“ไต้หวัน เตรียมจัดการประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการ เมืองอัจฉริยะ 2024 ชูเทคโนฯ AI ที่มีอยู่ทุกแห่ง ซึ่งจะจัดขึ้นที่ไทเประหว่างวันที่ 19-22 มีนาคม และเมืองเกาสงระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2024
ไต้หวันเตรียมจัดการประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการเมืองอัจฉริยะ 2024 ครั้งที่ 11 (Smart City Summit & Expo – SCSE 2024) และงานประชุมสุดยอดผู้นำเมือง Net Zero City Expo ครั้งที่ 2
โดยการผนึกความร่วมมือของสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งไทเป สภาการพัฒนาแห่งชาติ และรัฐบาลเมืองเกาสง มีความยินดีในการเป็นเจ้าภาพในการต้อนรับแขกผู้มีเกียรติของรัฐบาลไต้หวันและภาคอุตสาหกรรมกว่า 2,000 รายจาก 46 ประเทศในการเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการและนวัตกรรมทั้ง 2 แห่ง เมืองไทเปและเมืองเกาสง
พร้อมเชิญชวนองค์กร หน่วยงาน ภาคธุรกิจทั้งในประเทศไต้หวันและนานาประเทศเข้าร่วมงานจัดประชุมประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการ เมืองอัจฉริยะ 2024 กับเทคโนฯ AI ที่มีอยู่ทุกแห่งทั้งการดำเนินชีวิต ทำงานและสิ่งอำนวยความสะดวกของเมืองอัจฉริยะ
ภายในงานยังมีการงานประชุมสุดยอดผู้นำเมือง Net Zero City Expo ครั้งที่ 2 (เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์) ภายใต้ปณิธานโลก COP เพื่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมเมืองและการแก้ไขปัญหาด้วยโซลูชั่นดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Smart Solutions) ซึ่งจะมีการร่วมหารือในกลุ่มผู้บริหาร ภาครัฐ ภาคธุรกิจ องค์กรต่างๆ จากนานาชาติ สู่การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
นอกจากนี้ยังมีเลขาธิการจากองค์กรระหว่างประเทศ ICLEI CityNet และ WeGO ร่วมกันกับผู้บริหารที่ดำเนินงานผลักดันความยั่งยืนระดับโลก (GeSI) ก่อตั้งโดยบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลกจะเข้าร่วมในงานนี้ด้วย
พร้อมกันนี้สภาชุมนุมอัจฉริยะ (ICF) จะเปิดเผยผลการคัดเลือกเมืองอัจฉริยะ 21 แห่ง ภายในการจัดนิทรรศการฯ รวมทั้งการมีส่วนร่วมของบุคคลสำคัญระดับโลกทุกท่านที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของไต้หวันในการสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและลดการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ทั่วโลก
ทั้งนี้เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม Internet of Things (IoT) ทางสมาคมคอมพิวเตอร์ไทเปได้จัดงาน SCSE มาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งปัจจุบันเป็นงานแสดงเทคโนโลยีอุตสาหกรรม IoT ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และในปี 2022 รัฐบาลเมืองเกาสงได้ร่วมเป็นผู้จัดงานนี้ด้วย โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ
จัดพ่วง Net Zero City Expo 2050
นอกจากนั้น สมาคมคอมพิวเตอร์ไทเป ได้ร่วมมือกับสภาการพัฒนาแห่งชาติ ในการขยาย SCSE ที่มีอยู่เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนิทรรศการเมืองปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ปี 2050 (Net Zero City Expo 2050) โดยผ่านการเชื่อมโยงระหว่างเมืองภายในประเทศและต่างประเทศ พร้อมแลกเปลี่ยน แบ่งปันความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาด้วยเทคโนโลยี Net-Zero
ซึ่งงานนี้มีจุดประสงค์เพื่อการขับเคลื่อนให้ไต้หวันบรรลุเป้าหมายการ์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไต้หวันในการร่วมมือกับเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อสู่การเปลี่ยนแปลงด้วยดิจิทัลและเพื่อโลกสีเขียว
เจสัน เฉิน ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรโซลูชันเมืองอัจฉริยะของไต้หวัน กล่าวว่า การจัดงานประชุมและนิทรรศการฯ ในเมืองไทเปและเกาสงปีคิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 13% จากปีที่ผ่านมา โดยมีผู้จัดแสดงสินค้าทั้งหมด 600 ราย รวม 2,200 บูธ ผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศมากกว่า 2,000 ราย จาก 46 ประเทศ
ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมที่เป็นตัวแทนจาก 112 เมือง และผู้แทนจากภาครัฐกว่า 400 ราย พร้อมด้วยนายกเทศมนตรี 80 ราย
