“เคล็ดลับความสำเร็จของ ยุภา ลีวงศ์เจริญ CFO ของทรู คอร์ปอเรชั่น ที่เพิ่งรับรางวัลผู้นำสตรีดีเด่นด้านการเงินกลุ่มโทรคมนาคมในเวทีระดับโลก ผู้นำการสร้างเสถียรภาพทางการเงิน และความท้าทายทางบัญชีหลังควบรวมกิจการ
ทรู คอร์ปอเรชั่น ประสบความสำเร็จอีกขั้นในระดับนานาชาติ เปิดเผยว่า ยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) ได้รับการยกย่องด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ Best Women Chief Financial Officer– Telecom หรือ ผู้นำสตรีดีเด่นด้านการเงินของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม จาก Women’s Tabloid Awards ประจำปี 2024 เวทีระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องความสำเร็จของสตรีในหลากหลายสาขาอาชีพ
รางวัลนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเป็นเลิศในการบริหารการเงินของผู้บริหารหญิงแกร่งท่านนี้เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของผู้นำสตรีในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมระดับโลก อีกทั้งยังสะท้อนวิสัยทัศน์ของทรู คอร์ปอเรชั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในองค์กร
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานมากกว่า 16 ปีในฐานะผู้บริหารระดับสูง ยุภา_ลีวงศ์เจริญ ได้สร้างผลงานอันโดดเด่นตลอดเส้นทางอาชีพ เริ่มต้นจากการทำงานในระดับบริหารในธนาคารชั้นนำของไทย ก่อนจะก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้บริหารในองค์กรรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ และต่อมาได้เข้าร่วมทำงานกับ UTV ผู้นำธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก หรือปัจจุบันคือทรูวิชั่นส์
ในช่วงที่บริษัทเผชิญกับ วิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 ที่เงินบาทลอยตัวและต้นทุนด้านคอนเทนท์ที่ซื้อจากต่างประเทศมาสูงขึ้นเป็น เท่าตัว และด้วยความทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง และความสามารถที่โดดเด่นสามารถผลักดันบริษัทผ่านสถานการณ์อันยากลำบากมาได้ จึงได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงินกลุ่ม ดูแลทุกธุรกิจของกลุ่มทรู
และต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงินกลุ่มทรู เป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคในเดือนมีนาคม 2566 โดยปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) ของ ทรู คอร์ปอเรชั่น
ยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า “รางวัลอันทรงเกียรตินี้ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของดิฉันเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของทรู คอร์ปอเรชั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการสร้างโอกาสสำหรับผู้หญิงในทุกระดับขององค์กร”
“ความสำเร็จนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่าง ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional agility) การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Innovative thinking) และทัศนคติเชิงบวกพร้อมรับการเปลี่ยน (Adaptive attitude) ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับผู้นำในยุคดิจิทัล”
ฝ่าความท้าทายของการควบรวมกิจการ
ตลอดระยะเวลาการทำงานที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ยุภาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำพาองค์กรผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบรวมกิจการครั้งสำคัญระหว่างทรู กับดีแทค ในปี 2566 ซึ่งถือเป็นการควบรวมด้านโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มจากการควบรวมกิจการ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ 2.5 แสนล้านบาท
ล่าสุด ยุภามีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายด้านความยั่งยืนของ ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยทรูเป็นบริษัทโทรคมนาคมและเทคโนโลยีแห่งแรกของไทยที่ได้รับ เงินกู้ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Syndicated Loan) มูลค่ารวม 1.41 แสนล้านเยน (ประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท) เพื่อนำเงินที่ได้ไปจ่ายคืนเงินกู้สกุลดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัท
วงเงินกู้นี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืน แต่ยังสอดคล้องกับแผนการบริหารการเงินและการลดต้นทุนของบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ การเข้าสู่ตลาดเงินเยนของญี่ปุ่นยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงิน เพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการบริหารการเงิน เป็นการขยายแหล่งเงินทุนตลอดจนลดความเสี่ยงจากการใช้สินเชื่อเงินบาทหรือดอลลาร์เพียงอย่างเดียว
ที่น่าสนใจคือ วงเงินกู้นี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารญี่ปุ่นและธนาคารต่างประเทศชั้นนำในจำนวนที่มากที่สุดเท่าที่บริษัทไทยเคยได้รับ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสถาบันการเงินระดับโลกต่อศักยภาพและการดำเนินงานของทรู คอร์ปอเรชั่น
ยุภายังให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เท่าเทียมและครอบคลุม รวมถึงการบริหารการใช้ทรัพยากรทางการเงินเพื่อผลประโยชน์ของพนักงานทุกเพศ รวมถึงกลุ่มชาย หญิง และ LGBTQI+
“ในฐานะผู้หญิง ดิฉันภูมิใจที่ได้เห็นการเปิดกว้างมากขึ้นในสังคม และโอกาสที่เท่าเทียมกันในแวดวงธุรกิจ” ยุภากล่าว
“นอกจากวิสัยทัศน์ ความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ และการมองภาพรวมที่จำเป็นต้องมีในผู้นำทุกคน ผู้หญิงสามารถนำคุณสมบัติที่มีในตัวทั้งความรอบคอบ อดทน และความใส่ใจในรายละเอียดมาเสริมทำให้การตัดสินใจทำได้เด็ดขาดเฉียบคมมากขึ้น สามารถนำพาองค์กรก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทาย พร้อมสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับองค์กร และสังคมโดยรวม” ยุภา_แม่ทัพหญิง กล่าวในที่สุด