เซ็นทรัลพัฒนา รีสตาร์ทประเทศเร่งฟื้นเศรษฐกิจ เดินหน้าธุรกิจโรงแรมลงทุน 10,000 ล้านบาทใน 5 ปี สร้างมาตรฐานใหม่พร้อมบุกเบิก ‘เศรษฐกิจการเดินทาง’ปักหมุดโรงแรมแรก ‘Centara Korat’ เตรียม Grand Opening ในเดือน ก.ย. 65 ตอกย้ำความสำเร็จ ‘เซ็นทรัล โคราช’ มิกซ์ยูสสมบูรณ์แบบที่สุดของอีสาน
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน และผู้พัฒนาธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล, ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ เดินหน้ากลยุทธ์ “Retail-Led Mixed-Use Development” พัฒนาธุรกิจโรงแรมตามแผน 5 ปี รวม 37 โครงการ 27 จังหวัด ด้วยงบลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท มุ่งมั่นสร้างมาตรฐานใหม่การพักอาศัยโรงแรม พร้อมบุกเบิก “เศรษฐกิจการเดินทาง” (Travel Ecosystem)
เพื่อตอบโจทย์ที่มากกว่าการท่องเที่ยว แต่ครอบคลุมทุกจุดประสงค์ทั้งการพักผ่อน, ทำธุรกิจ และทำงาน ย้ำความเป็นผู้นำของเซ็นทรัลพัฒนาในการส่งเสริมศักยภาพของเมืองต่างๆ ทั้งเมืองหลัก-เมืองรอง เมืองท่องเที่ยว และเมืองอุตสาหกรรม รวม 27 จังหวัดทั่วประเทศ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และคาดว่าจะช่วยเพิ่มการจ้างงานได้ 3,900 คน
พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรในกลุ่มเซ็นทรัล Centara Hotels & Resorts ในการบริหารโรงแรมด้วยมาตรฐานและการบริการระดับ International Standard โดยพร้อมเปิดตัวโครงการแรกโรงแรม Centara Korat ในเดือนกันยายน 2565 นี้ ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์เติมเต็มโครงการ “เซ็นทรัล โคราช” ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในภาคอีสาน
โดยภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจาก พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานและร่วมแสดงวิสัยทัศน์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของเซ็นทรัลพัฒนา และพันธมิตร
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ว่า “ในโอกาสที่เซ็นทรัลพัฒนา ได้เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศครั้งนี้ เชื่อว่าจะมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ พร้อมทั้งยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย สู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่นได้อย่างทั่วถึง ทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองท่องเที่ยวรอง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการ ‘ฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยว’ สู่การ “ฟื้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ”
ในที่สุด ขณะนี้ ทางกระทรวงฯ มีแผนการพัฒนาสินค้าใหม่ (New Products) เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยนักท่องเที่ยวกลุ่ม Staycation, Workation และ Digital Nomad นับเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง การขยายโครงการโรงแรมรวมถึงต่อยอดโครงการมิกซ์ยูสของเซ็นทรัลพัฒนาในครั้งนี้จะส่งผลบวกต่อแผนการพัฒนาดังกล่าวของกระทรวงฯ ได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและประเทศต่อไป”
วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all เซ็นทรัลพัฒนาเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศในทุกๆ ด้านมาโดยตลอด ทั้งนี้เรามุ่งมั่นส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับมหภาคและพัฒนาชุมชนไปพร้อมกันทั่วประเทศ ดังเช่นที่ธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัลได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการขยายธุรกิจโรงแรมจะเป็นแรงขับเคลื่อนในระดับประเทศเช่นเดียวกัน
