“คาดการณ์ 5 แนวโน้มเทคโนโลยีสำคัญในปี 2565 ที่ผู้บริหารด้านไอทีควรพิจารณาเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านของซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และด้านดิจิทัลที่เกิดขึ้นใน อุตสาหกรรมยานยนต์
ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องยนต์ โดยให้ผู้อื่นเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แทน ขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นตัวสร้างความแตกต่างในรถยนต์ และซอฟต์แวร์จะกลายปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลักของกำไรให้กับผู้ผลิต โดยผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จะแปลงสภาพเป็นบริษัทเทคโนโลยีหรือบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ในที่สุด
เปโดร ปาเชโก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยอาวุโสของการ์ทเนอร์ ได้คาดการณ์ถึง 5 แนวโน้มเทคโนโลยีสำคัญในปี 2565 ที่ผู้บริหารด้านไอทีควรพิจารณาเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านของซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และด้านดิจิทัลที่เกิดขึ้นใน อุตสาหกรรมยานยนต์
5 แนวโน้มเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์ประจำปี 2565
1 ผู้ผลิตรถยนต์จะทบทวนแนวทางการจัดหาชิ้นส่วน
ผู้ผลิตรถยนต์กำลังพิจารณา กลยุทธ์จัดเก็บสินค้าคงคลังระยะยาว ที่ยึดตามหลักการจัดการสินค้าคงคลังแบบทันเวลาพอดีหรือ Just-In-Time ซึ่งส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน รวมถึงซัพพลายเออร์ ไม่มีสินค้าสำรอง โดยเฉพาะในช่วงภาวะการขาดแคลนชิปต่างๆ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องทบทวนว่า จะจัดการกับผู้ผลิตชิปอย่างไร รวมถึงการพิจารณาพัฒนาชิปของตนเอง
การ์ทเนอร์คาดว่าในปี พ.ศ. 2568 50% ของ 10 บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถยนต์ชั้นนำ จะผลิตชิปของตนเอง และสร้างกลยุทธ์รวมถึงความสัมพันธ์ระยะยาวร่วมกับผู้ผลิตชิปต่างๆ โดยตรง พร้อมยกเลิกระบบการผลิตแบบ Just-In-Time
2 บริษัทเทคโนโลยีไอที–ดิจิทัล จะมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศยานยนต์
ในปี พ.ศ.2565 นี้จะเห็นบริษัทดิจิทัลยักษ์ใหญ่ อาทิ AWS, Google, Alibaba หรือ Tencent ขยายธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์อย่างต่อเนื่อง บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้กำลังนำรถยนต์เข้าไปอยู่ในระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนเองมากขึ้น ซึ่งในที่สุดก็จะเปิดเป็นบริการเชื่อมต่อเทคโนโลยีเข้ากับรถยนต์ในรูปแบบใหม่ๆ
การ์ทเนอร์คาดว่า ในปี พ.ศ.2571 70% ของยานพาหนะที่ขายออกไปจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android ในรถยนต์ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่วันนี้มีไม่ถึง 1%
เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ด้วยตนเองเป็นเรื่องยาก บริษัทรถยนต์จึงร่วมมือกับบริษัทดิจิทัลรายใหญ่เพื่อเปลี่ยนซอฟต์แวร์ให้กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้หลัก หรือสร้างทรัพยากรภายในองค์กรจำนวนมากให้บรรลุเป้าหมายองค์กรได้ด้วยตนเอง
3 เกิดการบูรณาการด้านข้อมูล
เมื่อปีก่อนบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งได้สร้างระบบปฏิบัติการแบบโอเพนซอร์สและแพลตฟอร์ม รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) แบบเปิด ซึ่งแนวทางนี้ได้กระตุ้นให้เกิดรูปแบบความร่วมมือใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มมากขึ้นในปีนี้
Global Electric Vehicle Shipments, 2021-2022 (Actual Units)
2021
Shipments |
2021
Growth (%) |
2022
Shipments |
2022
Growth (%) |
|
Car | 4,473,907 | 38.3 | 6,022,147 | 34.6 |
Bus | 165,551 | 18.1 | 198,353 | 19.8 |
Van | 86,274 | 56.1 | 126,607 | 46.8 |
Heavy Truck | 15,171 | 41.5 | 22,663 | 49.4 |
Total | 4,740,903 | 37.7 | 6,369,769 | 34.4 |
Due to rounding, some figures may not add up to the totals shown. Source: Gartner (January 2022)
นอกจากนี้ บริษัทด้านยานยนต์ยังหันมาให้ความสำคัญกับข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับที่โลกเทคโนโลยีมองมากยิ่งขึ้น เป้าหมายของบริษัทไม่ใช่เพื่อขายข้อมูล แต่เพื่อนำข้อมูลมาสร้างหรือบูรณาการระบบนิเวศที่จะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลหลากหลายยิ่งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาฟีเจอร์หรือบริการดิจิทัลที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
4 ผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มระบบอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA เป็นช่องทางสร้างรายได้
ปีที่แล้วมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับยานยนต์ เมื่อผู้ผลิตรถยนต์หลายรายเริ่มเสนอการอัปเดตซอฟต์แวร์ในรูปแบบ Over-The-Air (OTA) โดยผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ได้พัฒนาฮาร์ดแวร์ของตนเอง เพื่อเปิดรับวิธีการอัปเดตซอฟต์แวร์ ด้วยเหตุว่า พวกเขากำลังเริ่มเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการสร้างรายได้ ที่มาจากบริการมากกว่ายอดขายสินค้า
นักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์คาดว่าภายในปี พ.ศ. 2566 ราว 50% ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ 10 อันดับแรกจะนำเสนอความสามารถในการปลดล็อคและอัปเกรดผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่สามารถซื้อได้หลังการจำหน่ายรถยนต์
5 ยานยนต์ไร้คนขับ กับอุปสรรคหลายประการที่ยังอยู่
แม้ว่าเทคโนโลยีการตรวจจับ (Sensing Technology) จะพัฒนาดีขึ้น แต่อัลกอริธึมของการรับรู้ก็มีความซับซ้อนยิ่งขึ้นตลอดจนกฎระเบียบและมาตรฐานการพัฒนาด้านต่างๆ ก็คืบหน้าไปเช่นกัน โดยที่ผู้พัฒนายานยนต์ไร้คนขับยังคงเผชิญความท้าทายในการขยายขอบเขตการดำเนินงานไปยังเมืองหรือพื้นที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ผู้ผลิตรถยนต์ได้เริ่มเปิดตัวรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในระดับ 3 และกำลังดำเนินการติดตั้งใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับในระดับ 4 รวมถึง ระบบการให้บริการรถรับส่งแบบ Taxi (หรือ Robotaxis) สำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตามการทดสอบด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเทคโนโลยีอัตโนมัตินั้นยังคงต้องใช้เวลาและรูปแบบการจำลองการขับให้มีความครอบคลุมรวมถึงการทดสอบในท้องถนนจริงๆ
นั่นทำให้การผลิตเชิงพานิชย์เป็นไปได้ช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง นอกจากนี้ ยังมีประเด็นต่างๆ อาทิ การรับผิดในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ กฎหมายที่เกี่ยวข้องและข้อพิจารณาทางสังคม เช่น วิธีการสื่อสารโต้ตอบระหว่างรถที่ขับเคลื่อนโดยมนุษย์และรถที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่กำลังเพิ่มความท้าทายให้สูงขึ้น
ต้นทุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่สูงมากในระบบ Robotaxis หรือระบบอัตโนมัติระดับ 4 ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ นอกจากเป็นสิ่งที่ขัดขวางความเร็วของการนำระบบอัตโนมัติมาปรับใช้ให้มีความแพร่หลายแล้ว ยังรวมถึงการส่งมอบผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อีกด้วย ซึ่งมันดูย้อนแย้งกันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากข้อดีหลักอย่างหนึ่งของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติก็คือการลดต้นทุนด้านการดำเนินงานของภาคการขนส่ง
นักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ คาดว่าภายในปี พ.ศ. 2573 ทั่วโลกจะมีจำนวนรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติเชิงพาณิชย์ (Robotaxis) ระดับ 4 เปิดให้บริการสูงกว่ารถแท็กซี่ในปัจจุบันถึง 4 เท่า
ทำความรู้จัก The 5 Levels of Autonomous Vehicles
สมาคมวิศวกรยานยนต์นานาชาติ (SAE International) ได้จัดระดับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ออกเป็น 6 ระดับ นั่นคือ ระดับ 0 – ไม่มีการทำงานอัตโนมัติ (No Automation) ระดับ 1 – การช่วยเหลือผู้ขับขี่ (Driver Assistance) เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบการควบคุมเลนเพื่อช่วยในการขับขี่
ระดับ 2 – ระบบอัตโนมัติบางส่วน (Partial Automation) ที่สามารถช่วยในการควบคุมความเร็วและการบังคับเลี้ยวได้ ช่วยเรื่องการจราจรแบบหยุดและไปได้โดยการรักษาระยะห่างระหว่างคุณกับรถที่อยู่ข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็ช่วยบังคับเลี้ยวด้วยการจัดตำแหน่งรถให้อยู่ตรงกลางเลน
ระดับ 3 – ระบบอัตโนมัติแบบมีเงื่อนไข (Conditional Automation) รถสามารถขับเองได้ แต่ภายใต้สภาวะที่เหมาะสมและมีข้อ จำกัด เช่น บนทางหลวงที่จำกัดการเข้าออก มีการใช้ความเร็วที่แน่นอน คนขับไม่ต้องควบคุมพวงมาลัยแต่ก็ยังต้องอยู่หลังพวงมาลัย
ระดับ 4 – ยานยนต์อัตโนมัติที่มีระบบอัตโนมัติสูง (High Automation) สามารถขับเองได้โดยไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ (นอกเหนือจากการเข้าสู่จุดหมายปลายทางของคุณ) และ ระดับ 5 – ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Full Automation)