ SecOps มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันภัยคุกคาม มีต้นทุนต่ำกว่าการลงทุนในโซลูชันหรืออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยชั้นสูงอื่นๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในประเด็นของรีแบรนด์ ที่อินโฟบล็อกซ์ ต้องการสื่อสารออกไป” ผู้บริหารกล่าว
ดันโปรแกรม Skilled to Secure ช่วยพันธมิตร
ในการปรับภาพลักษณ์ขแงแบรนด์ในครั้งนี้ อินโฟบล็อกซ์ ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำด้านบริการเครือข่ายและการรักษาความปลอดภัยแบบคลาวด์-เฟิร์ส (Cloud First) โดยได้เปิดตัวโครงการสำหรับพันธมิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อสนับสนุนและเพิ่มโอกาสให้พันธมิตรในการนำเสนอโซลูชันกับลูกค้า
โดย อภิชาติ เจิมประไพ ผู้จัดการประจำประเทศไทยและอินโดจีน ที่อินโฟบล็อกซ์ กล่าวถึงโครงการ สกิลดิ์ ทู ซีเคียว (Skilled to Secure) ว่า “โครงการดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสให้พันธมิตรสามารถสร้างศักยภาพด้านความปลอดภัยที่ไว้ใจได้และจัดหาให้ลูกค้าได้ตรงความต้องการ และถือเป็นโครงการด้านการตลาดที่สำคัญ”
“ทั้งนี้โปรแกรมสกิลดิ์ ทู ซีเคียวที่เชื่อถือได้นี้สะท้อนถึงภูมิทัศน์ด้านความปลอดภัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป โครงการ สกิลดิ์ ทู ซีเคียว ออกแบบมาเพื่อให้การสนับสนุนผ่านพันธมิตรใน 3 ระดับ ได้แก่ ผู้ค้าปลีกมูลค่าเพิ่มและผู้รวมระบบ (Value-added Reseller and Systems Integrator) ผู้ให้บริการ (Service Provider) และผู้จัดจำหน่ายมูลค่าเพิ่ม (Value-added distributor)”
