Thursday, November 21, 2024
Big DataNEWS

Blendata ประกาศความสำเร็จเติบโตเท่าตัว เล็งพัฒนา AI/ML ต่อยอด Big Data

Blendata ประกาศความสำเร็จเติบโตเท่าตัวตามเป้าหมาย เตรียมพัฒนา AI/ML ต่อยอด Big Data แย้มเตรียมเปิด 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่กลางปี หนุนเติบโต 100% ปีนี้

บลนเดต้า (Blendata) บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะ เผยหลังเปิดตัวบริษัทฯ และแพลตฟอร์ม Blendata Enterprise เมื่อกลางปี 2564 ที่ผ่านมา ลูกค้าองค์กรตอบรับดี รายได้เติบโตกว่าเท่าตัวตามเป้าหมาย และพบลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ยังคงมีความต้องการโซลูชันเพื่อใช้งานและจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพต่อเนื่อง

เตรียมพัฒนาโซลูชันใหม่ Ready to use AI/ML กลั่นจากองค์ความรู้ในการให้บริการลูกค้า เล็งสร้างบริการด้าน Big Data และ AI ต่อยอดบริการ Big Data ให้มีศักยภาพตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่มากขึ้น แย้มเตรียมเปิด 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่กลางปี ไปพร้อมกับรุกตลาดหลากหลายธุรกิจ ตั้งเป้าปีนี้เติบโต 100%

ณัฐนภัส  รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data

ณัฐนภัส  รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data เปิดเผยว่า ภายหลังจาก Blendata ได้เปิดตัวบริษัทพร้อมกับการให้บริการแพลตฟอร์ม Blendata Enterprise อย่างเป็นทางการ เมื่อกลางปี 2564 ที่ผ่านมา พบว่าได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าองค์กร รายได้เติบโตเท่าตัวตามเป้าหมาย

ซึ่งเป็นผลมาจากแพลตฟอร์มด้าน Big Data ของ Blendata ที่ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ธุรกิจในด้านการบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็ว รวมถึงปัจจัยด้านการเติบโตของตลาด Big Data และ Data Driven ทำให้ลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนมีความต้องการในการใช้แพลตฟอร์มเพื่อจัดการข้อมูล และเลือก Blendata เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กร

ในปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ Blendata ประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านของแพลตฟอร์ม Blendata Enterprise ที่เข้าไปช่วยองค์กรนำ Big Data Tech ไปใช้งานในหลายการประยุกต์ใช้ ที่นอกเหนือจากการขยายการใช้งานของกลุ่มลูกค้าเดิม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโทรคมนาคม หรือธนาคาร

อาทิ การขยายระบบประมวลผลและส่งปรับแต่ง Personalized campaign แบบ Real-time ของบริษัทโทรคมนาคมรายหนึ่ง ที่มีการขยายตัวของระบบที่ค่อนข้างมากกว่าเจ็ดเท่าตัว หรือการนำเทคโนโลยี Big Data เข้าไปช่วยติดตามหนี้สินแล้วนั้น เรายังได้ขยายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายธุรกิจยิ่งขึ้น

เช่น การไปทำระบบ Data automation และเป็น Data infrastructure ให้กับ Manufacturing ขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันให้กับองค์กร นอกจากนี้ยังให้บริการในด้าน Data analytics platform ให้กับธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาล เพื่อการนำข้อมูลของโรงพยาบาลทั้งกรุ๊ปมาจัดเก็บ และใช้ในการวิเคราะห์

นอกจากการขยายของกลุ่มลูกค้าแล้ว ยังมีการผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์อย่าง AIS Business อย่างเป็นทางการ ในการร่วมกันพัฒนา Big data as a service ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data บนระบบ AIS Cloud เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถติดตั้งระบบจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจในความปลอดภัยสูง ทำให้องค์กรในทุกขนาดสามารถนำเทคโนโลยี Big Data มาใช้ได้รวดเร็วและง่ายขึ้น โดยในปีนี้ยังมีแผนจับมือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพิ่มอีกเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ นายณัฐนภัส กล่าว

ณัฐนภัส กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการประยุกต์ใช้ด้านธุรกิจ อีกหนึ่งกรณีในปี 2564 ซึ่งถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของเราคือการที่ได้ช่วยเหลือลูกค้าของเรารายหนึ่ง โดยการนำเทคโนโลยี Big Data และ AI/ML ไปช่วยในการตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติทางด้านไซเบอร์

ซึ่งทำให้ Blendata สามารถตรวจสอบเคสทางด้านไซเบอร์ที่เป็นกระแสช่วงที่ผ่านมาอย่าง Ransomware เพื่อหาเส้นทางการโจมตีของแฮคเกอร์จากระบบทั้งบริษัทได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งช่วยทำให้องค์กรสามารถยับยั้งความเสียหายและอุดรูรั่วของบริษัทได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับทิศทางในปี 2565 นี้ Blendata มีเป้าหมายในการเติบโตมากกว่า 100% โดยการพัฒนา Ready to use AI/ML โซลูชันตามแต่ละกลุ่มธุรกิจพร้อมใช้งาน เป็นโซลูชันที่ Blendata พัฒนาขึ้นมาจากการรวบรวมองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้าไปร่วมพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูล ทำให้สามารถช่วยยกระดับการใช้ข้อมูลขององค์กร

อีกทั้งยังเตรียมการสร้างบริการด้าน Big Data และ AI แบบครบวงจร โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา, ผู้ให้บริการด้าน Hardware และ IOT, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ

รวมไปถึงสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหม่ จากความต้องการจริงขององค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทย และได้เตรียมเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะตอบสนองความต้องการด้าน Big Data ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในกลางปีนี้