Friday, November 22, 2024
NEWSSmart City

หัวเว่ยจับมือ GLAND ร่วมผลักดันโปรเจ็ค Smart City

หัวเว่ยจับมือ GLAND ร่วมผลักดันโปรเจ็ค Smart City ในประเทศไทย หวังยกระดับภาคอุตสาหกรรมอสังหาฯ ไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล ด้วยนวัตกรรมระดับโลก

ริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงการเป็นพันธมิตรด้านส่งเสริมโครงการเมืองอัจฉริยะแห่งอนาคตในประเทศไทย มุ่งพัฒนาออฟฟิศอัจฉริยะในภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทย

เพื่อรองรับรูปแบบการทำงานแห่งอนาคตที่ผสมผสานเทคโนโลยีไอซีที ดิจิทัล และการเชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมวางแผนขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มธุรกิจรีเทล ศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย และโรงแรมทั่วประเทศไทยในอนาคต เร่งความพร้อมสู่การเป็นดิจิทัลฮับระดับอาเซียน เสริมนโยบายไทยแลนด์ 4.0

อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด

อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและ GLAND ครั้งนี้จะช่วยเสริมความอัจฉริยะให้แก่ภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย”

“ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์พันธกิจของหัวเว่ยในการเป็นผู้สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล รวมทั้งนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่ทุกคน บ้านทุกหลัง และองค์กรทุกแห่ง เพื่อสร้างประเทศไทยอัจฉริยะที่เชื่อมโยงกันอย่างเต็มรูปแบบ”

ด้าน นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ช่วยเติมเต็มและนำเอาความรู้ความเชี่ยวชาญของหัวเว่ย มาช่วยเพิ่มศักยภาพและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับมิกซ์ยูสโปรเจ็คต่างๆ อาทิ พื้นที่รีเทล ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย และโรงแรม รวมถึงบริษัทฯ ในเครือของ GLAND ในอนาคต”

“เพื่อสร้างเมืองแห่งการอยู่อาศัยอัจฉริยะ เป็น Smart Digital Township ที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบ สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้ธุรกิจ และยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว”

5 องค์ประกอบสร้าง Smart Digital Township

ความร่วมมือระหว่างเซ็นทรัลพัฒนา นำโดย GLAND และหัวเว่ย จะเป็นการพัฒนาอีโคซิสเต็มอัจฉริยะอย่างครบวงจร ผ่าน 5 องค์ประกอบสำคัญ ในการสร้าง Smart Digital Township ให้แก่โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ของ GLAND ได้แก่

1.Smart Building พัฒนาอาคารอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายด้านการใช้งานต่อผู้ใช้อาคาร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

2.Smart Asset Management การบริหารจัดการสินทรัพย์ด้วยเทคโนโลยี 5G เทคโนโลยีแอคเซสพอยท์ Wi-Fi 6 ความเร็วระดับอัลตร้าไฮสปีด โมดูล IoT และกล้องตรวจจับอัจฉริยะ

3.Smart Hospitality and Retail เชื่อมโยงระบบ Fiber Backbone สู่การเป็นโรงแรมและศูนย์การค้าอัจฉริยะแห่งโลกอนาคต

4.Smart Campus and Living ระบบอาคารและพื้นที่อยู่อาศัย ที่มุ่งเน้นด้านความปลอดภัย รวมถึงระบบที่จอดรถอัจฉริยะ

5.Intelligent Connectivity การเชื่อมต่ออัจฉริยะด้วยระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ VDO & Imaging Technology และ ไฟเบอร์ออพติก รวมถึงพื้นที่เก็บข้อมูลในคลาวด์

ก่อนหน้านี้ หัวเว่ยได้สานต่อความร่วมมือด้วยการเป็นพันธมิตรกับทางเซ็นทรัลพัฒนา โดยเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา หัวเว่ยได้จัดแสดงนิทรรศการ GREEN FOR FUTURE: ปรับบ้านเปลี่ยนอนาคต อย่างยิ่งใหญ่ ณ ลานกิจกรรม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเปิดตัวสายผลิตภัณฑ์โซลูชัน Huawei FusionSolar Residential Smart PV สำหรับใช้ในภาคครัวเรือนตัวใหม่ล่าสุด รองรับการผลิตและใช้งานพลังงานไฟฟ้าสะอาดภายในบ้าน

ซึ่งชูจุดเด่นเรื่องความประหยัดและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรณรงค์เรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net zero) แสดงให้เห็นความตั้งใจและพันธกิจในการร่วมการดำเนินงานอย่างแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทฯ เพื่อช่วยสร้างอนาคตที่ดีขึ้นแก่ประเทศไทยและสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลักดันประเทศไทยให้เป็นดิจิทัลฮับที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง

หัวเว่ย ทุ่มพัฒนาหลายโซลูชันรองรับโลกอัจฉริยะ

ในปัจจุบัน โลกอัจฉริยะได้ขยับเข้ามาใกล้การดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งกลุ่มธุรกิจหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ ได้มุ่งหน้าพัฒนาโซลูชันรับนวัตกรรมสำหรับรองรับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเต็มที่ เพื่อตอบรับกับโอกาสใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย และสร้างอีโคซิสเต็มด้านดิจิทัลที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเติบโต สร้างนวัตกรรมใหม่ และประสบความสำเร็จไปพร้อมกันได้

โดยข้อมูลจากเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา หัวเว่ยได้พัฒนาโซลูชันสำหรับใช้ในสถานการณ์ต่างๆ มากกว่า 100 รูปแบบ ครอบคลุมภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มากกว่า 10 ประเภท ซึ่งรวมไปถึงภาคอุตสาหกรรมเมืองอัจฉริยะ (Smart City) การเงิน พลังงาน คมนาคม และภาคการผลิต โดยโซลูชันด้านเมืองอัจฉริยะของหัวเว่ยได้รับการใช้งานในเมืองต่างๆ กว่า 700 แห่ง ใน 40 ประเทศและภูมิภาค

ทั้งนี้ หัวเว่ยได้ติดตั้งเทคโนโลยีไอซีทีเพื่อพัฒนาโซลูชันแคมปัสอัจฉริยะซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้แก่ลูกค้ากว่า 800 รายทั่วโลก ครอบคลุมตั้งแต่ภาครัฐบาล พลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต อสังหาริมทรัพย์ และการขนส่ง นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้มีส่วนร่วมในการวางมาตรฐานให้แก่แคมปัสอัจฉริยะมาอย่างต่อเนื่อง

ด้วยการมอบหมายให้ทีมงานเปิดตัวโครงการวางมาตรฐานระดับชาติชุดแรกให้แก่แคมปัสอัจฉริยะในประเทศจีน รวมทั้งได้ตั้งโครงการสำหรับพาร์ทเนอร์ที่ดึงดูดพาร์ทเนอร์จำนวนมากกว่า 133 รายให้มาเข้าร่วมอีโคซิสเต็มการเชื่อมต่ออย่างอัจฉริยะของหัวเว่ย ที่รองรับด้านแคมปัสอัฉริยะ