“ฟูจิฟิล์ม เฮลท์แคร์ ชูนวัตกรรมการถ่ายภาพทางการแพทย์ รวมถึงเทคโนโลยี AI และ โซลูชันด้าน IT เพื่อการวินิจฉัยโรคครบวงจรต่อยอดความเชี่ยวชาญ-ประสบการณ์กว่า 80 ปี ยกระดับวงการแพทย์
บริษัท ฟูจิฟิล์ม เฮลท์แคร์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ผู้ให้บริการ Total Healthcare Solution ประกาศรุกธุรกิจเฮลท์แคร์ในประเทศไทยอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมโชว์ไลน์อัพโซลูชันการถ่ายภาพรังสีแบบครบวงจรภายใต้คอนเซ็ปต์ One Stop, Total Healthcare Solution ที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์อันยาวนานด้านเทคโนโลยีการประมวลภาพขั้นสูง พร้อมเสริมทัพด้วยระบบ AI
โดยโซลูชันเพื่อการวินิจฉัยทางการแพทย์จากฟูจิฟิล์มจะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการวินิจฉัยทางการแพทย์ องค์กรเผยพร้อมนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพรังสีกว่า 80 ปี มาช่วยติดปีกวงการสาธารณสุขในประเทศไทย
ภายใต้พันธกิจในการสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นสำหรับผู้คนทั่วโลก โดยตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกสำหรับธุรกิจโซลูชันทางการแพทย์ไว้ที่ 7 แสนล้านเยนในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2027 โดยเติบโตจากปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2022 ถึง 30% ซึ่งถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเป้ายอดขายรวมทั้งสิ้น 1 ล้านล้านเยนสำหรับกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ทั้งหมดของบริษัท
โนริยูกิ คาวาคูโบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม เฮลท์แคร์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจฟูจิฟิล์มว่า “ฟูจิฟิล์ม เป็นองค์กรด้านนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพ”
“โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฟูจิฟิล์มได้ปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการและโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ และได้พลิกโฉมองค์กรอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายธุรกิจและนำเสนอโซลูชันให้แก่หลากหลายอุตสาหกรรม”
“โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพเพื่อพัฒนานวัตกรรม ที่สร้างคุณค่าให้แก่สังคม ปัจจุบัน ฟูจิฟิล์มเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการขยายองค์กรที่ครอบคลุม 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพ 2. ธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ 3. ธุรกิจนวัตกรรมสิ่งพิมพ์เพื่อธุรกิจ และ 4. ธุรกิจด้านการถ่ายภาพ”
นวัตกรรมการแพทย์ ยุค Digital Transformation
“ธุรกิจด้านการแพทย์และสุขภาพ ถือเป็นธุรกิจที่องค์กรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 เป็นต้นมา เทคโนโลยีภาพถ่ายดิจิทัลทางการแพทย์ ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
“นับเป็นการยกระดับวงการแพทย์และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนทั่วโลก ฟูจิฟิล์ม จึงมุ่งบุกเบิกนวัตกรรมเพื่ออนาคตของวงการแพทย์ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ” โนริยูกิ คาวาคูโบะ อธิบายเพิ่มเติม
“ธุรกิจเฮลท์แคร์ของฟูจิฟิล์มมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางการแพทย์ เพราะนอกจากเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัล, กล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร, เครื่องอัลตราซาวด์, เครื่องแมมโมแกรมตรวจเอกซเรย์เต้านม”
“ก็ยังได้เทคโนโลยี MRI และ CT Scan มาเสริมทัพให้โซลูชันการวินิจฉัยทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มครบวงจรมากยิ่งขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเครื่องมือเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มอย่าง REiLI ก็ยิ่งยกระดับการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
“ด้วยไลน์อัพนวัตกรรมที่ครบวงจรและเป้าหมายอันแน่วแน่ในการรุกธุรกิจเฮลท์แคร์อย่างเต็มสูบ บริษัทจึงประกาศเร่งช่วยเหลือสังคมและเชื่อมต่อบุคลากรทางการแพทย์กับโลกแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด Bridging the Future of Healthcare ตอกย้ำเป้าหมายในการก้าวเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพ ในฐานะผู้ให้บริการ Total Healthcare Solution อย่างแท้จริง” โนริยูกิ คาวาคูโบะ เน้นย้ำ
ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย เดินหน้าเป้าหมายปี 2030 ยกระดับวงการสาธารณสุข
ด้าน โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย มุ่งดำเนินงานให้สอดคล้องกับพันธกิจพื้นฐานของบริษัทในการแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาทางสังคมและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน”
“นอกจากนี้ หนึ่งในเป้าหมายหลักภายใต้แผนการส่งเสริมคุณค่าที่ยั่งยืนในปี 2030 ขององค์กร คือการปรับปรุงการเข้าถึงการดูแลรักษาพร้อมช่วยลดภาระในการดูแลผู้ป่วย เพื่อยกระดับวงการสาธารณสุขและคุณภาพชีวิตของคนทั่วโลก รวมถึงชาวไทย”
“ฟูจิฟิล์ม จึงเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมและโซลูชันที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพทางการแพทย์เพื่อการวินิจฉัยโรคมาโดยตลอด จุดเด่นของโซลูชันทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม คือการนำนวัตกรรมการถ่ายภาพทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม ซึ่งได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานจากทั่วโลก มาผสานกับการใช้เทคโนโลยี AI และโซลูชันด้านไอที”
“เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตรวจหาโรคได้อย่างทันท่วงที แม่นยำ และลดภาระในการทำงานของแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายความถึงการรองรับผู้ป่วยที่มากขึ้น ตลอดจนโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของชุมชนห่างไกล นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยและคนทั่วโลก”