Thursday, November 21, 2024
AIDigital TransformationeGovernmentGenerative AINEWS

รายงานผลสำรวจ AI Adoption & Readiness สำหรับบริการดิจิทัลของปี 2567

AI Readiness

ETDA ร่วมกับ สวทช. รายงานผลการศึกษา ความพร้อมในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับบริการดิจิทัลของปี 2567 พบ หน่วยงานมี AI Adoption 17.8% และ AI Readiness มีความพร้อมเฉลี่ยอยู่ที่ 55.1%

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดแถลงผลการศึกษา ความพร้อมในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับบริการดิจิทัลของปี 2567 

การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะได้ทราบถึงสถานการณ์และข้อมูลสำคัญ ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI จากปีที่ผ่านมา 

ช่วยชี้ให้เห็นโอกาสและอุปสรรคในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI ในสาขาหรือกลุ่มธุรกิจที่สำคัญ เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอแนะในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและใช้งานสำหรับบริการดิจิทัล อย่างสร้างสรรค์และมีธรรมาภิบาล รวมทั้ง เพื่อเป็นการสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2565 – 2570) ให้บรรลุเป้าหมาย

สำหรับผลของการศึกษานั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 หมวดใหญ่ๆ คือ การประยุกต์ใช้งาน (AI Adoption) และความพร้อมในการประยุกต์ใช้ (AI Readiness) 

การประยุกต์ใช้งาน (AI Adoption)

ผลการศึกษาพบว่า หน่วยงานที่มีการนำ AI มาใช้งานในองค์กรแล้ว 17.8% ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว (15.2%) เล็กน้อย และองค์กรที่มีแผนที่จะนำมาใช้ในอนาคต 73.3% และที่ยังไม่มีแผนที่จะใช้ AI 8.9% ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่าในอนาคตองค์กรในประเทศไทยจะมีนำ AI มาประยุกต์ใช้เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน 

ทั้งนี้ องค์กรที่มีการประยุกต์ใช้งาน AI มีเป้าหมายสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการภายในองค์กร (69.6%), พื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหรือการให้บริการขององค์กร (59.8%) และ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการขององค์กร (56.8%) ตามลำดับ

สำหรับองค์กรที่ปัจจุบันยังไม่มีการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในองค์กร ได้ให้เหตุผลที่น่าสนใจ 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) 69.6% ยังอยู่ในช่วงของการศึกษาข้อมูล เนื่องจากยังไม่ทราบว่าจะนำ AI มาประยุกต์ใช้อย่างไร (2) 59.8% รอนโยบายจากผู้บริหารที่จะเห็นความจำเป็นในการนำ AI มาใช้ 

และ (3) 56.8% องค์กรยังขาดความพร้อมและต้องการการสนับสนุนในด้านงบประมาณ รวมถึงยังต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในการลงทุนต่างๆ เพื่อให้สามารถนำ AI มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ความพร้อมในการประยุกต์ใช้ (AI Readiness)

ในการสำรวจ ความพร้อมในการประยุกต์ใช้ (AI Readiness) การศึกษาครั้งนี้ หมายถึงการศึกษาความพร้อมขององค์กรเป็นดัชนีการวัด 5 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านยุทธศาสตร์และความสามารถขององค์กร (2) ด้านข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐาน (3) ด้านบุคลากร (4) ด้านเทคโนโลยี และ (5) ด้านธรรมาภิบาล

โดยผลการสำรวจพบว่า องค์กรที่มีการนำ AI มาใช้งานแล้ว มีความพร้อมเฉลี่ยอยู่ที่ 55.1% หรืออยู่ในระดับ Aware ซึ่งหมายถึง องค์กรมีความตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยี AI และเริ่มนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในองค์กร ซึ่งสูงกว่า ผลการสำรวจปีที่ผ่านมาได้คะแนนที่ 45.3%

โดยเมื่อพิจารณาแยกลงไปในแต่ละด้าน (Pillar) พบว่า ด้านที่มีความเข้มแข็งมากที่สุด คือ ด้านข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐาน (ประกอบด้วย รูปแบบและคุณภาพของข้อมูล และ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่จำเป็นต่อการใช้งาน AI) โดยมีคะแนนเฉลี่ยความพร้อมในด้านนี้อยู่ที่ 65.5% ซึ่งจัดอยู่ในระดับ Aware 

โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความพร้อมเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มการศึกษา (71.2%), กลุ่มการเงินและการค้า (65.5%) และ กลุ่มโลจิสติกส์และการขนส่ง 63.5% 

ทั้งนี้ การที่หน่วยงานมีความพร้อมโดยเฉพาะในด้านข้อมูลสูง สาเหตุหนึ่งมาจากในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความตื่นตัวในเรื่องของ Big Data และเห็นความสำคัญของการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในมุมมองต่างๆ ตามที่องค์กรให้ความสนใจ สำหรับด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยในระดับรองลงมาได้แก่ ด้านบุคลากร ด้านยุทธศาสตร์และความสามารถขององค์กร ด้านธรรมาภิบาล และด้านเทคโนโลยี ตามลำดับ

Generative AI กำลังเป็นที่สนใจขององค์กร

ประเด็นและแนวโน้ม ที่น่าสนใจจากการศึกษาในปี 2567 นี้ได้แก่ ด้าน Generative AI พบว่า องค์กรมีใช้ Generative AI ไปเพื่อสนับสนุนการทำงานในด้านหลายด้าน โดยงาน 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) ด้านการพัฒนาสินค้าหรือบริการ/การวิจัยและพัฒนา (2) ด้านการตลาด การขายและบริการลูกค้า และ (3) ด้านกระบวนการผลิต 

ในขณะที่อุปสรรคสำคัญในการใช้งาน Generative AI คือ (1) องค์กรขาดบุคลากรที่มีทักษะ (2) องค์กรมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของข้อมูลที่นำมาใช้งาน และ (3) องค์กรยังขาดเงินทุนสำหรับการจัดซื้อและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้สามารถใช้งานได้ 

นอกจากนี้ ประเด็นที่น่าสนใจคือ ยังไม่พบว่าองค์กรใดเลยที่มีนโยบายที่จะเลิกการจ้างคนทั้งหมด แม้ว่างานในส่วนนั้นจะสามารถนำ Generative AI มาใช้แทนได้ก็ตาม แต่เน้นการพัฒนาบุคลากรให้สามารถทำงานร่วมกับ Generative AI ให้มากขึ้น

ข้อเสนอแนะเพื่อรับมือกับอนาคต AI 

จากผลการสำรวจดังกล่าว นำมาสู่ข้อเสนอแนะเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ได้แก่

Human development หรือ การพัฒนาทักษะ AI ในทุกระดับ เช่น ผลิต AI Talent, ให้มี AI Engineer, พัฒนาหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง และพัฒนาคุณวุฒิวิชาชีพด้าน AI รวมถึงความตระหนักรู้ AI Governance เป็นต้น

AI Cost and Productivity หรือ การสนับสนุนโดยภาครัฐในการช่วยให้ต้นทุนของการใช้ AI ลดลง และการส่งเสริมการใช้ AI ให้เกิดความคุ้มค่า

Ethics and Governance หรือ ธรรมาภิบาล AI เช่น แนวปฏิบัติ AI Governance และ การพัฒนา AI Risk Management Framework เป็นต้น

Consultancy Services หรือ การสร้างความตระหนักและสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมที่รองรับการขยายตัวของ AI เช่น มีศูนย์บริการเฉพาะด้านเพื่อให้คำปรึกษา (AI Consulting Clinic), ศูนย์ทดสอบและขึ้นทะเบียนนวัตกรรม AI และ การทำ AI Readiness Measurement เป็นต้น

Featured Image: Image by freepik