“บราเดอร์ ต่อยอดความสำเร็จ ยกระดับมาตรฐานบริการรอบด้าน ยึดความต้องการลูกค้าเป็นหลัก มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุด เห็นโอกาสกลุ่ม B2B ขยายฐานกลุ่มลูกค้าองค์กรและราชการ
บราเดอร์ ประกาศสร้างโมเมนตัมต่อยอดความสำเร็จจากปี 2566 มุ่งตอบโจทย์โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ยกระดับงานให้บริการสู่มาตรฐานขั้นสูง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด โดยเน้นทำการตลาดแบบมุ่งเป้าเจาะกลุ่ม พร้อมเสริมแกร่งฐานลูกค้ากลุ่ม B2B ผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ตรงใจลูกค้า ตั้งเป้าเติบโต 6%
ความสำเร็จปี 66 สร้างโมเมนตัมต่อเนื่อง
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์_คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ข้อมูลจากบริษัทวิจัยทางการตลาด GFK พบว่าในช่วงปี 2565 ถึง 2566 บราเดอร์มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นและมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์”
“อาทิ เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังชันขาวดำ เพิ่มจาก 47.8% เป็น 57.1%, เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังชันสี จาก 51.5% เป็น 50.1%, เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ เพิ่มจาก 27.7% เป็น 32.6% และเครื่องพิมพ์เลเซอร์สี เพิ่มจาก 37.3% เป็น 46.4%”
“ผลวิจัยของ GFK พบว่า ในปีที่ผ่านมา บราเดอร์สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอายุระหว่าง 25 – 35 ปี ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อ ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น”
“ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความร่วมสมัย โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและมีผลิตภัณฑ์ตอบสนองทุกความต้องการลูกค้า ทุกกลุ่มวัย ซึ่งจะเป็นรากฐานในการขยายตลาดต่อไปในอนาคต สำหรับในปีนี้ บราเดอร์จะมุ่งเน้นกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อต่อยอดความสำเร็จ จากการสร้างการรับรู้แบรนด์”
เห็นโอกาสกลุ่ม B2B องค์กรและราชการ
ธีรวุธ เปิดเผยถึงแผนในปีนี้ด้วยว่า “เราจะมุ่งเน้นกิจกรรมทางการตลาดในเชิงรุก โดยจะเพิ่มสัดส่วนการโฟกัสไปที่ตลาดกลุ่มองค์กร เพราะเป็นกลุ่มที่ยังมีโอกาสเติบโตได้มาก”
“โดยปีนี้ จะเน้นทำการตลาดในกลุ่ม B2B มากขึ้น เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าองค์กรและราชการ รวมถึงมุ่งเน้นการให้บริการด้านการขายแบบครบวงจร รวมไปถึงการกำจัดวัสดุการพิมพ์ที่ใช้แล้วแบบรักษ์โลกต่อเนื่องตลอดปี ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน”
สำหรับการเตรียมความพร้อมกลุ่ม B2B นั้น ธีรวุธ ให้ข้อมูลว่า “บราเดอร์ได้เพิ่มทีมเป็น 10 คนเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนี้ และมีการจัดกลุ่มการดูแลลูกค้าใหม่ให้เป็นไปในลักษณะ by account ซึ่งปรับมาจากการดูแลลูกค้าที่จัดกลุ่มตามอุตสาหกรรม (by Industry) และได้วางแผนทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรมากขึ้น ทั้งดีลเลอร์ และดิสทริบิวเตอร์ รวมถึงการเพิ่มความยืดหยุ่นให้มากขึ้น ในการบริการลูกค้า และการสต็อกสินค้า”
“ปี 2567 บราเดอร์ ยังคงมุ่งหน้าที่จะยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ การให้บริการ การตอบแทนสู่สังคม เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าสูงสุด และเกิดความภักดีต่อแบรนด์ต่อไป โดยตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 6%” ธีรวุธ กล่าว
ย้ำการบริการครบวงจร
ด้าน รัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่า “จากการที่เราได้นำความคาดหวังของลูกค้า มาเป็นหัวใจของการให้บริการ และเชื่อมโยงการให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การขายไปจนถึงการดูแลหลังการขาย”
“ซึ่งมีระบบการจัดเก็บข้อมูลการเข้ารับบริการ ทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้อย่างตรงจุด รวมถึงการมีช่องทางการให้บริการ Pre Sales และ Post Sales ที่ครบทั้งทุกด้าน การให้ข้อมูลผ่าน Call center, E-mail, Facebook, Live Chat และ Chatbot (ผ่านทาง Web Site หรือ Line OA Brother Thailand)”
“รวมทั้งการให้บริการผ่านศูนย์บริการของ บราเดอร์ ทั้ง 4 แห่ง และ Authorized Service Center ทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ซึ่งบราเดอร์ได้พัฒนาช่องทางเหล่านี้ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงให้คำปรึกษา เพื่อให้ลูกค้าใช้สินค้าของ บราเดอร์ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และจะมีการประเมินความพึงพอใจทุกครั้งหลังจากให้บริการ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุงการบริการต่อไป”
Chatbot ที่ดูแลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
“ที่ผ่านมา บราเดอร์_ยังเป็นผู้นำในด้าน Chatbot โดยเรามีการใช้งานอยู่ 2 ตัว คือ น้องแคร์ (N’Care) ที่ให้บริการตอบคำถามทั้งก่อนและหลังการขาย ซึ่งสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และยังมี มิสเตอร์แคร์เออร์ (Mr. Carer) สำหรับศูนย์บริการแต่งตั้งในการตอบปัญหาด้านเทคนิค การซ่อมบำรุง และการแก้ไขปัญหาต่างๆ”
“รวมทั้งยังสามารถประมาณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการซ่อม และอะไหล่ต่างๆ ได้ทันที เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของลูกค้าในการซ่อม ซึ่ง Chatbot นี้ จะทำงานให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง” รัสสิญากร กล่าว
รวมทั้ง บริการเสริม_บราเดอร์แคร์แพค (Brother Care Pack) ที่ลูกค้าสามารถซื้อบริการเสริมต่างๆ เพิ่มเติมได้ นับตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่องวันแรก จนถึงวันสุดท้ายที่อยู่ในระยะเวลารับประกัน เช่น การขยายการระยะเวลารับประกัน การตรวจเช็คเครื่องและทำความสะอาดเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน การซ่อมนอกสถานที่ การติดตั้งเครื่อง
รวมถึงการให้บริการในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้า เพิ่มความคุ้มค่า ป้องกันการเกิดปัญหา ทำให้ลูกค้าทำงานอย่างต่อเนื่องไม่สะดุด และการใช้เครื่องได้อย่างยาวนานจะช่วยลดของเสียจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
ยืนยันให้คำมั่นเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม
ด้าน พรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท_บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจากการให้บริการที่เป็นเลิศแล้ว เรายังให้ความสำคัญในเรื่องของสิ่งแวดล้อม”
“โดยที่ผ่านมา_บราเดอร์ ได้ปรับปรุงการทำงานตามมาตรฐาน ไอเอสโอ 14001 หรือระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะต้องมีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งได้ทำต่อเนื่องมา 6 ปีแล้ว และจะทำต่อไป”
“นอกจากนี้บริษัทยังได้ทำการยกระดับสำนักงานโดยผ่านการทำมาตรฐาน Green Office อันเกิดจากความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Sustainable Development Goals ที่ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่ปี 2563-2593 โดยมุ่งเน้นใน 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย”
“เพิ่มการหมุนเวียนทรัพยากรสูงสุด, ส่งเสริมสังคมที่ไร้คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ และผลลัพธ์สุทธิที่เป็นบวกในระบบนิเวศน์ ผ่านนโยบาย Environmental Vision 2050 ส่งผลให้บราเดอร์ได้รับเหรียญทองจากการประเมินของสำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Office) ระดับดีเยี่ยม ตั้งแต่ปี 2564”
“ทั้งหมดล้วนเป็นการดำเนินการตามพันธสัญญาสากลที่_บราเดอร์ ยึดถือมาโดยตลอดคือความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนท้องถิ่นที่บราเดอร์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง และแนวทาง กรีน นี้ ได้ทำการปลูกฝังลึกลงไปในหัวใจของพนักงานทุกคน จนสะท้อนออกมาในการทำงาน”
การคิดถึงสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งที่อยู่ใน DNA ของบราเดอร์