“เทคโนโลยีการจัดโปรโมชันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หรือ Promotion Optimization จะเป็นเครื่องมือสร้างประสิทธิภาพให้กับธุรกิจค้าปลีก ที่จะเข้ามมาช่วยวางกลยุทธ์ และสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจ
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจค้าปลีก นอกเหนือจากข้อจำกัดทางเศรษฐกิจแล้ว พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปก็ถือว่าเป็นหนึ่งในความท้าทายของ ธุรกิจค้าปลีก อีกด้วย ทั้งนี้ธุรกิจค้าปลีกจึงจำเป็นต้องปรับตัวและมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่ผ่านมา
การจัดโปรโมชัน ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดต่อธุรกิจค้าปลีกในภูมิภาคเอเชียที่จำเป็นต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่มักมองหาสินค้าราคาที่ดีที่สุดควบคู่กับคุณภาพ ผู้บริโภคบางกลุ่มยังมีความอ่อนไหวต่อราคาสินค้าตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกหลายแห่งจัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่องและตั้งราคาให้ต่ำเพื่อดึงดูดผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสในการขาย
สเตฟาโน สกันเดลลี รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิก ของ รีเล็กซ์ โซลูชันส์ กล่าวว่า “แม้ว่าโปรโมชันจะช่วยสร้างยอดขายได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกโปรโมชันจะมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสร้างกำไรแก่ธุรกิจค้าปลีก
โดยงานวิจัยจากรีเล็กซ์ โซลูชันส์ พบว่า 1 ใน 3 ของโปรโมชันไม่สามารถเพิ่มยอดขายหรือสร้างผลกำไรได้แต่อย่างใด”
นอกเหนือจากนี้โปรโมชันที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอจะส่งผลให้ให้ธุรกิจค้าปลีกสูญเสียเงิน เวลา และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างซัพพลายเออร์อีกด้วย
อีกหนึ่งในข้อควรระวังคือ การจัดโปรโมชันถี่เกินไป เมื่อสินค้าถูกจัดโปรโมชันที่มีประสิทธิภาพต่ำบ่อยครั้ง ไม่เพียงแต่ทำให้คุณค่าและภาพลักษณ์ของสินค้าลดลง แต่ยังกระทบต่อการสร้างกำไรอีกด้วย
สิ่งที่สามารถบ่งบอกได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดว่าบริษัทค้าปลีกจัดโปรโมชันถี่เกินไปหรือไม่ สามารถดูได้จากสถิติที่แม่นยำจากเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตาม การวางแผนโปรโมชันนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยชี้วัดประสิทธิผลของโปรโมชันที่ผ่านมา การพึ่งพากระบวนการแบบใช้สเปรดชีตแบบแมนนวล ทำให้เกิดความล่าช้าและข้อผิดพลาดอยู่บ่อยครั้งและยากต่อการปรับปรุงแผนการในอนาคต
สเตฟาโน กล่าวต่อว่า “การใช้แพลตฟอร์มสำหรับซัพพลายเชนแบบครบวงจรและการวางแผนค้าปลีกที่มีประสิทธิภาพจะสามารถคาดการณ์จากผลของโปรโมชันที่ผ่านมาได้ว่าโปรโมชันใดที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงโปรโมชันใดที่ควรใช้ ยกเลิก ปรับเปลี่ยน และสามารถจะกำหนดว่าราคา กลยุทธ์ รวมถึงคุณสมบัติใดสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจในที่สุด”
เป้าหมายหลักของการจัดโปรโมชัน คือ การเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า กระตุ้นความต้องการ และการขาย โดยทั้งหมดนี้ ถือเป็นปัจจัยหลักในการสร้างผลกำไร และความสามารถในการแข่งขัน ด้วยเทคโนโลยี Promotion Optimization เข้ามาช่วยจัดโปรโมชันจะสามารถเติมเต็มเป้าหมายนี้ เพื่อวางแผน ประเมิน และจัดทำแคมเปญทั้งที่หน้าร้าน และช่องทางออนไลน์ได้โดยอัตโนมัติ โดยมีการระบุสินค้า โปรโมชัน และช่วงเวลาที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำโดยการทดสอบสถานการณ์โปรโมชันต่างๆ ก่อนการเริ่มต้นแคมเปญจริง ในกรณีที่มีการทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกโปรโมชันมีประสิทธิภาพดีพอที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และยังคงสร้างกำไร
มีกรณีศึกษาผู้นำค้าปลีกในประเทศเอสโตเนียที่มีสาขามากกว่า 330 สาขา และมีการจัดโปรโมชันมากกว่า 2,000 รายการต่อเดือน คือ หนึ่งในลูกค้าที่ประสบความสําเร็จในการใช้เลือกใช้เทคโนโลยี โปรโมชัน โซลูชัน จากบริษัทชั้นนำ ผลลัพธ์จากการใช้เทคโนโลยี คือ ยอดขายสูงขึ้น กำไรสูงขึ้น และเป็นแคมเปญที่ผู้บริโภคมีส่วนร่วมมากขึ้น