โดยในแผน 5 ปี ขยายโรงแรมรวม 37 โครงการ ใน 27 จังหวัด รวมกว่า 4,000 ห้อง มูลค่าการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2569 เราจะสร้างมาตรฐานแห่งการพักอาศัยในโรงแรมทุกแห่ง เพื่อให้โครงการโรงแรมของเราเป็นเดสติเนชั่นอันดับ 1 ในด้านการเดินทางภายในประเทศ บุกเบิก ‘เศรษฐกิจการเดินทาง’ (Travel Ecosystem) ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่
1) Complete Travel Ecosystem:มองธุรกิจโรงแรมมากกว่าการท่องเที่ยว แต่คือการเดินทางที่จะตอบโจทย์นักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ในทุกจุดประสงค์ ทั้งการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน, เพื่อการติดต่อธุรกิจ, หรือเพื่อการทำงาน และพักอาศัย หรือการผสมผสานทุกจุดประสงค์เข้าหากัน
2) Create new standard of travel lifestyle: สร้างมาตรฐานการพักโรงแรมทั่วประเทศ ด้วยแบรนด์โรงแรมครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ พร้อมการ Synergy กับธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา และในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป และ
3) Co-Creating with Communities: ผนึกกำลังชุมชน ส่งเสริมอัตลักษณ์ ต่อยอดและกระจายรายได้สู่ธุรกิจในท้องถิ่น”
“ทุกจังหวัดในประเทศไทยมีศักยภาพในการรองรับการเดินทางเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ อยู่แล้ว ซึ่งการขยายโครงการโรงแรมรวมถึงต่อยอดโครงการมิกซ์ยูสของเซ็นทรัลพัฒนาในครั้งนี้เชื่อว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อการเดินทาง ทำให้คนไทยมีเดสติเนชั่นในการเดินทางใหม่ๆ มากขึ้น รวมถึงชาวต่างชาติมีตัวเลือกของการพักอาศัยที่หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย” วัลยากล่าว
ภูมิ จิราธิวัฒน์ Head of Hotel Property บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เราเล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาต่อยอดธุรกิจโรงแรมจากเดิมที่เรามีอยู่แล้ว โดยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมศักยภาพของเมืองและจังหวัดต่างๆ สร้าง Big Impact ในระดับประเทศ ดังเช่นธุรกิจอื่นๆ ของเซ็นทรัลพัฒนา ด้วยจุดแข็งของธุรกิจโรงแรมที่มีทำเลดี, มีแบรนด์ที่ตอบโจทย์ทุกเซ็กเมนต์
และความร่วมมือกันในธุรกิจของเซ็นทรัลพัฒนาเองและในกลุ่มเซ็นทรัล ทำให้การมาพักอาศัยที่โรงแรมของเราเป็น Seamless Journey ที่แตกต่างจากโครงการอื่นที่มีอยู่ในตลาด โดยเราพร้อมตอบโจทย์นักเดินทางครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ด้วย 3 แบรนด์
ได้แก่ ‘Centara’ แบรนด์ระดับ Upscale, ‘Centara One’ แบรนด์ระดับ Lifestyle Midscale โดยทั้งสองแบรนด์นี้ยังเป็นครั้งแรกที่เราได้นำคอนเซ็ปต์ ‘Bleisure’ คือ Business + Leisure เพื่อตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อนและการทำงานอีกด้วย ส่วนอีกแบรนด์หนึ่งคือ ‘Go! Hotel’ แบรนด์ระดับ Premium Budget โดยวางแผนปักหมุดโลเคชั่น อาทิ โคราช, อุบลราชธานี, อยุธยา, ระยอง, ศรีราชา, ชลบุรี และเชียงราย เป็นต้น”
“สำหรับโครงการแรกที่พร้อมเปิดตัวในเดือน ก.ย. 65 นี้คือ Centara Korat ซึ่งจะเป็นเครือโรงแรม (Chain Hotel) ระดับ International แห่งแรกของเมือง โดยโคราชเป็น gateway ไปสู่ภาคอีสานซึ่งเซ็นทรัลพัฒนาได้บุกเบิกโครงการมิกซ์ยูส เซ็นทรัล โคราช เอาไว้แล้ว
