Red Hat เปิดตัว Red Hat Ansible Lightspeed with IBM watsonx Code Assistant
“เร้ดแฮท ประกาศวางตลาด Red Hat Ansible Lightspeed with IBM watsonx Code Assistant ซึ่งเป็นบริการ Generative AI ที่ช่วยให้นำไอทีอัตโนมัติมาใช้ทั่วทั้งองค์กรได้เร็วขึ้น
ประกาศล่าสุดจาก เร้ดแฮท แจ้งว่า ได้ประกาศวางตลาด Red Hat Ansible_Lightspeed with IBM watsonx Code Assistant ซึ่งเป็นบริการ Generative AI ที่ช่วยให้นำไอทีอัตโนมัติมาใช้ทั่วทั้งองค์กรได้เร็วขึ้น
เพื่อสนับสนุนองค์กรใช้ไอทีอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI บริการ AI ที่สร้างขึ้นอย่างเจาะจงนี้ เปิดให้บริการทั่วไป (GA) แล้ว โดยให้บริการ Ansible advisor ที่เชื่อถือได้ เพื่อช่วยขยายและสเกลคอนเทนต์อัตโนมัติให้กับทีมงานต่างๆ ด้วยประสิทธิภาพสูง ถูกต้องแม่นยำ และเชื่อถือได้
Red Hat Ansible Lightspeed สร้างคำแนะนำคอนเทนต์ต่างๆ จากการป้อนคำสั่งของผู้ใช้ และผสานรวมกับ IBM Watsonx Code Assistant เพื่อเข้าถึงโมเดลพื้นฐานต่างๆ ของ IBM และสร้าง Ansible content ได้อย่างรวดเร็ว
บริการนี้สร้างขึ้นสำหรับ Ansible เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานลดช่องว่างระหว่างแนวคิดเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ และการสร้าง Ansible content ซึ่งไม่เพียงช่วยให้บุคลากรด้านไอทีทั้งหมดเข้าถึงระบบอัตโนมัติได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เกิด content best practices และการดูแลที่ทำได้ทั่วทั้งองค์กร ส่งผลให้ระบบอัตโนมัติมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกันมากขึ้น
ระบบอัติโนมัติที่เน้นการใช้งานได้จริง
Ansible Lightspeed with watsonx Code Assistant ที่สร้างตามเป้าหมายและได้รับการเทรนบน Ansible data เป็นการผสานพลังของประสบการณ์ตรงเข้ากับนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อมอบคำแนะนำคอนเทนต์ต่างๆ ที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น สอดคล้องกัน และเจาะจงตามความต้องการทางธุรกิจต่างๆ
บริการนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพวิธีการทำงานให้กับงานที่ได้กำหนดไว้แล้ว โดยเป็นส่วนเสริมในเวิร์กโฟลว์ของ Red Hat Ansible_Automation Platform ที่มีอยู่ ควบคู่กับชุดเครื่องมือครบชุดของ Ansible content
ทั้งนี้นักพัฒนาซอฟต์แวร์และผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าใช้ศักยภาพของ Ansible_Lightspeed with watsonx Code Assistant ได้โดยไม่จำเป็นต้องล้อกอินเข้าใช้เครื่องมือหรือบริการแยกกัน เพราะบริการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Ansible Automation Platform subscription และรวมอยู่ใน Ansible Visual Studio Code extension อยู่แล้ว
ผู้ใช้สามารถป้อนข้อความคำสั่งที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อสร้างและแก้ไข Ansible Playbooks และกฎต่างๆ และจะได้รับเอาต์พุตที่แปลเป็น YAML content หรือคอนเทนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับภาษาโปรแกรมต่างๆ ได้ เป็นการเพิ่มความคล่องตัวให้กับการสร้างบทบาทและ playbook
ดังนั้นผู้ใช้ที่มีประสบการณ์อยู่แล้วจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมาก ส่วนผู้ใช้มือใหม่ก็จะมีอุปสรรคในการสร้างคอนเทนต์น้อยลง เป็นการขยายช่องทางว่าใครสามารถสร้าง Ansible content ได้บ้าง ในขณะเดียวกันยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องช่องว่างทักษะด้านระบบอัตโนมัติให้กับทุกภาคส่วนในองค์กร
ให้ความสำคัญกับเนื้อหาคุณภาพ
Ansible Lightspeed with watsonx Code Assistant ช่วยแปลความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีอยู่ให้เป็น Ansible automation content และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนด และสอดคล้องกันมากกว่าและสามารถสเกลข้ามทุกทีมงานและทุกภาคส่วนในองค์กร
โดย Ansible Lightspeed with watsonx Code Assistant จะสแกน Ansible content ที่มีอยู่ เพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพและทำให้คอนเทนต์มีมาตรฐานผ่านคำแนะนำต่างๆ รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมต่างๆ บริการนี้ยังช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวผ่านขั้นตอนการแยกข้อมูล ดังนั้นข้อมูลลูกค้าที่มีความอ่อนไหวสูงจะยังคงไม่ถูกแตะต้องและลดการรั่วไหลของข้อมูลให้ที่อาจเกิดขึ้นได้
Generative AI – วิถีโอเพ่นซอร์ส
การจับคู่แหล่งที่มาของคอนเทนต์ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นและทราบว่าคอนเทนต์นั้นมาจากแหล่งใด ใครเป็นผู้เขียน และใช้ไลเซนส์ใดในการเทรนข้อมูลเพื่อสร้างการแนะนำคอนเทนต์ต่างๆ ทำให้งานของผู้มีส่วนร่วมในการสร้างคอนเทนต์ได้รับการยกย่องอย่างเหมาะสม และทำให้ทีมต่างๆ เชื่อมั่นในคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI มากขึ้น รวมถึงทำให้ผู้มีส่วนร่วมในการสร้างและปล่อยคอนเทนต์ต้นทางมีตัวเลือกว่าจะปรับแต่งโมเดลงานของตนหรือไม่
Red Hat_Ansible Lightspeed พร้อมใช้งานผ่าน Ansible Automation Platform subscription ส่วน IBM watsonx Code Assistant มีวางจำหน่ายแยกต่างหาก ส่วนความสามารถต่างๆ ที่ใช้ในการปรับแต่งเพื่อเทรนโมเดลของลูกค้าที่กำหนดคุณสมบัติแบบเจาะจงสำหรับองค์กรนั้นๆ คาดว่าจะพร้อมให้ลูกค้าได้ใช้ปลายปีนี้