กรุงเทพประกันชีวิตเผยประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2564 เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,611 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสก่อน
โชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่าในปี 2564 กรุงเทพประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกทั้งสิ้นที่ 6,262 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 จากปี 2563
โดยช่องทางตัวแทนมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และการมุ่งเน้นการขายสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง บริษัทยังมีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในช่องทางอื่นร้อยละ 25 จากการเติบโตของเบี้ยประกันภัยกลุ่มและช่องทางออนไลน์
อย่างไรก็ตาม เบี้ยประกันภัยรับปีแรกในช่องทางธนาคารลดลงร้อยละ 14 จากข้อจำกัดในการขายในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับเบี้ยรับประกันภัยสุทธิในปี 2564 มีจำนวน 33,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อนหน้า
สำหรับในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 กรุงเทพประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 1,611 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสก่อน ช่องทางธนาคารมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 74 จากไตรมาส 4 ปี 2563
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่อนคลายขึ้น ช่องทางตัวแทนมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากไตรมาสก่อนหน้า จากการออกผลิตภัณฑ์ Unit-linked และการปรับกลยุทธ์การขาย ขณะที่ช่องทางอื่นๆ มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในช่องทางออนไลน์
บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2564 จำนวน 347,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2563 ที่ร้อยละ 2 โดย สินทรัพย์ลงทุนมีสัดส่วนสูงที่สุดคือร้อยละ 95 ในปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 3,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 99 จากปี 2563
สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับและค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยที่ลดลง ทางด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR) ณ สิ้นปี 2564 ที่ระดับร้อยละ 301 เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จากผลกำไรจากการดำเนินงาน
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 นี้บริษัททำการตลาดในช่องทางจำหน่ายแต่ละช่องทาง โดยในช่องทางธนาคาร บริษัทยังคงทำการตลาดผ่านแคมเปญ “เลือกง่าย ได้ชัวร์” ที่มี ณภัทร เสียงสมบุญ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของกรุงเทพประกันชีวิต เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบบประกันเกนเฟิสต์ (Gain 1st)
ในส่วนของช่องตัวแทนจำหน่าย บริษัทได้ทำการสื่อสารแบบประกันควบการลงทุน Unit-linked ที่เปิดตัวใหม่ ทั้ง บีแอลเอ พรีเมียร์ลิงค์ แบบชำระเบี้ยประกันภัยรายงวด และ บีแอลเอ เวลธ์ลิงค์ แบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว ที่ให้ความคุ้มครองควบคู่ไปกับการลงทุนผ่านกองทุนรวมชั้นนำ บริษัทยังได้ทำการสื่อสารแคมเปญโฆษณาแบบประกันสุขภาพ บีแอลเอ แฮปปี้เฮลธ์ แบบประกันสุขภาพที่ทำให้หมดความกังวลทั้งค่ารักษาพยาบาลและส่วนเกินค่าห้อง ครอบคลุมค่าห้องเดี่ยวมาตรฐานของทุกโรงพยาบาลแบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
บริษัทยังได้เสริมบริการด้านสุขภาพผ่านบริการเสริมด้านสุขภาพภายใต้โครงการ BLA Every Care เพื่อรองรับความต้องการและดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มศักยภาพ และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพประกันชีวิตได้เปิดโครงการ Care@Home ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เพื่อให้บริการลูกค้ากรุงเทพประกันชีวิตทุกคนที่ต้องเข้ารับการรักษาใน Hospitel และ Home Isolation ที่ให้บริการติดตามอาการจากทีมแพทย์
และพยาบาลจากศูนย์บริการทางการแพทย์กรุงเทพประกันชีวิตพร้อมช่วยเหลือหากลูกค้ามีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลเพิ่มเติม รวมทั้งการจัดส่งชุดกักตัวอุ่นใจ และสิทธิการรักษาทางไกล (Telemedicine) นอกเหนือจากความคุ้มครองในกรมธรรม์ที่ลูกค้ามีอยู่
บริษัทได้มุ่งให้ความสำคัญในการส่งเสริมการก้าวสู่สังคมไร้เงินสดและลดการใช้ทรัพยากร ด้วยการจัดทำโครงการ “ร่วมลดได้ลุ้น 70ปี กรุงเทพประกันชีวิต” สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยแคมเปญ ร่วมลดได้ลุ้น จะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2565
รวมทั้งบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการสร้างและพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน ผ่านโครงการรับรองรายได้ผู้บริหารตัวแทนมืออาชีพ (Smart Leader) เพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพทีมงานขายอย่างมั่นคงและยั่งยืน และร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ด้านแผนการลงทุนคู่ความคุ้มครองผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการเงินให้ประชาชนทุกกลุ่ม