“เทนเซ็นต์ คลาวด์ ประกาศให้การสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัปไทย ผ่านโปรแกรม Tencent Cloud Startup Program ซึ่งจะช่วยสนับสนุนในด้านต่างๆ ให้สตาร์ทอัปสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ รวมถึงเทคโนโลยีคลาวด์และเอไอที่หลากหลาย
ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “ธุรกิจสตาร์ทอัปจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและระบบการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเพื่อให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“เทนเซ็นต์_คลาวด์ กลุ่มธุรกิจคลาวด์ พร้อมให้การสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัปในทุกระดับ ผ่านโซลูชันและเทคโนโลยีต่างๆ ที่หลากหลาย โดยสามารถปรับแต่งโซลูชันที่ครอบคลุมทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีบริการที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานในส่วนต่างๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถให้สตาร์ทอัปไทยสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทย”
เปิดโปรแกรมให้การสนับสนุนทางการเงินแก่สตาร์ทอัป
Tencent Cloud Startup Program เป็นโปรแกรมที่นำเสนอแก่สตาร์ทอัปที่ใช้เงินทุนของตนเองและสตาร์ทอัปที่ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันทางการเงิน ให้สามารถใช้ประโยชน์จากบริการและโซลูชันของเทนเซ็นต์ คลาวด์ผ่านการสนับสนุนในด้านการเงิน
ไม่ว่าจะเป็นการมอบบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุดถึงหนึ่งแสนดอลลาร์ (ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่ผ่านการพิจารณา) ส่วนลดค่าบริการ การฝึกอบรม และโอกาสทางการตลาดอีกมากมาย โดยสตาร์ทอัปสามารถใช้บัตรกำนัลดังกล่าวกับโซลูชันคลาวด์หลากหลายประเภทที่ครอบคลุมทั้งบริการ IaaS PaaS และ SaaS อาทิ
Infrastructure as a Service (IaaS) บริการหลักด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์สำหรับสตาร์ทอัป อาทิ TDSQL โซลูชันฐานข้อมูลแบบกระจายที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน มาพร้อมกับบริการต่างๆ เช่น ระบบ DBA อัจฉริยะ ฟังก์ชันแบบอัตโนมัติ และระบบการตรวจสอบและการแจ้งเตือน
นอกจากนี้ เทนเซ็นต์ คลาวด์ยังมอบส่วนลดให้กับสตาร์ทอัปที่ซื้อโซลูชัน Cloud Virtual Machine (CVM) ในปีแรก โดย CVM เป็นบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกเพิ่มหรือลดจำนวนทรัพยากรที่ใช้ในการประมวลผลได้ตามความต้องการในการใช้งาน และเก็บเงินตามจำนวนทรัพยากรที่ใช้งานจริง
สตาร์ทอัปที่ใช้เงินทุนของตนเองและสตาร์ทอัปที่ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันทางการเงินที่ผ่านการพิจารณา และชำระค่าบริการแบบรายเดือนจะได้รับส่วนลด 40% ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 40,000 ดอลลาร์ และ 1,000 ดอลลาร์ ตามลำดับ
Platform as a Service (PaaS) บริการด้านแพลตฟอร์มที่รองรับการขยายตัวให้แก่สตาร์ทอัป อาทิ
FR-eKYC ใช้เทคโนโลยี AI ชั้นนำของเทนเซ็นต์ มาช่วยการจดจำเอกสาร การตรวจจับใบหน้า และการเปรียบเทียบใบหน้า เพื่อยกระดับกระบวนการตรวจสอบตัวตนให้มีความรวดเร็วและแม่นยำ ผ่านอัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์
Tencent Kubernetes Engine (TKE) จะเข้ามาช่วยจัดการเรื่องคอนเทนเนอร์เป็นหลัก และด้วยความยืดหยุ่นในการปรับขยายโครงสร้าง รวมถึงการมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงจึงทำให้สามารถรองรับการจัดการคอนเทนเนอร์ต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
CODING-CD ระบบที่สามารถควบคุมการเผยแพร่ การปรับใช้ และการส่งมอบซอฟต์แวร์ โดยสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมการจัดการโค้ด (Git) และฐานการเก็บข้อมูลเพื่อให้ระบบสามารถดำเนินงานได้แบบอัตโนมัติ
Live Video Broadcasting (LVB) บริการรองรับการทำไลฟ์สตรีมคุณภาพสูง
Video on Demand (VOD) โซลูชันที่รองรับที่การบันทึกเสียง/วิดีโอ การอัปโหลด การจัดเก็บ การแปลงรหัสอัตโนมัติ และการรับชมย้อนหลังได้ทันทีที่ต้องการ
Software as a Service (SaaS) ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์แบบครอบคลุมบนคลาวด์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือเว็บเบราว์เซอร์ได้อย่างปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่าย
“เทนเซ็นต์ คลาวด์ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจทุกขนาดในทุกอุตสาหกรรม พร้อมให้บริการด้านโซลูชันที่หลากหลายมากกว่า 400 รายการผ่านความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานจากพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุม 70 พื้นที่ใน 26 ภูมิภาคทั่วโลกและการมีดาต้าเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยถึง 2 แห่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการคลาวด์ ความยืดหยุ่น และการรองรับต่อสถานการณ์ต่างๆ
ตลอดจนมีทีมงานคนไทยที่มีความเชี่ยวชาญ คอยให้การสนับสนุน และคำแนะนำต่างๆ แก่ผู้ใช้บริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและช่วยให้การดำเนินธุรกิจของลูกค้าในยุคดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่น” ชาง กล่าวสรุป