Saturday, November 23, 2024
NEWSPC LaptopProductsTechnology

เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ สนับสนุนการทำงานแบบไฮบริดเต็มรูปแบบ

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ยกระดับประสบการณ์การทำงานแบบไฮบริด ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แล็ปท็อป โมบายล์เวิร์กสเตชัน และอุปกรณ์เสริม ที่มาพร้อมความชาญฉลาดและความปลอดภัยด้วย AI แบบ built-in

ดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศเปิดตัวสายผลิตภัณฑ์ใหม่ของกลุ่มพีซี อุปกรณ์เสริม ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ เพื่อเสริมความแกร่งให้กับอนาคตการทำงานในรูปแบบผสมผสาน หรือไฮบริด เวิร์ก ที่มาพร้อมความชาญฉลาดและความปลอดภัยด้วย ชุดซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ AI แบบ built-in เสริมแกร่งเดลล์ให้เป็นดีไวซ์เพื่อการใช้งานในทุกที่อย่างสมบูรณ์

เสริมแกร่งด้วย Dell Optimizer AI แบบ built-in เพื่อการทำงานแบบไฮบริด

ในตัวผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานในเชิงธุรกิจของเดลล์ ได้มีการเพิ่มชุดซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือ Dell Optimizer เป็น built-in AI ที่ช่วยขับเคลื่อนประสบการณ์การทำงานแบบคอลลาบอเรชัน และประสบการณ์เฉพาะตัวบุคคลมากขึ้น สนับสนุนการทำงานในรูปแบบไฮบริด

Dell Optimizer จะช่วยเสริมประสบการณ์การทำงานใน 3 ประเด็นสำคัญคือ

ความเป็นส่วนตัว (Privacy) สามารถปกปิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนบนหน้าจอได้หากมีการตรวจพบผู้รุกล้ำ นอกจากนี้ เครื่องพีซีจะหรี่แสงโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ละสายตาจากหน้าจอเพื่อช่วยปกป้องข้อมูลและช่วยประหยัดพลังงาน

การเชื่อมต่อ (Connectivity) ความสามารถในการเชื่อมต่อหลายเครือข่ายในเวลาเดียวกัน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายทั้งแบบมีสายหรือไร้สายสองเครือข่ายได้พร้อมกัน เพื่อการถ่ายโอนและดาวน์โหลดข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในครั้งเดียว นอกจากนี้ ยังให้การบัฟเฟอร์ที่น้อยลงและเวลาในการตอบสนอง หรือลาเทนซีที่ลดลงสูงสุดถึง 30%

การทำงานร่วมกัน (Collaboration) ความสามารถในการตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้นเพื่อสัมผัสสภาพแวดล้อมของคนทำงาน รวมไปถึงการลดเสียงรบกวนรอบข้างที่ไม่เป็นที่ต้องการสำหรับผู้ใช้และบุคคลอื่นในที่ประชุม

Dell Optimizer ยกระดับขีดความสามารถด้านการจัดการโดยการนำรูปแบบการติดตั้งแบบแยกส่วน (modular installation) มาใช้ ทำให้ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบไอทีสามารถเลือกติดตั้งคุณสมบัติการทำงานที่ต้องการได้อย่างยืดหยุ่น

แล็ปท็อป ที่โจทย์การทำงานแบบไฮบริด

กลุ่มผลิตภัณฑ์แรกที่เดลล์เปิดตัว สำหรับผู้นำทางธุรกิจและผู้ใช้ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและทั้งความสามารถในการพกพา คือ แล็ปท็อป ตระกูล Latitude โดยทั้งหมดทำงานบน โปรเซสเซอร์ของอินเทล รุ่นที่ 12 และให้การเชื่อมต่อเครือข่าย 5G และ Intel Wi-Fi 6E ประกอบด้วย

Latitude 9430 เครื่องแล็ปท็อปอัลตร้าพรีเมียมพิเศษ หรือเครื่องแบบ 2-in-1 โน้ตบุ๊กเชิงธุรกิจขนาด 14 นิ้ว 16:10 ที่เล็กที่สุดในโลก พร้อมอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ดีที่สุดบนพีซีธุรกิจขนาด 14 นิ้ว มีให้เลือกในสีเมทัลลิคกราไฟต์ และยังมีกล้อง FHD ใหม่สำหรับการสนทนาทางวิดีโอที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