เราพบว่าตลาดโรงแรมในจังหวัดนี้ยังมีโอกาสเติบโต และการเข้าพักอาศัยเฉลี่ยมีแนวโน้มที่จะนานขึ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวโคราช, นักเดินทางจากจังหวัดอื่นทั้งแบบเดินทางคนเดียวและแบบครอบครัว และที่น่าสนใจคือกลุ่มเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ และนักธุรกิจที่มีเป้าหมายในจังหวัดอื่นๆ เช่น บุรีรัมย์, อุดรธานี และขอนแก่น เป็นต้น” ภูมิกล่าว
ภูมิกล่าวต่อไปว่า “นอกจากนี้ โครงการโรงแรม Centara Korat ยังเติมเต็มไลฟ์สไตล์การพักอาศัยและใช้บริการโรงแรม ตอบโจทย์ความต้องการต่างๆ ของลูกค้าในแบบ The best hotel and top dining destination in Korat ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพักในห้องพักที่สามารถรองรับลูกค้าได้แบบ Multi-Generation, รองรับการจัดงานและการประชุมด้วยห้องที่มีฟังก์ชั่นครบครันทันสมัย, และครั้งแรกของการรับประทานอาหารใน ‘House of Kin’ all-day & all-generations buffet,
พร้อมเพลิดเพลินกับ Rooftop restaurant ที่มาพร้อมวิวเมืองโคราช และพลาดไม่ได้กับการช้อปปิ้งในศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช อีกทั้งเรายังมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิก The 1 สามารถใช้คะแนนได้ทั้งในส่วนร้านอาหารในโรงแรม หรือแลกคะแนน The 1 เป็น Centara The 1 ได้ง่ายๆ ผ่าน The 1 Application ในการชำระค่าห้องพักได้อีกด้วย”
ด้านธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า“ความร่วมมือระหว่างเซ็นทาราและเซ็นทรัลพัฒนาถือเป็นการผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจโรงแรมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
หลายปีที่ผ่านมา เซ็นทาราได้ร่วมมือกับเซ็นทรัลพัฒนาในการบริหารและเปิดให้บริการโรงแรม “Centara Hotel & Convention Centre Udon Thani” และนับต่อไปจากนี้ เรามีความยินดีที่จะได้ทำงานร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนาในโครงการใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตควบคู่กันไป
อีกทั้งยังตรงตามกลยุทธ์ด้านการเติบโตของเซ็นทารา ที่มุ่งมั่นมอบประสบการณ์การเข้าพักที่แสนอบอุ่น ให้กับนักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในหลากหลายจุดหมายปลายทางทั่วประเทศ
โดยสำหรับในปีนี้ จะเริ่มต้นจาก โรงแรม“Centara Korat” ที่เราจะร่วมกันพัฒนาให้เป็น The Place to Be และเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่ง ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทาง ด้วยมาตรฐานและการให้บริการระดับ International Standard ของเซ็นทารา ควบคู่ไปกับความเชี่ยวชาญของเซ็นทรัลพัฒนา ในด้านการพัฒนาโครงการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่แต่ละแห่งได้อย่างดีเยี่ยม เรายินดีที่การจับมือร่วมกันในวันนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอีก 5 ปีนับจากนี้”
เตรียมพบกับ Grand Opening โครงการโรงแรม Centara Korat ในเดือนกันยายน 2565 นี้ องค์ประกอบล่าสุดภายในโครงการมิกซ์ยูส เซ็นทรัล โคราช ที่ประกอบด้วยศูนย์การค้าเซ็นทรัล และโครงการคอนโดมิเนียม ESCENT รวมมูลค่าลงทุนทั้งโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนสู่อนาคตภายใต้เจตจำนงค์ของแบรนด์ Imagining better futures for all ด้วยการสร้างและพัฒนาพื้นที่ที่มีคุณภาพเพื่อดูแลคนและชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตควบคู่ไปกับการเดินหน้าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศไทย