Sunday, November 24, 2024
NEWS

เอสซีจี เดินหน้าขับเคลื่อน Inclusive Society ส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดี ให้คนรุ่นถัดไป

เอสซีจี เดินหน้าขับเคลื่อน Inclusive Society ส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดี สังคมน่าอยู่ สิ่งแวดล้อมยั่งยืนให้คนรุ่นถัดไป

อสซีจี ขับเคลื่อน Inclusive Society สร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดี สังคมน่าอยู่ สิ่งแวดล้อมยั่งยืนให้คนรุ่นถัดไป ชวนทุกภาคส่วนร่วมแลกเปลี่ยน แบ่งปัน และสานต่อภารกิจความยั่งยืนให้อยู่คู่สังคมไทย ในงาน SCG “The Possibilities for Inclusive Society – เติบโตไปด้วยกัน…กับโลกที่ยั่งยืน”

ชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี

ชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี กล่าวว่า “ธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก สังคม และยุคสมัย เอสซีจีจึงยกระดับการขับเคลื่อนความยั่งยืนสู่ Inclusive Society ร่วมกับพนักงาน เครือข่าย พันธมิตร และชุมชน สร้างการเปลี่ยนแปลง แก้ไขปัญหาอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อมยั่งยืน และส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้คนรุ่นต่อไป โดยมุ่งผลักดันสังคมเติบโตไปด้วยกัน 4 ด้าน

ฟื้นน้ำ สร้างป่า ดำเนินงานมาเกือบ 20 ปี อาทิ โครงการ ‘รักษ์ภูผามหานที’ ถ่ายทอดแนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนให้ชุมชนนำไปปฏิบัติอย่างเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เพื่อให้มีน้ำกิน น้ำใช้ น้ำทำเกษตรตลอดปี พร้อมจับมือกับชุมชนดูแลระบบนิเวศให้สมบูรณ์และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ โดยตั้งเป้าหมายปลูก ฟื้นฟู อนุรักษ์ป่า 3 ล้านไร่ในปี 2593 ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 5 ล้านตันต่อปี

พัฒนาอาชีพมั่นคง พัฒนาทักษะอาชีพ ให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน อาทิ โครงการ ‘พลังชุมชน’ พัฒนาศักยภาพชุมชน แก้จนด้วยความรู้คู่คุณธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าท้องถิ่นมีอัตลักษณ์และตอบโจทย์ตลาด จนถึงปัจจุบันสร้างอาชีพไปแล้ว 4,942 คน สร้างรายได้เพิ่มกว่า 4-5 เท่า เกิดเป็นเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง 24 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งพัฒนาอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

อาทิ โครงการสุภาพบุรุษนักขับของ ‘โรงเรียนทักษะพิพัฒน์’ จัดหลักสูตรฝึกอบรมขับรถบรรทุกให้ผู้ว่างงานเป็นพนักงานขับรถบรรทุกมืออาชีพ  ‘แพลตฟอร์มคิวช่าง’ เปิดศูนย์ฝึกอบรมช่าง Q-CHANG ACADEMY เพื่อพัฒนาทักษะและยกระดับอาชีพช่างในด้านต่าง ๆ ครอบคลุมทักษะด้านความรู้ อารมณ์ การเข้าสังคม และธุรกิจ

ส่งเสริมสุขภาวะ สนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงระบบสาธารณสุข อาทิ โครงการ ‘แพทย์ดิจิทัล ดูแลผู้ป่วยทางไกล’ ใช้นวัตกรรม DoCare ระบบ Tele-monitoring และ Telemedicine ของเอสซีจี ดูแลผู้ป่วยทางไกลด้วยระบบติดตามสุขภาพ เก็บข้อมูลอย่างแม่นยำและต่อเนื่อง

พร้อมระบบปรึกษาแพทย์ทางไกล ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลจึงสามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเวลา ประหยัดค่าเดินทาง ปัจจุบันขยายผลใช้กับโรงพยาบาลแล้ว 13 โรงพยาบาล 1 วิสาหกิจเพื่อสังคม ครอบคลุม 12 จังหวัดทั่วไทย พร้อมตั้งเป้าขยายอีก 10 โรงพยาบาล ใน 10 จังหวัด ภายในปี 2567

สนับสนุนสังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านโครงการ ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์’ ความร่วมมือบูรณาการระหว่างรัฐ-เอกชน-ประชาชน (PPP: Public-Private-People Partnership) เปลี่ยนจังหวัดสระบุรีให้เป็นเมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย เพื่อเป็นแรงจูงใจให้จังหวัดอื่น ๆ เปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และช่วยให้ประเทศไทยบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2608 ความร่วมมือในสระบุรีแซนด์บ็อกซ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

