“ดร.แดน ประธานสถาบันการสร้างชาติ วิพากษ์ นโยบายหาเสียงพรรคการเมือง เน้นประชานิยม แข่งกันแจกเงิน ไม่มีแนวนโยบายใหม่ๆ อาจทำให้ประชาชนอ่อนแอ เพิ่มความเสี่ยงทางการคลัง ไม่นำประเทศสู่ความก้าวหน้า
ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์ดวาร์ด และประธาน สถาบันการสร้างชาติ แสดงความเห็นเกี่ยวกับ นโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ประกาศออกมาในปัจจุบัน โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่เป็นตัวเต็งที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็นรัฐบาล โดยระบุว่า นโยบายส่วนใหญ่ยังเป็นนโยบายประชานิยม เน้นแจกเงินประชาชน และวนในกรอบนโยบายแบบเดิมๆ ไม่ “ขยับ” สู่การแก้ไขหรือพัฒนาประเทศไปข้างหน้า
“แต่ละพรรคการเมือง แข่งกันใช้นโยบายประชานิยม เน้นแจกเงิน ลดค่าครองชีพ ยกหนี้ เช่น พรรคสร้างอนาคตไทย มีนโยบายพักหนี้ พักเงินต้น พักดอกเบี้ย 5 ปี และเติมเงินใหม่ พรรคภูมิใจไทย ก็มีนโยบายพักหนี้ 3 ปี พรรคพลังประชารัฐ เพิ่มเงินบัตรประชารัฐจาก 600 เป็น 700 บาทต่อเดือน และแจกที่ดิน”
“ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ แจกเงินช่วยชาวนา 3 หมื่นบาทต่อครัวเรือน แจกฟรีนมโรงเรียน 365 วัน และเงินอุดหนุนประมง 1 แสนบาทต่อปี พรรคเพื่อไทยเพิ่มค่าแรง 600 บาท ฯลฯ เป็นต้น นโยบายเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาระการคลังของประเทศ รวมทั้งยังทำให้ประชาชนอ่อนแอ เพราะเคยชินกับการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล”
ประธานสถาบันการสร้างชาติ ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า นโยบายหาเสียงส่วนใหญ่ของพรรคที่เป็นพรรคขนาดใหญ่และขนาดกลาง ไม่ได้ระบุวิสัยทัศน์ที่จะนำประเทศไปในอนาคต แต่เป็นนโยบายที่ยังวนอยู่ในกรอบเดิมๆ เช่น กองทุนหมู่บ้าน กองทุนรูปแบบต่างๆ ยกหนี้ เพิ่มเงินสวัสดิการ เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ เพิ่มเงินอุดหนุน เป็นต้น
เมื่อพรรคเหล่านี้เป็นรัฐบาล ก็จะดำเนินนโยบายแบบเดิมๆ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เหมือนเดิม ซึ่งอาจช่วยบรรเทาปัญหาไม่ให้แย่ลงกว่าเดิมได้ แต่จะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง หรือการยกระดับประเทศให้ก้าวหน้ากว่าที่เป็นอยู่
“นโยบายที่ดีควรทำให้ประชาชนเข้มแข็งและสามารถพึ่งตัวเองได้ และไม่เสพติดการช่วยเหลือของภาครัฐ เช่น การให้แบบมีเงื่อนไข โดยให้ประชาชนทำงานแลกสวัสดิการ การส่งเสริมทักษะอาชีพเพื่อให้ประชาชนมีผลิตภาพที่สูงขึ้น เพื่อจะได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้น หรือการใช้มาตรการภาษีติดลบ (Negative income tax) เพื่อให้เงินอุดหนุนเพื่อให้คนมีแรงจูงใจทำงานเพิ่มขึ้น”
ดร.เกรียงศักดิ์ เสนอแนะเพิ่มเติมว่า พรรคการเมืองควรขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวหน้าผ่านนโยบายที่มีวิสัยทัศน์ระยะยาว มีนวัตกรรม คิดนอกกรอบ กล้าที่จะขยับ (shift) ทางด้านนโยบาย เปลี่ยนกรอบการดำเนินนโยบายจากเดิม และแก้ปัญหาที่สำคัญๆ อย่างจริงจังและยั่งยืน
เช่น การขับเคลื่อนประเทศให้หลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง การแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน การปฏิรูประบบราชการ การจัดการเศรษฐกิจนอกระบบและเศรษฐกิจสีเทา การแก้ปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
Featured Image: