
“ARM ประกาศความพร้อมรองรับการประมวลผลเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และคาดการณ์จะมีอุปกรณ์ ARM มากกว่า 100 พันล้านเครื่องที่พร้อมสำหรับ AI ตั้งแต่ระดับคลาวด์จนถึงเอดจ์ ภายในปี 2025
ในงานแสดงเทคโนโลยีระดับภูมิภาค COMPUTEX 2024 ARM ในฐานะบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีหน่วยประมวลผลหัวใจสำคัญของการประมวลผลสำหรับอุปกรณ์ไอที ได้ออกมาประกาศถึงเป้าหมายและความพร้อมสำหรับการรองรับทิศทางการพัฒนาและการประยุกต์ใช้งานปัญญาประดิษฐ์ในทุกๆ รูปแบบของการประมวลผลตั้งแต่คลาวด์ไปจนถึงเอดจ์
เรเน่ ฮาส ซีอีโอ และ คริส เบอร์กี้ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปในส่วน Client Line of Business แห่ง_ARM ได้คาดการณ์จะมีอุปกรณ์ ARM มากกว่า 100 พันล้านเครื่องที่พร้อมสำหรับ AI ตั้งแต่ระดับคลาวด์จนถึงเอดจ์ ภายในปี 2025 รวมถึงประกาศถึงความพร้อมของ ARM ด้วยการแนะนำนวัตกรรมล่าสุดที่พร้อมสำหรับโลกของปัญญาประดิษฐ์
คำถามที่เกิดขึ้นเมื่อโลกต้องการพลังของการประมวลผล AI
ในการแสดงวิสัยทัศน์ของ เรเน่ ฮาส ที่กล่าวถึงการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI ในหลายๆ กรณีนั้น หนึ่งในคำถามสำคัญ โลกมีพลังงานเพียงพอที่จะสนับสนุนความต้องการด้านการคำนวณที่เพิ่มขึ้นสำหรับ AI หรือไม่
ในขณะที่เราได้เห็นนวัตกรรมที่น่าทึ่งบางอย่างรอบๆ AI อุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับปัญหาที่น่าหนักใจ นั่นคือ ยิ่งโปรเซสเซอร์มีประสิทธิภาพดีขึ้นในการรองรับประสิทธิภาพที่ต้องการของ AI ก็ยิ่งเพิ่มความต้องการด้านพลังงานมากขึ้น
“ARM เป็นสถาปัตยกรรมที่มี DNA ออกแบบมาเพื่อใช้พลังงานต่ำและมีประสิทธิภาพสูงสุดที่มีประวัติศาสตร์กว่า 30 ปี จึงเป็นหน่วยประมวลผลที่เป็นคำตอบสำหรับโลกแห่งอนาคต และกำลังจะมีการใช้งานในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งนี่คือเหตุผลที่จะเห็นผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำ อาทิ AWS, Google และ Microsoft มาใช้ ARM_มากขึ้น”
“นอกจากนี้ ARM_เป็น CPU ที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงสุดในโลกและประหยัดพลังงาน จึงทำให้ ARM_ขับเคลื่อนนวัตกรรม AI ได้” ฮาส กล่าว
“ส่วนที่สำคัญในโลกอนาคต นั่นคือ ซอฟต์แวร์ ที่จะต้องรองรับการใช้พลังงานที่ต่ำลงด้วย ซึ่งแพลตฟอร์มการประมวลผลของ ARM_นั้นมีระบบนิเวศซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้งานสถาปัตยกรรม ARM_ได้มากมายแล้ว รวมทั้ง AI PC และ Windows on ARM_ที่ไมโครซอฟท์ได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้ว”
“อีกทั้งยังชี้ให้เห็น ARM_ได้กลายเป็นตัวเลือกเริ่มต้นสำหรับระบบปฏิบัติการหลักทุกระบบในโลก คอมพิวเตอร์ AI ที่ ไมโครซอฟท์ ประกาศออกมาเมื่อเร็วๆ นี้เป็นตัวอย่างที่ดี ที่ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานมากที่สุดสามารถรันบน Windows on ARM_ได้โดยตรง ด้วยระบบนิเวศของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ถึง 18 ล้านคน นักพัฒนาออกแบบบน CPU ARM มากกว่าโปรเซสเซอร์ตัวอื่นๆ ในปัจจุบัน”