อาทิ การกำหนดใช้ปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำในทุกงานก่อสร้างในจังหวัดสระบุรีตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป การทำนาเปียกสลับแห้ง ช่วยลดการใช้น้ำ ลดก๊าซมีเทน การปลูกหญ้าเนเปียร์พืชพลังงานสูง และนำของเหลือจากการเกษตรและขยะชุมชนไปแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน รวมทั้งร่วมกับชุมชนในการสร้างป่าชุมชนต้นแบบของจังหวัดที่ช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก และต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างรายได้ให้ชุมชน”

สำหรับงาน SCG “The Possibilities for Inclusive Society – เติบโตไปด้วยกัน…กับโลกที่ยั่งยืน” เป็นการรวมพลคนจากหลากหลายภาคส่วน ที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมในด้านต่าง ๆ โดยมี 4 ตัวแทนผู้นำชุมชน มาร่วมแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์ พร้อมส่งต่อพลังบวก

ได้แก่ วันดี อินทรพรม กำนันตำบลแกลง จังหวัดระยอง ผู้เปลี่ยนความแห้งแล้งของเขายายดา ให้เป็นป่าต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงชุมชนมาบจันทร์ ด้วยการ ‘สร้างฝายชะลอน้ำ’ จากองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมกับเอสซีจีซี จนป่าเขายายดากลับมาเขียวชอุ่ม ไม่เกิดไฟป่าในฤดูแล้ง และกลายเป็นหนึ่งในโมเดลตัวอย่างด้านการจัดการน้ำระดับประเทศ

โดยเรื่องราวความมุ่งมั่นของนางวันดีและชุมชนมาบจันทร์ในการเรียนรู้และร่วมมือกันบริหารจัดการน้ำเพื่อความอยู่รอดของชุมชน ยังได้ถูกถ่ายทอดผ่านหนังสารคดี ‘The Rain Keepers’ ซึ่งมีกำหนดฉายทางออนไลน์ผ่านช่อง VIPA ของไทยพีบีเอส ในเดือนกรกฎาคมนี้ อำพร วงค์ษา ประธานศูนย์หัตถกรรมบ้านงานฝีมือบ้านผาหนาม จังหวัดลำพูน หนึ่งในสมาชิก ‘โครงการพลังชุมชน’ ผู้พลิกวิกฤตของชีวิตเป็นแรงผลักดันสร้างโอกาสให้กับตัวเอง

พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างอาชีพให้คนในชุมชน เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ว่างงาน และผู้หญิงที่ขาดโอกาสในการทำงาน  จิตรา ป้านวัน ประธานชุมชนวังขรีวิถียั่งยืน ผู้ก่อตั้ง ‘กลุ่มเยาวชนยิ้มแฉ่งให้ด้วยใจ’ เพื่อแก้ปัญหาขยะ สร้างความร่วมมือภายในชุมชน เชื่อมเยาวชนและผู้สูงวัยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พัฒนาชุมชนให้สะอาด น่าอยู่

พร้อมมุ่งสู่การเป็นชุมชนคาร์บอนต่ำ  นิโลบล ลิจุติภูมิ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี บุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ดีแม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข ด้วยการใช้เทคโนโลยีแพทย์ดิจิทัลจากโครงการ ‘แพทย์ดิจิทัล ดูแลผู้ป่วยทางไกล’

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเปิดตัวหนังสือ ‘เหตุผลที่เรามารวมกัน’ ซึ่งเป็นการรวบรวมเรื่องราวการขับเคลื่อนความยั่งยืนของเอสซีจีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด E-book ‘เหตุผลที่เรามารวมกัน’ ได้ที่ https://www.scg.com/pdf/th/the-power-of-collaboration.pdf

ชนะ ภูมี กล่าวทิ้งท้ายว่า “โครงการต่าง ๆ ที่นำเสนอภายในงานนี้ เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ทุกคนเติบโตไปด้วยกัน ที่เอสซีจีร่วมมือกับพนักงาน เครือข่าย พันธมิตร และชุมชน มุ่งมั่นมาตลอดการดำเนินธุรกิจกว่า 111 ปี โดยเอสซีจียังคงเดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมายลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

ทั้งด้านการศึกษา อาชีพ และสุขภาวะ 50,000 คน ภายในปี 2573  อย่างไรก็ตาม เส้นทาง ‘การพัฒนา’ ไม่มีวันสิ้นสุด เราต้องเรียนรู้และปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่เสมอ เพื่อร่วมกันสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คน สังคมที่น่าอยู่ และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”