ตลอดจนผู้เข้าเยี่ยมชมจากองค์กรต่างๆ กว่า 1,600 ราย ถือเป็นการสร้างสถิติใหม่ทั้งในส่วนของการออกบูธนิทรรศการและการเข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติ สืบเนื่องด้วยผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างรวดเร็ว
อาทิ เทคโนโลยี 5G, IoT, การประมวลผลบนคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์(AI) และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการผลิตแบบอัจฉริยะ พลังงานอัจฉริยะ การขนส่งอัจฉริยะ การดูแลสุขภาพอัจฉริยะ การก่อสร้างอัจฉริยะ การอนุรักษ์พลังงานเมืองอัจฉริยะและการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์
ภายใต้ ธีมการจัดประชุมและนิทรรศการฯ ในปีนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงด้วยดิจิทัลและเพื่อโลกสีเขียว โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ภาครัฐและภาคธุรกิจต้องเร่งขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผ่านนิทรรศการและการอภิปรายในฟอร์รัม
เชียน เกว เกา รัฐมนตรีช่วยว่าการสภาการพัฒนาแห่งชาติ กล่าวถึง ภาพรวมการจัดงาน Net Zero City Expo ครั้งที่ 2 ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์หลัก 12 เรื่อง ตามแผนการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ของรัฐบาลในปี ค.ศ. 2050
ซึ่งรวมถึงพลังงานจากลม ดวงอาทิตย์ ไฮโดรเจน พลังงานเชิงนวัตกรรม ระบบไฟฟ้าและการจัดเก็บพลังงาน การประหยัดพลังงาน การดักจับก๊าซคาร์บอน การใช้งานและการจัดเก็บ ยานพาหนะไฟฟ้าและปล่อยคาร์บอน การรีไซเคิลทรัพยากรและขยะเป็นศูนย์ การกักเก็บคาร์บอน การสร้างพื้นที่สีเขียวก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ การเงินสีเขียวและการเปลี่ยนแปลงโลก
โดยผ่านนิทรรศการและฟอรัม โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงความมุ่งมั่นและความสำเร็จของประเทศในการมุ่งสู่อนาคตสุทธิเป็นศูนย์ ดังนั้นจากการผนึกความร่วมมือของภาครัฐ 8 กระทรวงในไต้หวัน โดยมีสภาการพัฒนาแห่งชาติ กระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร กระทรวงสิ่งแวดล้อม สภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงเศรษฐกิจ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงิน ซึ่งจะทำการนำเสนอโครงการที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ
อีกทั้งทางกระทรวงการคลังและคณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงินจะนำธนาคารของรัฐและเอกชน 20 แห่ง เพื่อแสดงนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่จำเป็นต่อสำหรับการเปลี่ยนแปลงองค์กรสีเขียว ซึ่งงานครั้งนี้นับเป็นการจัดงานแสดงนวัตกรรมและนิทรรศการทางด้านการเงินสีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050
สมาคมคอมพิวเตอร์แห่งเมืองไทเป ระบุว่าการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกซึ่งเกิดจาก Open AI แอปพลิเคชัน AI ได้แพร่กระจายไปยังอุตสาหกรรมต่างและรัฐบาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Generative AI, Edge AI หรือแอปพลิเคชันโมเดลการคำนวณ AI ทุกรูปแบบ ซึ่ง AI สามารถลดความซับซ้อนในการสื่อสารระหว่างประชาชน ชุมชนเมืองและรัฐบาล รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการต่างๆ แก่พลเมืองของไต้หวันได้อย่างถึงที่สุด
ทั้งนี้ไต้หวัน ถือเป็นส่วนหนึ่งของฐานการผลิตสคัญทั้งฮาร์ดแวร์ AI ระดับโลกมาโดยตลอด และการจัดงานประชุมและนิทรรศการฯ ครั้งนี้ เชื่อมันว่าผู้เข้าร่วมจะได้พบ สัมผัสกับการใช้งานแอปพลิเคชัน AI ทุกหนทุกแห่ง ภายในพื้นที่นิทรรศการ AI+Cluster ของไต้หวัน (AI ยุคใหม่และ SCSE: AI ฟอร์รัม) ที่จะจัดขึ้น เพื่อเชื่อมต่อกับการจัดแสดงคอนเทนท์ของบริษัท AI ทุกแห่ง
โดยตั้งเป้าหมายเพื่อแสดงถึงบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของการพัฒนาแก้ไขปัญหาด้วย AI ขององค์กรในไต้หวัน สำหรับงานจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการเมืองอัจฉริยะ 2024 ครั้งที่ 11 หรือ (Smart City Summit & Expo – SCSE 2024)จะจัดขึ้นที่ไทเประหว่างวันที่ 19-22 มีนาคม ณ ศูนย์จัดการประชุมและนิทรรศการหนานกังไทเป ฮอลล์ 2 ชั้น 1 และ 4
และงานประชุมสุดยอดผู้นำเมือง Net Zero City Expo ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2024 ณ ศูนย์จัดการประชุมและนิทรรศการเกาสง