“TK ขานรับเทรนด์ ดาต้าซิเคียวริตี้ เพิ่มความเป็นส่วนตัว เสริมความปลอดภัยข้อมูลของลูกค้า ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย ยกระดับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ปรับขั้นตอนการทำงาน เปลี่ยนระบบเอกสารภายในองค์กร ทบทวนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลูกค้า คุมเข้มระบบการเข้าถึงและใช้งานข้อมูลในขอบเขตของกฎหมายและความยินยอม
รวมทั้งความปลอดภัยของข้อมูล พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับ ดาต้าซิเคียวริตี้ และการปฏิบัติงานภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล_หรือ PDPA ที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาให้กับพนักงานทุกคน ชี้ความท้ายทายใหม่ของทุกองค์กรคือการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ต่างๆ ให้สอดรับกับ พ.ร.บ. ดังกล่าว
ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวว่า “TK มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะนโยบายการกำกับดูแลกิจการ ที่รวมถึงนโยบายการดูแลเรื่องของการใช้ข้อมูลภายในองค์กรมาตลอด”
“ล่าสุดบริษัทฯ ได้ปรับขั้นตอนการทำงาน เปลี่ยนระบบเอกสารให้มีการกลั่นกรองและการทบทวนสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลลูกค้าของทุกหน่วยงานในองค์กร รวมทั้งการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล ให้เป็นไปตาม_พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”
“นอกจากการปรับเปลี่ยนระบบและวิธีการทำงานแล้ว การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องใหม่ๆ อย่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานทุกคนให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. ที่เพิ่งบังคับใช้ในประเทศ นับเป็นเรื่องที่ TK ให้ความสำคัญที่สุด”
“เพราะการมีระบบที่ดีบวกกับพนักงานที่เข้าใจระบบและวิธีการทำงาน จะช่วยให้ทั้งองค์กรสามารถปรับเปลี่ยนไปได้พร้อมๆ กันอย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้าน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาฝึกอบรมพนักงานทุกคนรวม 1,350 คน จาก 75 สาขา 57 จังหวัด ทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบการอบรมในห้องเรียนและการเข้าอบรมผ่านทางออนไลน์” ปฐมา กล่าว
ประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวว่า นอกจากการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว TK ยังเพิ่มการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า เพื่อเป็นการขานรับเทรนด์ ดาต้าซิเคียวริตี้ ดูแลความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูง”
“รวมไปถึงการสร้างความเข้าใจ พร้อมการสื่อสารที่ชัดเจนกับลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม นอกจากนี้ ยังเน้นการคุมเข้มการเข้าถึงและการใช้งานข้อมูลภายในองค์กรตามขอบเขตของกฎหมายและความยินยอมที่ถูกกำหนด”
“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล_หรือ PDPA เป็นเรื่องใหม่ที่ภาครัฐฯ ยังให้เวลาผู้ประกอบการและผู้บริโภค ได้ปรับตัวกันอีก 1 ปี เนื่องจากบางเรื่องยังต้องทำความเข้าใจในการปฏิบัติ หรืออาจจะยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการนำไปใช้งาน อย่างไรก็ดี คาดว่าหลังจากการนำ พ.ร.บ. ดังกล่าวไปใช้งานตลอด 1 ปีจากนี้ ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคจะสามารถปรับตัวและปฏิบัติได้ตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน” ประพล กล่าว