Thursday, November 21, 2024
NEWSTechnology

เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดตัว Dell NativeEdge ซอฟต์แวร์การดำเนินการระบบเอดจ์

Dell NativeEdge

ความก้าวหน้าของกลุ่มผลิตภัณฑ์เอดจ์ ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ ทำให้สามารถปรับใช้และรักษาความปลอดภัยระบบโครงสร้างพื้นฐานเอดจ์ ทำได้ง่ายขึ้น พร้อมพัฒนาการดำเนินงานที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพเครือข่ายที่เพิ่มมากขึ้น

ดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดตัว Dell NativeEdge แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์การปฏิบัติการระบบเอดจ์ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการปรับใช้ระบบเอดจ์ที่ปลอดภัย ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเพิ่มความคล่องตัวให้กับการดำเนินงานของเอดจ์ที่อยู่บนอุปกรณ์จำนวนนับหลายพันชิ้นและจุดติดตั้งในการทำงานที่มีทั้งหมดตั้งแต่เอดจ์ไปสู่ศูนย์กลางที่ดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงบนมัลติ-คลาวด์

เกิดขึ้นตามคำมั่นสัญญาของ Project Frontier Dell NativeEdge คือเป็นไปเป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ปฏิบัติการระบบเอดจ์เพียงหนึ่งเดียวของอุตสาหกรรมที่ให้การออนบอร์ดอุปกรณ์ที่สามารถปรับขนาดของสเกลได้ พร้อมการจัดการจากระยะไกล และการปลอดภัยตามขนาด การจัดการระยะไกล และการทำงานประสานกัน (orchestration) ของมัลติ-คลาวด์แอปพลิเคชัน

สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการใช้งานเอดจ์ขององค์กรด้วยการปรับใช้แบบ zero-touch และการออกแบบให้เป็นระบบเปิด ผสานรวมเข้ากับฮาร์ดแวร์ในรูปแบบต่างๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจรแบบ end-to-end ที่มีทั้งหมดของเดลล์ ด้วยความสามารถของ Zero Trust ที่อยู่ภายใน Dell_NativeEdge จึงช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้วยการให้การปกป้องแอปพลิเคชันและโครงสร้างพื้นฐานของลูกค้าที่มีใน edge estate ทั้งหมด

เวลาในการปรับใช้ที่เร็วขึ้นและการประหยัดค่าใช้จ่าย

ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตรายใหญ่อาจต้องการทำการบรรจุหีบห่อและจัดส่งโดยอัตโนมัติไปยังไซต์ของโรงงานที่มีเป็นจำนวนมากในพื้นที่ที่แตกต่างกันหลายแห่ง นั่นหมายถึงการเชื่อมต่อเทคโนโลยีต่างๆ เข้าด้วยกัน อาทิ IoT การสตรีมมิ่งข้อมูลและตรวจสอบทางกายภาพของผลิตภัณฑ์ (machine vision)

ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆ เฉพาะทางเพื่อรันซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันจำนวนมากทั่วโลเคชันที่มีทั้งหมด การทดสอบและปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานเพื่อเรียกใช้แอปพลิเคชันอาจใช้เวลานานหลายเดือน ดังนั้น การใช้ Dell_NativeEdge จะทำให้ผู้ผลิตสามารถรวมสแต็คของเทคโนโลยีที่มีเข้าด้วยกันด้วยการลงทุนที่มีอยู่เดิม และลดเวลาในการปรับใช้สินทรัพย์เอดจ์และแอปพลิเคชันจากหลายเดือนเหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์

แพลตฟอร์มนี้ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อสร้างความคล่องตัวให้กับการดำเนินงานของระบบเอดจ์ และช่วยให้ผู้ผลิตสามารถนำแอปพลิเคชันใหม่ๆ เข้ามาใช้ที่ไซต์งานทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยจากส่วนกลาง

เดลล์ศึกษาลูกค้าขนาดใหญ่จำนวนเกือบ 100 ราย เพื่อตรวจสอบผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับใช้ NativeEdge_สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตที่มีโรงงานเฉลี่ย 25 ​​แห่ง การลงทุนสามปีใน_NativeEdge ช่วยจัดการ 75% ของสินทรัพย์เอดจ์ขององค์กรด้านการผลิตแสดงให้เห็นว่าลูกค้าสามารถบรรลุการดำเนินงานดังนี้

  • ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 130% จากการปรับใช้ Dell_NativeEdge
  • การลดระยะเวลาที่จำเป็นต้องใช้ในการนำอุปกรณ์ต่างๆ มาออนบอร์ดได้ถึง 20 นาทีสำหรับการจัดการสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานเอดจ์ในแต่ละส่วน อีกทั้งยังลดความเสี่ยงขององค์กรได้อย่างมากซึ่งส่งผลในการประหยัดค่าใช้จ่าย
  • เพิ่มความเร็วให้กับการปรับใช้ edge asset พร้อมทั้งลดต้นทุนการดำเนินการของระบบเอดจ์ด้วยการทำโพรวิชันนิ่งแบบ zero touch
  • ประหยัดค่าขนส่งโดยลดความจำเป็นในการจัดส่งการสนับสนุนไปยังพื้นที่งาน (site-support) ซึ่งส่งผลในการลดเวลาในการเดินทาง อีกทั้งยังเป็นการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 14 เมตริกตัน