ILINK เปิดตัวปี 65 สวย เผยโค้งแรกไตรมาส 1/65 ทำรายได้รวม 1,427.52 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 84.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.24% ด้านยอดขายธุรกิจจัดจำหน่ายโตแกร่ง 20.31% รับกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ พร้อมเดินหน้าคว้างานโครงการขนาดใหญ่เติมแบ็กล็อกธุรกิจ EPC
วริษา อนันตรัมพร General Manager บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้า และค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ เปิดเผยว่า “ผลประกอบการในปี 2564 ที่ผ่านมาของ ILINK สามารถทำรายได้และกำไรแตะจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 ปี
ซึ่งโค้งแรกของปี 2565 นี้ บริษัทฯ เปิดตัวทำรายได้รวม 1,427.52 ล้านบาท เติบโต 6.78% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 84.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า ทิศทางรายได้และกำไรในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี
รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนทุกธุรกิจของกลุ่มอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ให้เติบโต ต่อเนื่องอย่างมีคุณภาพ และตอบรับกระแสโลกแห่งยุคดิจิทัลที่กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด”
ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) ไตรมาส 1/65 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 676.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.31% และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 55.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยภาพรวมการดำเนินธุรกิจปรับตัวดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งธุรกิจจัดจำหน่ายนี้ได้รับปัจจัยบวกจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโครงข่ายพื้นฐาน โดยเฉพาะอุปกรณ์ใช้สายซึ่ง ILINK เป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยมานานกว่า 30 ปี ส่งผลให้ลูกค้าในหลายภาคส่วนเกิดความต้องการในการปรับปรุงพัฒนาระบบ ซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อนำไปทดแทนสินค้าเดิมที่ล้าสมัย
บริษัทฯ พบว่ากลุ่มสินค้าที่มียอดขายเติบโตโดดเด่นในงวดนี้ คือ กลุ่มสายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) กลุ่มสายโซล่า (Solar Cable) และกลุ่มสาย UTP (LAN Cable) ซึ่งมียอดขายโตขึ้น 49.53% 39.63% และ 25.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ
ธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom) ในไตรมาส 1/65 เติบโตโดดเด่น มีรายได้จากการให้บริการรวม 582.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.51% และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเท่ากับ 58.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.97% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากที่ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ยุคของการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม
ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ของประเทศ และเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ทำให้สามารถผลักดันยอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเช่าโครงข่ายได้เพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งบริษัทฯ ยังสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิม และต่อยอดความสำเร็จในบริการอื่นเพิ่มเติม เช่น งาน Drone & Anti-Drone งาน Smart CCTV งานติดตั้ง Solar Cell เป็นต้น โดยอาศัยจุดแข็งของการให้บริการที่เหนือกว่าคู่แข่งขันรายอื่นๆ ในตลาด
ธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) ไตรมาส 1/65 มีรายได้รวมอยู่ที่ 155.95 ล้านบาท ซึ่งมาจากการทยอยรับรู้รายได้งานโครงการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่สำคัญๆ ในมือ (Backlog) กว่า 10 โครงการ เช่นงานก่อสร้างสายส่งแรงสูงในจังหวัดตรังและจังหวัดน่าน งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) งานระบบไฟฟ้าสายเคเบิลใต้น้ำเกาะปันหยี เป็นต้น
โดยรายได้ที่ลดลงนี้ เนื่องมาจากในไตรมาส 1/65 มีการปิดและส่งมอบงานโครงการขนาดเล็กเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อยตามกำหนดในสัญญาจ้าง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ วางแผนจะทยอยปิดและส่งมอบงานโครงการขนาดกลางถึงขนาดใหญ่อื่นๆ เพิ่มเติมในไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป
และล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามใน MOU รับจ้างดำเนินงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยพุทธมณฑล มูลค่า 617 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย พร้อมเดินหน้าคว้างานโครงการสายเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า มูลค่าอีกกว่า 1,700 ล้านบาท เพื่อเติม Backlog ในปีนี้ต่อไป