Latitude 7330 Ultralight บิสสิเนสโน้ตบุ๊กที่พกพาสะดวกแต่มีความทนทาน เพื่อการใช้งานเชิงธุรกิจระดับพรีเมียมขนาด 13.3 นิ้ว 16:9 ที่เล็กที่สุดและเบาที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนัก 2.13 ปอนด์ หรือ 0.967 กิโลกรัม เครื่องแล็ปท็อปมาพร้อมพอร์ตการทำงานทั้งหมดที่จำเป็น

Latitude 7330 – Ultralight

Latitude 7000 series มาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและตัวเลือกหน่วยความจำ DDR5 ในขณะที่ปรับระบบการระบายความร้อน และระบบเสียงอะคูสติกให้ดียิ่งกว่าเดิม ขณะเดียวกัน Latitude 2-in-1s ได้จับคู่การทำงานกับ Dell Premier Rechargeable Active Pen ปากกาแอคทีฟ เพน ตัวแรกของโลกที่มากับ Tile location tracking ที่สามารถติดตามตำแหน่งได้ผ่านบลูทูธ

ทั้งนี้ เดลล์ยังอัปเดต Latitude 5000 ซีรีส์ พร้อมการเปิดตัว Latitude 3330 ใหม่อีกด้วย

โมบายล์เวิร์กสเตชัน ที่ทรงประสิทธิภาพ

กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สองคือ โมบายล์เวิร์กสเตชัน สำหรับผู้เชี่ยวชาญ และครีเอเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความง่ายต่อการเคลื่อนย้ายพกพาได้อย่างเต็มที่ ที่มากับโซลูชันระบบนิเวศในด้านต่างๆ

Precision 5470 ใหม่มาพร้อมกับ โปรเซสเซอร์ Core i9 ของอินเทล รุ่นที่ 12 หน่วยความจำ DDR5 64GB พื้นที่จัดเก็บ 4TB และตัวเลือกกราฟิก NVIDIA RTX A1000 พร้อมกราฟิก 4GB GDDR6 หรือ Intel Arc Pro A30M และเดลล์ยังเปิดตัวโมบายล์เวิร์กสเตชันขนาด 15 และ 17 นิ้วที่บางที่สุดและเล็กที่สุด ซึ่งก็คือ Precision 5570 และ 5770 อีกด้วย

Dell UltraSharp 32 และ 27 4K USB-C Hub จอมอนิเตอร์แรกของโลกที่มีเทคโนโลยี IPS Black ที่ล้ำสมัย โดยให้คอนทราสต์ที่เข้มข้น สีดำที่เข้มลึก และมุมมองการรับชมที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของจอภาพในแบบ dual monitor เพิ่มประสิทธิภาพในงานทำงาน ปรับปรุงการทำงานของพวกเขาด้วยความชัดเจนระดับ 4K

UltraSharp 32 4K USB-C Hub Monitor

นอกจาก Dell UltraSharp 30 USB-C Hub Monitor จะมาพร้อมขนาดแล้ว 16:10 แล้ว จอภาพเหล่านี้ยังมีขอบเขตสีที่กว้าง มี ComfortView Plus เพื่อความสบายตาที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงคุณสมบัติการทำงานหลายอย่าง (multi-tasking) ไปพร้อมๆ กัน และพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ

อุปกรณ์เสริม ให้ประสบการณ์ที่ราบรื่นและเรียบง่าย

และกลุ่มอุปกรณ์สุดท้ายที่มีการเปิดตัวคือ อุปกรณ์เสริม ที่รองรับรูปแบบการทำงานแบบไฮบริด มีการเคลื่อนย้ายระหว่างพื้นที่ที่ใช้ในการทำงานไปมา ที่ต้องเสริมประสบการณ์กากรทำงานได้อย่างราบรื่นและเรียบง่าย ประกอบด้วย

Dell Dual Charge Dock มันคือ docking station สำหรับแล็ปท็อปเครื่องแรกของโลกที่มากับแท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน และหูฟังที่รองรับมาตรฐาน Qi ที่สามารถซัพพอร์ตมอนิเตอร์แบบ 4K สูงสุด 1 คู่ สำหรับโฮมออฟฟิศ

