Wednesday, December 4, 2024
AIArticlesCloud

ประเทศไทยเป็นผู้นำการใช้คลาวด์ในตลาดอาเซียน

Cloud

ประเทศไทยเป็นผู้นำการใช้ Cloud ในตลาดอาเซียน ธุรกิจไทย 95% คาดว่าจะลงทุนด้านคลาวด์เพิ่มขึ้น ในปี 2566 เป็นพับลิคคลาวด์ 49% และไฮบริดคลาวด์ 55%

ารใช้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวความคิดด้านต่างๆ ของรัฐบาล (แผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระยะที่ 2 2566 – 2570) ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนเป็นดิจิทัล และสนับสนุนการใช้คลาวด์

ภาคอุตสาหกรรมจำนวนมากในไทยใช้คลาวด์คอมพิวติ้งเพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจของตนทันสมัย และมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน โครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่งพร้อมใช้ และการเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วประเทศ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้คลาวด์คอมพิวติ้งในวงกว้าง

นอกจากนี้ ผู้ให้บริการคลาวด์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ได้ช่วยให้ธุรกิจไทยเข้าถึงโซลูชันและบริการที่อยู่บนคลาวด์ได้หลากหลายมากขึ้น

ไทยมีบทบาทอย่างมากการลงทุนในคลาวด์

ผลสำรวจ The Next-Generation Cloud_Strategy in Asia ซึ่งเป็นงานวิจัยอิสระที่ อาลีบาบา คลาวด์ จัดทำขึ้น พบว่า ในภูมิภาคเอเชีย บริษัทต่างๆ จำนวนมากย้ายธุรกิจที่สำคัญของตนไปสู่ระบบออนไลน์เพื่อจัดการกับปริมาณงานของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพในโลกหลังการแพร่ระบาด ธุรกิจในเอเชียที่ใช้บริการคลาวด์อยู่แล้วจึงวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในกลยุทธ์คลาวด์ต่างๆ ในปีที่จะถึงนี้

ซึ่งการเพิ่มขึ้นของการลงทุนส่วนใหญ่มาจากประเทศไทย (95%) อยู่ในตำแหน่งผู้นำในตลาดอาเซียนที่ทำการสำรวจทั้ง 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงอินโดนีเซีย (94%) ฟิลิปปินส์ (91%), เขตปกครองพิเศษฮ่องกง (83%) และสิงคโปร์ (83%)

ผลสำรวจระบุว่า ธุรกิจจำนวนมากเลือกใช้พับลิคคลาวด์ โดยพิจารณาจากการสนับสนุนในท้องถิ่นที่เชื่อถือได้ และชื่อเสียงด้านความปลอดภัยที่รัดกุม เห็นได้ชัดเจนว่า ธุรกิจต่างเห็นประโยชน์ของการย้ายไปทำงานบนพับลิคคลาวด์ ว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีความปลอดภัยมากขึ้น ข้อได้เปรียบเหล่านี้ยังช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้

84% ของผู้ใช้บริการคลาวด์ที่มีอยู่คาดว่าจะเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีคลาวด์ในปี 2566 ในขณะที่มากกว่าสี่ในห้า (84%) กำลังวางแผนการย้าย ระบบคลาวด์ เต็มรูปแบบภายในสองปีตามที่ระบุไว้ในรายงานการสำรวจฉบับใหม่

การลงทุนและการใช้คลาวด์ในประเทศไทยมีความหลากหลายมากขึ้น

ผลสำรวจระบุว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลโดยตรงทำให้ 54% ของธุรกิจในเอเชียใช้ซอฟต์แวร์ที่โฮสต์บนคลาวด์เพิ่มขึ้น ธุรกิจไทยลงทุนด้านคลาวด์ประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้น ผลสำรวจพบว่า มีองค์กร 59% ลงทุนด้านคลาวด์ที่เกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ ในขณะที่ 53% ลงทุนด้านคลาวด์ที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ 

แม้ว่าไพรเวทคลาวด์จะเป็นรูปแบบการใช้งานที่ได้รับการเลือกใช้มากที่สุดก็ตาม (36%) แต่ธุรกิจไทยกำลังใช้งานพับลิคคลาวด์ (23%) และไฮบริดคลาวด์ (29%) เพิ่มมากขึ้น มีการคาดการณ์ว่า คลาวด์จะมีบทบาทมากขึ้นในตลาดไทย โดยประมาณครึ่งหนึ่งของธุรกิจไทยวางแผนที่จะลงทุนด้านพับลิคคลาวด์ (49%) และไฮบริดคลาวด์ (55%) เพิ่มขึ้นในปี 2566 นี้

บทความโดย: ไทเลอร์ ชิว ผู้จัดการประจำประเทศไทย อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์

องค์กรไทยกว่า 60% ได้ใช้บริการคลาวด์มาแล้วอย่างน้อยสามปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของการใช้คลาวด์ในทุกธุรกิจ นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่าอุตสาหกรรมไทยที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นดิจิทัล ได้แก่ บริการทางการเงินและการธนาคาร การค้าปลีก การศึกษา สื่อและเกม เป็นต้น

แม้ว่าการใช้ Cloud จะมีประโยชน์หลายประการ ผลสำรวจพบว่ายังมีอุปสรรคที่ธุรกิจไทยต้องเผชิญ เช่น การฝึกอบรมพนักงานที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการใช้ทั้งพับลิคและไพรเวทคลาวด์

ส่วนอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดต่อการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นดิจิทัลและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ คือ ค่าใช้จ่ายสูง (36%) และขาดการสนับสนุนด้านเทคนิคเฉพาะทางของแต่ละอุตสาหกรรม (42%)

แต่หากธุรกิจไทยก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ได้ การโยกย้ายการดำเนินงานไปยังคลาวด์ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มผลิตภาพ เร่งการทำดิจิทัลทรานฟอร์เมชัน และก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งได้

คลาวด์คอมพิวติ้งกำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของธุรกิจไทย

บริการคลาวด์ที่ใช้อย่างแพร่หลายได้พลิกโฉมรูปแบบการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ประโยชน์อันน่าทึ่งของคลาวด์คอมพิวติ้ง เช่น ความสามารถในการปรับตัว การปรับขนาด การทำงานร่วมกัน ความปลอดภัย ตลอดจนความเร็ว ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) รวมทั้งการปฏิบัติตามข้อกำหนดและความเรียบง่ายในการนำไปใช้ที่เพิ่มมากขึ้น ล้วนทำให้คลาวด์ได้รับความนิยมและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขยายธุรกิจและสร้างนวัตกรรม

ก่อนที่จะเริ่มต้นเส้นทางการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล สิ่งสำคัญที่สุดคือ ธุรกิจจะต้องประเมินความต้องการขององค์กร พร้อมขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านคลาวด์ และสร้างกลยุทธ์ในการใช้คลาวด์ที่แข็งแกร่งที่ปรับให้เข้ากับเป้าหมายเฉพาะขององค์กร

สิ่งสำคัญคือพึงระลึกไว้เสมอว่า Cloud ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการเชื่อมต่อกับลูกค้า การเปิดรับและเก็บเกี่ยวความสามารถต่างๆ ของคลาวด์ เป็นหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่จะผลักดันให้ธุรกิจไทยก้าวสู่จุดสูงสุดใหม่ๆ และปูทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

Featured Image: Image By svstudioart