“Garmin ฉลองครบรอบ 35 ปี เดินหน้ารีเฟรชแบรนด์ สู่การเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคนทุกกลุ่ม ลบภาพจำอุปกรณ์สำหรับนักกีฬาเท่านั้น โฟกัสสินค้าเวลเนส สื่อสารแนวคิด สมาร์ทวอทช์ที่เข้าใจคุณและเป็นสมาร์ทวอทช์สำหรับทุกคน
มิสซี่ ยาง ผู้อำนวยการประจำ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจากที่ Garmin เข้ามาเปิดสำนักงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2564 และได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยมาโดยตลอด มีรายได้ไตรมาสแรกในไทยเติบโตกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน”
“ความสำเร็จในครั้งนี้ อาศัยแนวคิด Beat Yesterday เป็นหลักยึดสำคัญในการเดินหน้าขององค์กร ผลักดันให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้สวมใส่ทั้งในด้านดีไซน์และการส่งมอบข้อมูลสุขภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตทั้งระหว่างการซ้อม และในชีวิตประจำวันได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”
“นอกจากนั้นแล้วยังมีกลยุทธ์การขยายธุรกิจแนวดิ่ง (Vertical Integration) ซึ่งหมายถึงการที่ Garmin เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การพัฒนาด้านวิศวกรรม การผลิต การตลาด ตลอดจนการให้บริการ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร”
“ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพทั้งสายการผลิต และเพิ่มความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว เท่าทันอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการมอบสินค้าที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานของ Garmin_ให้กับลูกค้า”
“รวมถึงเรื่องการบริการหลังการขาย ที่ประกาศจะส่งมอบบริการหลังการขายที่ดียิ่งขึ้น โดยขยายเวลารับประกันสินค้านาน 2 ปีสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา” มิสซี่ กล่าวเพิ่มเติม
รีเฟรชแบรนด์ ก้าวสู่ผลิตภัณฑ์สำหรับคนทุกกลุ่ม
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ มิสซี่ กล่าวว่า Garmin_ได้รีเฟรชแบรนด์ จากภาพของผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มไปสู่การเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคนทุกกลุ่ม ด้วยการสื่อสารผ่านเมสเสจ Be More, Beat Yesterday ที่ยังคงให้ความสำคัญกับการเชิญชวนให้ทุกคนออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ และเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้นในทุกวัน
เปลี่ยนวิธีคิด และปรับมุมมองกลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยแบ่งเป็น (1) กลุ่มมือใหม่ (Beginner) คือกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มหันมาสนใจดูแลสุขภาพและเริ่มต้นออกกำลังกาย (2) กลุ่มรักสุขภาพ (Health Concern) คือ กลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และ (3) กลุ่มนักกีฬา (Athlete) หรือกลุ่มที่มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพเพื่อพิชิตสถิติหรือเป้าหมายใหม่ๆ
โดย Garmin_จะปฏิวัติแผนการสื่อสารเพื่อทำการสื่อสารเข้าใกล้กลุ่มคนทั้ง 3 กลุ่ม ภายใต้แนวคิด Garmin_มีดีมากกว่าที่คิด หาข้อที่ใช่…แล้วไปต่อ เพื่อขยายประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า ฉายภาพให้ทุกคนเห็นว่า Garmin_ไม่ใช่อุปกรณ์สำหรับนักกีฬาเท่านั้น แต่สามารถเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่ม
ไม่ว่าจะเป็นใคร เพศไหน อายุเท่าไหร่ หรือทำอาชีพอะไรก็สามารถได้รับประโยชน์จากการใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Garmin_ได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สร้างให้ Garmin_แตกต่างและจะนำมาสู่ความสำเร็จในปีนี้
โฟกัสกลุ่มสินค้าเวลเนส ด้วยสมาร์ทวอทช์สำหรับทุกคน
หรรษา อาภานุกูล ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การตลาด การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “จากพอร์ทสินค้าอันหลากหลายที่_Garmin_มีอยู่ ทั้งกลุ่มเวลเนส (Wellness) เอาท์ดอร์ (Outdoor) และกีฬาเฉพาะด้าน (Specialty)
พบว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สินค้ากลุ่มเอาท์ดอร์เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มผู้ใช้ชาวไทย คิดเป็น 48% รองลงมาเป็นสินค้ากลุ่มกีฬาเฉพาะด้านคิดเป็น 32% ส่วนสินค้ากลุ่มเวลเนสคิดเป็น 20%”
“สำหรับในปีนี้กลุ่มสินค้าเวลเนส เป็นโจทย์ของเราในการทำลายภาพจำเดิมที่ผู้บริโภคมีต่อ Garmin_ในฐานะสมาร์ทวอทช์สำหรับนักกีฬาและมืออาชีพ ด้วยการสื่อสารการตลาดที่เข้าใกล้ผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้น และทำให้ผู้บริโภคเชื่อว่า Garmin_คือ สมาร์ทวอทช์ที่เข้าใจคุณและเป็นสมาร์ทวอทช์สำหรับทุกคน (Garmin_is what you want)”
“หนึ่งในจุดเด่นของ Garmin_สมาร์ทวอทช์ คือการได้รับใบอนุญาตการใช้งานเครื่องมือแพทย์จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในเรื่องการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยแอปพลิเคชัน (ECG App)”
สมาร์ทวอทช์สำหรับทุกคน ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
สำหรับผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์ Garmin_ตั้งเป้าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เข้าใจคุณและสมาร์ทวอทช์สำหรับทุกคน (Garmin is what you want) ด้วยการผสานเทคโนโลยีเข้ากับการใช้ชีวิตเพื่อส่งมอบสินค้าภายใต้มาตรฐานความแม่นยำของ Garmin_โดยมุ่งเน้น 3 มิติสำคัญ ได้แก่
24/7 Monitoring ระบบที่มอนิเตอร์ข้อมูลได้ต่อเนื่อง ความอึดของอายุแบตเตอรี่ใน Garmin ทุกรุ่นที่อยู่ได้ไม่ต่ำกว่า 5 วัน ทำให้สามารถมอนิเตอร์ข้อมูลสุขภาพได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
Comfort ระบบเพื่อการดูข้อมูลอย่างสะดวกสบาย กับ Garmin_Connect ที่เป็นตัวช่วยเก็บข้อมูลด้านสุขภาพหรือการฝึกซ้อมของผู้ใช้งานซึ่งอยู่ในแอปพลิเคชันเดียว ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบ สามารถเรียกใช้งานและดูข้อมูลได้ทันทีที่ต้องการ
Reliable Technology เทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือ ซึ่งได้แก่ FIRSTBEAT ผู้ให้ผลวิเคราะห์ด้านความเครียด การฟื้นตัว และการออกกำลังกาย มีการวิจัยความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV) มากกว่า 2 ทศวรรษ
โดยเทคโนโลยีของ FIRSTBEAT จะแปลงข้อมูลการเต้นของหัวใจจากเซ็นเซอร์ในอุปกรณ์ของ_Garmin และเปลี่ยนเป็นข้อมูลที่สามารถนำมาใช้งานต่อได้จริงในรูปแบบ Stress Score และ Body Battery บนสมาร์ทวอทช์ของ Garmin ซึ่งทำให้ทุกการฝึกซ้อมและการพักผ่อนบาลานซ์ ไม่ต้องคาดเดา
สำหรับผลการดำเนินธุรกิจของ_Garmin ทั่วโลกนั้น มีรายได้เติบโตทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ราว 1,380 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 49,680 ล้านบาท โตกว่า 20% ขณะที่รายได้ในไทยเติบโตกว่า 25%