นอกจากนี้ ยังมี Dell Thunderbolt Dock พร้อมการออกแบบในแบบโมดูลาร์ที่พร้อมสำหรับอนาคต ที่รองรับความสามารถในการอัพเกรดที่ง่ายดายจากรุ่นก่อนหน้า ให้การชาร์จที่รวดเร็วผ่าน Thunderbolt 4 และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเชื่อมต่อจอแสดงผล 4K รวมถึงอุปกรณ์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ สำหรับการใช้งานในออฟฟิศทั่วไป

และ Dell Universal Dock ที่เหมาะที่สุดสำหรับพื้นที่ทำงานที่ใช้ร่วมกัน มอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกันสำหรับแล็ปท็อป USB-C พร้อมจำนวนพอร์ตสูงสุดใน Universal Dock

Dell Speakerphone และ Dell Slim Conferencing Soundbar คือสปีกเกอร์โฟนและซาวด์บาร์ที่ได้รับการรับรองจาก Microsoft Teams ที่มีความชาญฉลาดที่สุดในโลก ทั้งคู่มาพร้อมความสามารถในการตัดเสียงรบกวนด้วย AI ที่ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ในขณะที่ยังคงความชัดเจนของเสียงมนุษย์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์และชัดเจนยิ่งขึ้น

Dell Speakerphone
ความยั่งยืนและความปลอดภัย

สิ่งที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของทุกผลิตภัณฑ์คือความความมุ่งมั่นที่เป็นพันธสัญญาของเดลล์ที่มีต่อความยั่งยืนและความปลอดภัย สายผลิตภัณฑ์ใหม่ของเดลล์มาพร้อมกับวัสดุที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้นวัตกรรมในการใช้วัสดุที่ยั่งยืนในเครื่อง Latitude 5000 ซีรีส์

นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ใหม่ยังทำมาจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และสามารถรีไซเคิลได้ทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ใน Latitude แล็ปท็อปใหม่ทั้งหมด รวมถึง Precision โมบายล์เวิร์กสเตชัน และใน XPS 13 Plus

นอกจากนี้ เดลล์ยังนำเสนอพีซีเพื่อการใช้งานในธุรกิจที่ปลอดภัยที่สุดในอุตสาหกรรม ด้วยการใช้ทั้งซอฟต์แวร์ที่อยู่เหนือจากการคุ้มครองต่างๆ ของระบบปฏิบัติการ (OS) ตลอดจนการให้การปกป้องในรูปของฮาร์ดแวร์ที่อยู่ต่ำกว่าความสามารถของ OS ในการป้องกันภัยคุกคามทั้งในปัจจุบันและอนาคต สิ่งที่มาใหม่สำหรับ Dell Latitude ทุกรุ่นคือ Self-Healing Image Recovery ที่ให้การกู้คืนระบบปฏิบัติการหลังจากเกิดปัญหาร้ายแรง

พร้อมตอบสนองการทำงานแบบไฮบริด
นพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์

นพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า “การทำงานในแบบไฮบริดไม่ได้เป็นทั้งสิทธิพิเศษ หรือเป็นสิ่งที่เอาไว้คิดถึงในภายหลังอีกต่อไปแล้ว หากแต่กลายเป็นมาตรฐานในการทำงาน”

“ในขณะที่พนักงานต้องเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งในการทำงาน การสร้างประสบการณ์การทำงานที่มีประสิทธิภาพคือสิ่งสำคัญอันดับแรก กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานในองค์กรล่าสุดของเรายังคงให้ความสำคัญกับความสามารถด้านคอลลาบอเรชัน

การเป็นอัจฉริยะและความปลอดภัยเป็นอันดับแรก พร้อมด้วยการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการรูปแบบต่างๆ ของผู้ใช้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

จากการวิจัยใหม่จากเดลล์ เทคโนโลยีส์ พบว่า 44 เปอร์เซ็นต์ของคนทำงานต่างต้องการให้ผู้นำเพิ่มขีดความสามารถของพวกเขาให้สามารถเลือกรูปแบบการทำงานที่ต้องการได้ รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ

ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงาน ทั้งนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานในเชิงธุรกิจล่าสุดของเดลล์ มีเป้าหมายในการช่วยให้ทีมไอทีสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการทำงาน