Thursday, November 21, 2024
NEWS

ILINK แย้ม Q4 สดใส รับงาน เกาะเต่า หนุนกำไรพีคยาว วางงบร้อยล้าน ขยายคลังสินค้าใหม่

ฟ้าเปิด ILINK โชว์ยอดขายธุรกิจจัดจำหน่ายโต 2 หลัก (double-digit growth) ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ตอบรับกระแสดิจิทัลและเทรนโซล่ารูฟพุ่ง พร้อมโชว์ความแข็งแกร่ง เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำอันดับ 1 งานโครงการ Submarine Cable ของไทย หลังคว้างานยักษ์ติดตั้งเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า

วริษา อนันตรัมพร กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK

ริษา อนันตรัมพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK นำเสนอข้อมูลภาพรวมธุรกิจและผลประกอบการของบริษัทฯ ผ่านงาน Opportunity Day

จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ว่า “9 เดือนแรกของปีนี้ ILINK ทำรายได้ 4,862.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.29% และมีกำไรสุทธิ 261.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.18% เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนของปีก่อน

และสำหรับไตรมาส 3/65 ILINK มีรายได้ 1,806.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.42% และทำกำไรสุทธิ 85.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.17% จึงมั่นใจว่าทิศทางผลประกอบการไตรมาส สุดท้ายของปี จะเติบโตทะลุเป้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยบวกจากการชนะงานจ้างก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 เควี ไปยังเกาะเต่า ที่จะช่วยหนุนทั้งรายได้และกำไรยาวไปถึงปี 2567”

ในไตรมาส 3/65 นี้ ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) มียอดขายสินค้าจำนวน 675.41 ล้านบาท ซึ่งยังคงเติบโตในระดับสองหลัก (double-digit growth) ที่ 13.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตต่อเนื่องของยอดขายนี้ ได้รับแรงผลักดันจากความต้องการปรับปรุงพัฒนาระบบโครงข่ายให้มีความทันสมัย และแนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ทำให้ยอดขายสินค้ากลุ่มสายโซล่า (Solar Cable) เติบโตอย่างก้าวกระโดดเตรียมขึ้นแท่นเป็น Best Seller ตัวใหม่

นอกจากนี้ บริษัทฯ เชื่อว่า เศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศกำลังกลับมาเดินหน้าขับเคลื่อนได้อย่างเต็มกำลัง ILINK จึงต้องวางโครงสร้างพื้นฐานและกลยุทธ์ให้พร้อมที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ และคงเป้าหมายที่จะสร้างทั้งรายได้และผลกำไรสุทธิที่โดดเด่นต่อไป

“บริษัทฯ ได้ใช้งบลงทุนราว 100 ล้านบาท สำหรับการขยายคลังสินค้าใหม่ เพื่อรองรับยอดขายให้ได้ถึง 5 พันล้านบาท พร้อมติดตั้งระบบการจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ ให้สามารถจัดการสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคาดว่าช่วงกลางปี 2566 นี้ จะพร้อมเปิดใช้งาน” วริษา กล่าว

ด้าน ธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) มีรายได้รอรับรู้ (Backlog) อีกกว่า 2,500 ล้านบาท ยาวถึงปี 2567 โดยโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ จะทยอยปิดและส่งมอบอีก 6 โครงการตามแผน ประกอบกับงานจ้างก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 เควี ไปยังเกาะเต่า ที่บริษัทได้ลงนามสัญญาเข้ามาเพิ่มล่าสุดนั้นเป็นโครงการที่มีอัตรากำไรสูง ก็จะช่วยหนุนให้ธุรกิจวิศวกรรมโดยรวมฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อีกหลายโครงการ เพื่อต่อยอดธุรกิจให้กับกลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง