“การ์มิน” เผยโฉม “VENU 2 PLUS” จีพีเอสสมาร์ทวอทช์เต็มรูปแบบ อัดเต็มฟีเจอร์สั่งการด้วยเสียงโทรออก ส่งข้อความ เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน มอนิเตอร์สุขภาพและฟิตเนสครบจบบนข้อมือ
การ์มิน ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์จีพีเอสสมาร์ทวอทช์ระดับโลก ภายใต้แบรนด์สปิริต ‘ออกแบบสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก’ เผยโฉม “Venu 2 Plus” จีพีเอสสมาร์ทวอทช์จาก Venu 2 Series ที่มาพร้อม 2 ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด
ได้แก่ ฟีเจอร์โทรออก รับสายจากสมาร์ทวอทช์ และ ฟีเจอร์สั่งการด้วยเสียง ผสานกับฟีเจอร์เพื่อการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายแบบครบครันจาก Venu 2 Series
อาทิ ฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับขั้นสูง การให้คะแนนประสิทธิภาพของการนอนและข้อมูลการนอนเชิงลึก (Advanced Sleep with Sleep Score and Insights) ฟีเจอร์ติดตามระดับความเครียด (Stress Tracking) ฟีเจอร์ติดตามระดับพลังงานของร่างกาย (Body BatteryTM) ฟีเจอร์ติดตามการหายใจและติดตามระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) ฟีเจอร์ดูแลสุขภาพสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ
ทั้งการติดตามรอบเดือนและการตั้งครรภ์ (Menstrual Cycle Tracking and Pregnancy Tracking) และอีกหลากหลายฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแอคทีฟไลฟ์สไตล์ รวมถึง 25+ Built-in Sports Apps และ GPS Sports Apps ที่รวบรวมทั้ง การฝึกความแข็งแรงขั้นสูง
พร้อมภาพกราฟิกที่ช่วยระบุจุดของกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งาน การออกกำลังกายแบบ HIIT ปีนผาในร่ม และอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมาพร้อมหน้าจอ AMOLED สีสันคมชัด และพลังแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุดถึง 9 วัน
มร. สกาย เชน ผู้อำนวยการ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “ Venu 2 Plus จีพีเอสสมาร์ทวอทช์น้องใหม่จาก Venu 2 Series ที่คว้ารางวัล CES 2022 Innovation Awards รางวัลที่มอบให้กับสินค้าเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคที่ถูกออกแบบอย่างโดดเด่นประจำปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ DEAR BODY – WORK ON A NEW LOOK ด้วยขนาดหน้าปัด 43 มม. ดีไซน์พรีเมียม ตัวเรือนด้านหลังทำจากสเตนเลส มาพร้อมกับขอบหน้าปัดบางลง การแสดงผลหน้าจอใหญ่ขึ้น
และหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ที่คมชัด ที่ช่วยเติมเต็มทุกลุคของคุณให้คอมพลีท พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ให้ทุกการเชื่อมต่อไม่สะดุด ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของการใช้งาน ทั้งการโทรออก – รับสาย – ส่งข้อความโดยไม่ต้องปลดล็อคสมาร์ทโฟน และยังสามารถใช้งานระบบสั่งการด้วยเสียงจากสมาร์ทวอทช์บนข้อมือ
เพียงเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งานเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทวอทช์ที่สะดวกสบายและรวดเร็วกว่าเดิม นอกจากนี้ Venu 2 Plus ยังอัดแน่นไปด้วยหลากหลายฟีเจอร์ด้านไลฟ์สไตล์ การดูแลสุขภาพ และการออกกำลังกายสำหรับคนเมืองที่รักในการดูแลสุขภาพและใช้ชีวิตแบบแอคทีฟอยู่ตลอดเวลา”
“พลัส” ความสะดวกสบายด้วยฟีเจอร์น้องใหม่
Venu 2 Plus มาพร้อมสองฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายอีกระดับให้แก่ผู้ใช้ได้แก่ ฟีเจอร์โทรออกและรับสายจากสมาร์ทวอทช์ (Phone Calls From The Wrist) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโทรออกและรับสายได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัสจากบนข้อมือ เมื่อเชื่อมต่อการใช้งานสมาร์ทวอทช์เข้ากับสมาร์ทโฟน
และฟีเจอร์สั่งการด้วยเสียง (Voice Assistant Control) รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ ทั้ง สิริ (Siri) กูเกิลแอสซิสแทนต์ (Google Assistant) หรือ บิ๊กซ์บี้ (Bixby) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งการผู้ช่วยอัจฉริยะเพื่อโต้ตอบและส่งข้อความต่าง ๆ
รองรับทุกการใช้งานทั้งด้านสุขภาพและวิถีชีวิตประจำวัน
Venu 2 Plus ยังถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกด้านของไลฟ์สไตล์คนเมือง ที่เพียบพร้อมไปด้วยฟีเจอร์ติดตามสุขภาพแบบ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ ฟีเจอร์ติดตามการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Tracking) ฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับขั้นสูง การให้คะแนนประสิทธิภาพของการนอน