ดังนั้นการสนับสนุนนักพัฒนาซอฟต์แวร์มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากเราต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ AI สามารถปลดปล่อยออกมา ตั้งแต่อุปกรณ์ขนาดเล็กที่สุดบนเอดจ์ไปจนถึงการฝึกซ้อมและการพยากรณ์ในคลาวด์ นักพัฒนาต้องสามารถนำนวัตกรรมที่พวกเขากำลังทำกับ AI มาทำงานบนฮาร์ดแวร์ในลักษณะที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับการใช้พลังงาน สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว และคาดการณ์ได้
ในงาน COMPUTEX 2024_ARM_ได้ประกาศถึงเครื่องมือ 2 ตัว ที่ ARM_มีพร้อมสนับสนุนผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ได้แก่
- ARM_Kleidi AI ชุดไลบราลีใหม่ ที่พร้อมสนับสนุนการประมวลผล AI สำหรับนักพัฒนาระบบที่จะทำให้ แอปพลิเคชัน AI สามารถรันบน ARM ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบนเฟรมเวิร์ก TensorFlow, PyTorch หรือว่าจะเป็น Llama 3 หรือ MediaPipe
- ARM_Compute Subsystems (CSS) for Client โซลูชันการประมวลผล AI สำหรับทั้งสมาร์ตโฟนและ PC ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM_เช่น ARMv9 หรือ ARMv9.2 มีประสิทธิภาพสูงในขณะที่ยังคงใช้พลังงานที่ต่ำได้ด้วย
ฮาส กล่าวต่อว่า “หากมีสิ่งใดที่เราได้เรียนรู้จากประวัติศาสตร์ 30 ปีกว่าของ_ARM ก็คือไม่ว่าฮาร์ดแวร์จะดีเพียงใด หากคุณไม่มีสิ่งที่นักพัฒนาสามารถเข้าถึงได้ ฮาร์ดแวร์นั้นก็ไม่ได้มีประโยชน์มากนัก”
ในส่วนของข้อได้เปรียบของ KleidiAI จากมุมมองของระบบนิเวศ ฮาสได้แบ่งปันวิดีโอของผู้บริหารจาก Samsung Mobile, Meta และ Google ว่าอย่างไร ARM_และ KleidiAI จะช่วยให้พวกเขาสามารถเร่งนวัตกรรม AI บน ARM ข้ามหลายตลาดได้
ARM_100 พันล้านเครื่องที่พร้อมสำหรับ AI ภายในสิ้นปี 2025
นอกเหนือจากงานยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่ ARM_กำลังทำเพื่อสนับสนุนระบบนิเวศนักพัฒนา AI แล้ว บริษัทฯ ยังคงต้องส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น เพื่อแชร์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทางด้าน คริส เบอร์กี้ กล่าวในงาน COMPUTEX 2024 ว่า “สำหรับ ARM_Compute Subsystems (CSS) เป็นอุปกรณ์ไคลเอนต์ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวที่นี่เป็นครั้งแรก”
“ARM_นำเสนอการนำร่องทางกายภาพของ CPU และ GPU บนสถาปัตยกรรมขั้นสูง 3 นาโนเมตร ตามที่ เบอกี้ กล่าว สิ่งนี้มีความสำคัญเพราะระบบนิเวศของ ARM_สามารถนำแกน CPU และ GPU ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว มาสร้างการนำร่องทางกายภาพบนสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตรขั้นสูงนี้และออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นด้วยความมั่นใจมากขึ้น”

“CSS ทำให้ผู้ผลิตชิปสามารถโฟกัสไปที่การสร้างความแตกต่างรอบๆ แพลตฟอร์มและสิ่งที่สถาปัตยกรรม ARMv9 สามารถนำมาสู่ผลิตภัณฑ์รุ่นต่อไปของพวกเขา เมื่อคุณผนวกรวมกับ KleidiAI นักพัฒนาก็จะมีเครื่องมือที่จำเป็นในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์รุ่นต่อไปได้อย่างเต็มที่”
