Saturday, October 5, 2024
AICloudGenerative AIInfrastructureNEWSTechnology

Broadcom เปิดตัว VMware Cloud Foundation 9

VMware Cloud Foundation 9

Broadcom เปิดตัว VMware Cloud Foundation 9 (VCF 9) เทคโนโลยีที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านจากสถาปัตยกรรมไอทีแบบ Silo ไปสู่แพลตฟอร์ม Private Cloud

Broadcom เปิดตัว VMware_Cloud_Foundation 9 (VCF 9) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านจากสถาปัตยกรรมไอทีแบบ Silo ไปสู่แพลตฟอร์ม Private Cloud ที่รวมเป็นหนึ่งเดียวและบูรณาการเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยลดต้นทุนและความเสี่ยงของลูกค้าได้ ช่วยลดความซับซ้อนในการสร้างและการบริหารจัดการ private cloud ที่ปลอดภัยและคุ้มต้นทุนอย่างเห็นได้ชัด 

VMware_Cloud Foundation เป็นแพลตฟอร์ม Private cloud ที่สามารถขยายระบบและมีความยืดยุ่นได้เทียบเท่ากับ Public Cloud โดยมีความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพการทำงานในระดับของ Private Cloud อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายโดยรวมในการลงทุนที่ต่ำกว่าอีกด้วย ช่วยสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมดิจิทัลของลูกค้าได้เป็นอย่างดี 

ข้อมูลสำคัญจากการเปิดตัว VMware_Cloud Foundation 9
  • Private Cloud เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานบนโครงสร้างพื้นฐานส่วนตัวขององค์กร ไม่ว่าจะอยู่ที่ Data Center, Edge, Hyperscaler, ผู้ให้บริการ ฯลฯ license portability คือส่วนสำคัญของกลยุทธ์นี้
  • VMware Private AI ที่ทำงานบน VMware_Cloud Foundation 9 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับตัวให้ทำงานสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม Private cloud ได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้พวกเขาสามารถก้าวทันและต่อยอดจินตนาการเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง 
  • เร่งการขับเคลื่อน VMware Private AI Foundation มาใช้ร่วมกับ NVIDIA: โดยมุ่งเป้าไปยังองค์กรที่ต้องการใช้ประโยชน์จากขุมพลังของ AI ในขณะที่ยังคงใช้ข้อดีต่างๆ ของ Private Cloud ได้ โดยให้โซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับการสร้าง การจัดการ และการขยายแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพบน Private Cloud ด้วย VMware_Cloud Foundation 9 ทาง Broadcom จะนำเสนอ VMware Private AI Foundation ใหม่ที่มาพร้อมความสามารถของ NVIDIA ที่จะช่วยลดความซับซ้อนในการสร้าง GenAI Application เช่น การมองเห็นโปรไฟล์ vGPU การจองใช้งาน GPU การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อใช้งานร่วมกับ LLM และการสร้างส่วนประกอบอื่นๆที่จำเป็นสำหรับ GenAI Application 
  • ทาง VMWare Tanzu ได้พัฒนาไปสู่แพลตฟอร์มเดียวที่สามารถใช้งานรันไทม์ที่แตกต่างกัน (Kubernetes และ Cloud_Foundry/TAS) ซึ่งทุกอย่างที่นักพัฒนาต้องการในการสร้างแอปพลิเคชันนั้น จะถูกทำให้เป็นระบบ Automation ลดภาระงานทางกระบวนการคิดที่จำเป็น สามารถปรับขยายแอปพลิเคชันขนาดใหญ่ โดย VMware Tanzu Platform 10 สามารถติดตั้งบน VMware_Cloud Foundation ได้อย่างราบรื่น โดยมีการผูกการจัดการเข้ากับ VMware_Cloud Foundation และ Private AI
  • การลงชื่อเข้าใช้งานครั้งเดียว (Single-Sign-On) เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญของ VMware_Cloud Foundation 9 ที่จะมอบความสามารถที่ช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานทำงานเป็นระบบรวมและอัตโนมัติเพียงตัวเดียว ช่วยให้ลูกค้าสามารถก้าวทันความต้องการของแอปสมัยใหม่ และนำความสามารถขั้นสูงของ VMware_ที่มีอยู่แล้วจาก Broadcom มาสู่แพลตฟอร์ม private cloud
  • VMware_Cloud Foundation มักจะทำงานคู่กับ 2 ทีมหลักคือ ทีมโครงสร้างพื้นฐาน (Operation Team) และวิศวกรแพลตฟอร์ม (Platform Team) ที่ใช้ทรัพยากรไอทีเพื่อใช้งานแอปพลิเคชัน สำหรับทั้งสองกลุ่มนั้น ทาง VMware_Cloud Foundation มี VCF Operations หรือคอนโซลหลักสำหรับการบริหารจัดการแพลตฟอร์ม โดยเริ่มตั้งแต่การตรวจวิเคราะห์ไปจนถึง Application Topology ระบบจัดการ Tenant ไปจนถึง Application Blueprint และความสามารถอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นอีกมากมาย ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ที่จะทำให้วิสัยทัศน์ของ Private Cloud แพลตฟอร์มเป็นจริง

นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม VMware_Cloud Foundation ยังเพิ่มเติม Advanced services ไว้ให้เลือกใช้ เช่น data service, private AI, security ความยืดหยุ่น บริการข้อมูล AI ส่วนตัว ความปลอดภัย เป็นต้น 

จากรายงานการศึกษามูลค่าธุรกิจของ IDC ล่าสุดพบว่า องค์กรที่เข้าร่วมตอบแบบสอบถามได้ใช้ VMware_Cloud Foundation เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน Private & Hybrid Cloud ที่มีความปลอดภัย คล่องตัว ยืดหยุ่น และคุ้มทุน 

เมื่อวิเคราะห์จากคำตอบและนำมาเปรียบเทียบกับสภาพแวดล้อมก่อนใช้ VMware_Cloud Foundation พบว่าต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานลดลง 34% และประสิทธิภาพของทีมงานที่ดูแลระบบโครงสร้างพื้นฐานและระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น 50% ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานโดยรวมลดลง 42%

และใช้เวลาในการสร้างและบริหารจัดการ VM ใหม่เร็วขึ้น 61% ความสามารถในการทำงานของเครือข่ายเร็วขึ้น 50% และการจัดเก็บข้อมูลเร็วขึ้น 32% ส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) โดยรวมใน 3 ปีอยู่ที่ 564% และคืนทุนภายใน 10 เดือน