ฟูจิฟิล์ม ร่วมกับ สีมาคอร์ปปอเรท สนับสนุนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วยโซลูชัน INNOMUSE
“ฟูจิฟิล์ม ร่วมกับ สีมาคอร์ปปอเรท นำร่องสนับสนุนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ให้ผู้หญิงในพื้นที่ห่างไกล ณ โรงพยาบาลปราสาท จ. สุรินทร์ ด้วยโซลูชัน INNOMUSE สำหรับการตรวจสุขภาพสตรีครบวงจร
บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด นำร่องสนับสนุนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมให้แก่ผู้หญิง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยห่างไกล โดยดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมให้แก่ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไปรวมทั้งสิ้น 50 คน ด้วยโซลูชัน INNOMUSE ที่มาพร้อมเครื่องแมมโมแกรมและเครื่อง อัลตราซาวด์ เพื่อการตรวจสุขภาพสตรีครบวงจร
ภายใต้ความร่วมมือกับ บริษัท โตโมกราฟ จำกัด (บริษัทในเครือสีมาคอร์ปปอเรท) ณ โรงพยาบาลปราสาท จังหวัดสุรินทร์ มุ่งนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ตรวจความผิดปกติของเต้านม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการวินิจฉัย
ตั้งเป้าเร่งสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรอง พร้อมเดินหน้ากิจกรรมตรวจคัดกรองสู่พื้นที่ห่างไกลอื่นๆ ในอนาคต หลังแพทย์ชี้การตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษามะเร็งเต้านมให้หายขาดและกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้
ฟูจิฟิล์ม ได้ดำเนินกิจกรรมตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ภายใต้ความร่วมมือกับ บริษัท โตโมกราฟ จำกัด (บริษัทในเครือสีมาคอร์ปปอเรท) โดยเริ่มนำร่องที่โรงพยาบาลปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 265 เตียง ที่ให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมในพื้นที่ห่างไกล
ด้วยวิสัยทัศน์การเป็นโรงพยาบาลแห่งความสุขและความเป็นเลิศด้านคุณภาพบริการ โรงพยาบาลได้พัฒนาสู่การเป็น Smart Hospital ที่นำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในทุกมิติ ทั้งระบบธุรกรรมแบบ Paperless และการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านสมาร์ตโฟน
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอคือส่ิงสำคัญ
พญ.ชูหงส์ มหรรทัศนพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปราสาท เปิดเผยว่า “จากสถิติการให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมที่ผ่านมา มีผู้มารับบริการถึง 226 ราย และพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านม 22 ราย คิดเป็น 10% ซึ่งได้รับการรักษาจนหายขาดแล้ว 9 ราย
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะยิ่งตรวจพบเร็วเท่าไหร่ โอกาสในการรักษาให้หายขาดก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
ปัจจุบันโรงพยาบาลได้เปิดให้บริการตรวจคัดกรองเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและเครื่องอัลตราซาวด์ โดยได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในการสนับสนุนเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
จึงอยากขอเชิญชวนประชาชนที่มีความเสี่ยง มาตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่โรงพยาบาล เพื่อการป้องกันโรคแต่เนิ่นๆ”
เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคน
ภูมิศิษฐ์ มณีพงศ์นาถ ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล บริษัท โตโมกราฟ จำกัด กล่าวว่า “การจับมือกันระหว่าง ฟูจิฟิล์ม และ สีมาคอร์ปปอเรท ในครั้งนี้ มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้ถึงความจำเป็นของการตรวจ คัดกรองมะเร็งเต้านมให้แก่ผู้หญิง พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการตรวจคัดกรองในพื้นที่ห่างไกล
ด้วยการนำนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยจากเพิ่ญี่ปุ่นมาให้บริการ ปัจจุบัน การตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเนื่องจากสามารถค้นพบรอยโรคขนาดเล็กได้ตั้งแต่ผู้ป่วยยังไม่มีอาการ โดย ฟังก์ชัน Comfort Comp ของเครื่อง แมมโมแกรมดิจิทัล AMULET Innovality ที่ช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการตรวจ
นอกจากนี้ เทคโนโลยีของตัวรับภาพชนิด Hexagonal Close Pattern (HCP) สามารถให้ภาพคมชัดและตรวจจับรอยโรคขนาดเล็กระดับนาโนเมตรได้ การใช้นวัตกรรมล้ำสมัย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของสีมาคอร์ปปอเรท ในการยกระดับการดูแลสุขภาพให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้พัฒนานวัตกรรมและโรงพยาบาล เพื่อนำเสนอโซลูชันที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุดตามบริบทของโรงพยาบาลนั้นๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และสร้างสังคมที่ทุกชีวิตได้รับการดูแล”
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมแบบเดิมยังมีข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงในพื้นที่ห่างไกล ทั้งความไม่สะดวกสบายระหว่างการตรวจ และความลำบากในการเดินทางไปโรงพยาบาลหลายครั้งเพื่อรับการตรวจหลายขั้นตอน ฟูจิฟิล์ม จึงพัฒนาโซลูชัน INNOMUSE เพื่อรับมือปัญหาเหล่านี้