และข้อมูลการนอนเชิงลึก (Advanced Sleep with Sleep Score and Insights) ฟีเจอร์ติดตามการหายใจและติดตามระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) ฟีเจอร์วัดอายุของสุขภาพ (Fitness Age) ฟีเจอร์ติดตามระดับความเครียด (Stress Tracking) ฟีเจอร์ติดตามการดื่มน้ำ (Hydration Tracking) ฟีเจอร์ดูแลสุขภาพสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ
ทั้งการติดตามรอบเดือนและการตั้งครรภ์ (Menstrual Cycle Tracking and Pregnancy Tracking) ตลอดจน ฟีเจอร์ติดตามระดับพลังงานของร่างกาย (Body BatteryTM) ที่ช่วยประเมินระดับพลังงานและความพร้อมของร่างกายในการออกกำลังกายและกิจกรรมต่าง ๆ และ Health SnapshotTM ที่สามารถแสดงผลอัปเดตข้อมูลสุขภาพได้ทันใจภายในเวลา 2 นาที เพื่อคอยติดตามและเก็บข้อมูลทางสรีรวิทยาประกอบการดูแลสุขภาพ
ยิ่งไปกว่านั้น Venu 2 Plus ยังมาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยและสมาร์ทฟีเจอร์ที่หลากหลาย อาทิ ฟีเจอร์ตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติแบบอัตโนมัติ (Automatic Incident Detection) ที่คอยตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติขณะเดิน วิ่ง หรือ เดินทาง เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับ และส่งแจ้งเตือนขอความช่วยเหลือพร้อมพิกัดที่อยู่ให้กับปลายทางเมื่อผู้ใช้กดยืนยัน และ LiveTrack ฟีเจอร์ที่เปิดให้เพื่อนคนสนิทและครอบครัวสามารถติดตามกิจกรรมกลางแจ้งของผู้ใช้ อีกทั้งฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตแบบสมาร์ทยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการซิงค์กับบริการสตรีมมิง Spotify เพื่อเล่นเพลงโปรดได้โดยตรงจากนาฬิกาเมื่อเชื่อมต่อบลูทูธกับหูฟังไร้สาย และยังสามารถจัดเก็บเพลงโปรดได้สูงสุดถึง 650 เพลง พร้อมเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับเพื่อรับการแจ้งเตือนการโทรเข้าออก ข้อความ ปฏิทินนัดหมาย โซเชียลมีเดีย ข่าวสาร และอื่น ๆ ที่พิเศษสุดสำหรับผู้ใช้งานชาวไทยคือ บริการ Garmin x Rabbit บริการชำระเงินด้วย Garmin Pay โซลูชันการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ผ่าน Rabbit Card ณ ผู้ให้บริการที่มีสัญลักษณ์ยินดีต้อนรับ Rabbit Card
ตอบโจทย์แอคทีฟไลฟ์สไตล์ด้วยฟีเจอร์ที่ครบคัน
เพื่อการออกกำลังกายที่สะดวกสบายกว่าเดิม Venu 2 Plus ยังมีฟีเจอร์เพื่อการออกกำลังกายตัวล่าสุดจาก Venu 2 Series ได้แก่ Built-in Sports Apps โหมดการออกกำลังกายกว่า 25 ประเภทที่รวมถึงการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ โยคะ พิลาทิส ปีนผาในร่ม เดินเขา และการออกกำลังกายแบบ HIIT Advanced Strength Training โหมดแสดงภาพกราฟิกที่ช่วยระบุจุดของกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานในแต่ละการออกกำลังกายช่วยให้วางแผนการออกกำลังกายได้อย่างละเอียดและตรงจุดมากขึ้น
Preloaded Workouts ที่สามารถดาวน์โหลดพรีเซ็ตท่าการออกกำลังกายต่าง ๆ ได้กว่า 1,400 รูปแบบเพื่อช่วยผู้ใช้งานในออกแบบการออกกำลังกายให้ไม่จำเจผ่านแอปพลิเคชัน Garmin ConnectTM บนสมาร์ทโฟน และ Animated On-screen Workouts โหมดแสดงภาพแอนิเมชันที่จะช่วยแนะนำท่าออกกำลังกายกว่า 75 แบบผ่านสมาร์ทวอทช์
สำหรับการออกกำลังกายประเภท คาร์ดิโอ โยคะ ยกน้ำหนัก พิลาทิส และการออกกำลังกายแบบ HIIT นอกจากนี้ Venu 2 Plus ยังสามารถรองรับ Garmin Coach โปรแกรมโค้ชนักวิ่งที่ช่วยให้ผู้ใช้บรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายพร้อมปรับเปลี่ยนแผนการออกกำลังกายให้เหมาะสม
Venu 2 Plus ไม่เพียงแค่มีฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครัน แต่ยังพร้อมไปด้วยดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย เข้ากับการใช้งานในทุกวัน ด้วยตัวเรือนสแตนเลสขนาด 43 มม. และสายซิลิโคนขนาด 20 มม. โดยมีให้เลือกถึง 3 สี ทำจากวัสดุคุณภาพพร้อมจอสัมผัส AMOLED ที่ให้ภาพและสีสวยคมชัดเจน และพลังแบตเตอรี่ที่ยาวนานสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 9 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ และสูงสุดถึง 8 ชั่วโมงในโหมดจีพีเอสและฟังเพลง
ทั้งยังรองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานในโหมดสมาร์ทวอทช์ได้ 1 วัน หรือโหมด GPS และฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง สามารถยืดการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้นในโหมดประหยัดพลังงาน