ทางด้าน ฮาส กล่าวเสริมต่อว่า “เราเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ ARM_ต่อ AI อีกครั้ง โดยจะส่งมอบแพลตฟอร์มการประมวลผลที่ครบครันที่สุดในโลก ด้วยนวัตกรรมอย่าง ARM CSS และ KleidiAI คาดว่าจะมีอุปกรณ์ ARM_มากกว่า 100 พันล้านเครื่องที่พร้อมสำหรับ AI ภายในสิ้นปี 2025 นี่เป็นจำนวนอุปกรณ์ที่น่าทึ่งมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่เพียงปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโลกทั้งใบด้วย”
ฝากข้อคิดถึง C-Level กับการลงทุนในเทคโนโลยี AI
สำหรับองค์กรธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก ที่ผู้บริหารกำลังพิจารณาใช้งานเทคโนโลยี AI ฮาส ได้ให้ความเห็นว่า “ARM เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่อยู่ในอีโคซีสเต็มของ AI อย่างแท้จริง ซึ่งเรากำลังมองหาวิธีต่างๆ ในการใช้ AI เพื่อช่วยให้องค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
“หนึ่งในประเด็นที่สำคัญคือ เรื่องต้นทุนในการผลิต ผมขอยกตัวอย่างที่_ARM เนื่องจากค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่อยู่ที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และวิศวกรรม ทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตจากมุมมองด้านวิศวกรรม และคุณต้องการทำตอนนี้ ARM_มีส่วนร่วมในงานวิศวกรรมที่ซับซ้อนที่สุดในโลก”
“เราพัฒนาสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อน และขยายขอบเขตที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพ ความเร็ว และพลังงาน สิ่งใดก็ตามที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นจากการใช้งาน AI เช้ามาช่วยในเรื่องนั้นหรือมีความสำคัญมาก”
“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงในหลายองค์กรต้องพิจารณากับ AI คือ ณ เวลานี้อาจเป็นปัญหาที่ยุ่งยาก เพราะเราพูดถึงประโยชน์ของ AI มันมีมากมาย แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น”
“แต่อย่างไรก็ตาม แม้เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการหาและใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อทำให้สิ่งต่างๆ ได้่รับการพัฒนาขึ้น จากมุมมองของผม อาจมีบางเทคโนโลยีหรือบางแอปพลิเคชันทางธุรกิจที่ดูเกินจริง แต่ประเด็นสำคัญสำหรับผู้บริหารทุกคนในเรื่อง AI คือ เราจะมองหาสิ่งที่นำมาเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างประสิทธิผลได้จากอะไร”
ขณะที่ เบอร์กี้ เสริมว่า “สำหรับ CIO และ CFO รวมถึงผู้บริหารในตำแหน่งอื่น ผมคิดว่าทุกคนพยายามทำให้ถูกต้อง ในเรื่องการลงทุนเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรารู้ว่า ผู้ให้บริการคลาวด์อย่าง AWS สามารถสร้างความได้เปรียบด้านราคาและประสิทธิภาพมากขึ้น 40% จากการลงทุน AI”
“CFO บางคนบอกว่า AI คือการเปลี่ยนแปลงเกมสำหรับตัวเลขทางบัญชีในแง่ของกำไร หากคุณมองไปที่นวัตกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่บนคลาวด์เท่านั้น AI คือตัวเลือกแม้แต่ IDC ก็ยังออกมาส่งสัญญาณอยู่ตลอดด้วยเสียงเตือนของ AI ที่ดังขึ้น”
“ดังนั้น ผมคิดจริงๆ ว่าการมีกลยุทธ์ รวมถึงการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ในอนาคตคือสิ่งจำเป็น และผมต้องย้ำว่า การประมวลผลข้อมูลเพื่อแอปเกี่ยวกับ AI นั้น มันทำงานได้ดีบนแพลตฟอร์มของ_ARM” เบอร์กี้ สรุป