โดยรวมเทคโนโลยีที่จำเป็นสองระบบไว้ในโซลูชันเดียว ทั้งเครื่องแมมโมแกรมดิจิทัล AMULET Innovality พร้อมฟังก์ชัน Comfort Comp ที่ออกแบบมาเพื่อลดความเจ็บระหว่างการตรวจ และเครื่องอัลตราซาวด์ Arietta 65 ที่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้แม้ในเนื้อเยื่อเต้านมที่มีความหนาแน่นสูง
การนำโซลูชันแบบครบวงจรนี้มาใช้ในโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกลอย่างโรงพยาบาลปราสาท ช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นได้เข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่มีคุณภาพได้สะดวกและสบายมากขึ้น นอกจากนี้ โซลูชัน INNOMUSE ยังครอบคลุมการตรวจสุขภาพด้านนรีเวชอื่นๆ
ทั้งการตรวจภายใน การตรวจมวลกระดูก และการดูแลสตรีตั้งครรภ์ ช่วยลดความจำเป็นในการเดินทางไปโรงพยาบาลหลายครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของฟูจิฟิล์มในการเดินหน้าขจัดอุปสรรคในการเข้าถึงบริการสุขภาพสำหรับผู้หญิงในพื้นที่ห่างไกล
พญ.ชนากานต์ สุวานิช นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานรังสีวิทยา โรงพยาบาลปราสาท เสริมว่า “แม้ว่าปัจจุบันเรามีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมหลากหลายวิธี ตั้งแต่การตรวจด้วยตนเอง การตรวจโดยบุคลากรทางการแพทย์ ไปจนถึงการใช้เครื่องมือทางรังสีวิทยาขั้นสูง แต่การผสมผสานการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรมและเครื่องอัลตราซาวด์ถือเป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดในขณะนี้ เพราะสามารถตรวจพบความผิดปกติขนาดเล็กที่ไม่สามารถคลำพบได้ด้วยมือ”
“รวมถึงหินปูนในเต้านมที่อาจพัฒนาเป็นมะเร็งได้ในอนาคต แน่นอนว่าเราจะไม่สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมได้ 100% แต่การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราพบความผิดปกติได้เร็วขึ้น นำไปสู่การรักษาที่ทันท่วงที และลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมได้อย่างมีนัยสำคัญ”
แม้การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดต้องอาศัยใช้ทั้งเครื่องแมมโมแกรมและเครื่องอัลตราซาวด์ควบคู่กัน แต่โรงพยาบาลส่วนใหญ่จำนวนมากในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ยังขาดแคลนเครื่องมือครบวงจรไว้ตรวจคัดกรอง
โซลูชัน INNOMUSE ที่ฟูจิฟิล์มพัฒนาขึ้น ช่วยตอบโจทย์ความท้าทายนี้ ด้วยการรวมเทคโนโลยีทั้งสองไว้ในโซลูชันเดียว ช่วยให้ผู้หญิงไทยและทั่วโลกเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างทันท่วงที
โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การตรวจพบมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ด้วยเทคโนโลยีแมมโมแกรมดิจิทัลและอัลตราซาวด์ เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
ในโอกาสครบรอบ 90 ปีของฟูจิฟิล์ม เรายังคงมุ่งมั่นยกระดับการดูแลสุขภาพของสังคมไทย ผ่านนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย ด้วยการทำงานร่วมกับภาคสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงและเข้าถึงผู้คนทุกกลุ่ม
สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายใหม่ของกลุ่มฟูจิฟิล์มในการ แต่งแต้มรอยยิ้มให้โลกของเรา เราจะมุ่งสร้างรอยยิ้มผ่านการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ เพื่อปูรากฐานที่มั่นคงสู่สุขภาวะที่ดีขึ้นให้สังคมไทยและทั่วโลก”
มะเร็งเต้านมยังคงเป็นภัยคุกคามด้านสุขภาพของสตรีไทย
ปัจจุบันมะเร็งเต้านมยังคงเป็นภัยคุกคามด้านสุขภาพที่น่ากังวลของสตรีไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข เผยว่าในแต่ละปี มีอุบัติการณ์เกิดในผู้ป่วยใหม่ ปีละประมาณ 12% และในปี 2566 พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่กว่า 17,742 คน หรือคิดเป็นวันละ 49 คน อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งพันธุกรรมและวิถีชีวิต
นอกจากนี้ ยังมีผู้หญิงจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองในสถานพยาบาลในชุมชนของตนได้ ด้วยข้อจำกัดทั้งด้านการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และความกลัวความเจ็บปวดระหว่างการตรวจ ทำให้หลายคนพลาดโอกาสในการตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอด้วยเครื่องแมมโมแกรมร่วมกับเครื่องอัลตราซาวด์ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ โดยสตรีที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรเข้ารับการตรวจคัดกรองเต้านมอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง
เช่น ผู้ที่มีประวัติมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ในครอบครัว ผู้ที่มียีนเสี่ยง ผู้ที่เคยได้รับการฉายรังสีบริเวณทรวงอกก่อนอายุ 30 ปี หรือผู้ที่ได้รับฮอร์โมนทดแทนหรือยาคุมกำเนิดติดต่อกันเกิน 5 ปี ควรเข้ารับการตรวจอย่างน้อยปีละครั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อเพิ่มโอกาสในการตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรกและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที