Friday, November 22, 2024
NEWS

ITEL คาดงานใหม่หนุนรายได้ปี 66 พุ่งกระฉูด

ITEL คาดงานใหม่หนุนรายได้ปี 66 พุ่งกระฉูด แจ้งเตือน ITEL-W3 ใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 28 มี.ค. – 11 เม.ย. นี้

มจ. อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม หรือ ITEL คาดปี 2566 คว้างานใหม่ต่อเนื่อง หนุนรายได้รวมมีลุ้นเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้ 3,438 ลบ. ด้าน CEO “ณัฐนัย อนันตรัมพร” เดินหน้าตามกลยุทธ์ New S-Curve พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ Digital Transformation ส่วน บ. ย่อย “บลู โซลูชั่น” เตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมแจ้งเตือนนักลงทุนที่ถือ ITEL-W3 จะขึ้นป้าย SP วันที่ 20 มี.ค. -12 เม.ย. สามารถใช้สิทธิได้ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 24 – 30 มี.ค. และกำหนดวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 28 มี.ค.- 11 เม.ย. นี้

ณัฐนัย  อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL

ณัฐนัย  อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ปี 2566  มีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้ 3,438 ล้านบาท โดยแรงสนับสนุนจากงานใหม่ๆ ที่จะเข้ามา นอกจากนี้ บริษัทฯ เดินหน้าตามกลยุทธ์ New S-Curve พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ Digital Transformation ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ซึ่งล่าสุดมีงานในมือ (Backlog) รวม 3,084 ล้านบาท

โดยแผนธุรกิจในปี 2566 ด้วยโมเดลธุรกิจของ ITEL ที่มีรายได้จากการให้บริการโครงข่ายซึ่งเป็นรายได้ประจำและมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้รายได้ค่อนข้างมั่นคง และสามารถต่อยอดได้ รวมทั้งการใช้งานบริการต่างๆ จากฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น สนับสนุนให้บริษัทฯสามารถ เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่การให้บริการติดตั้งโครงข่ายที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือหลายๆ ค่าย ก็เป็นส่วนสำคัญในการเติบโต และยังรวมไปถึงบริการศูนย์รับฝากข้อมูล (Data Center) ที่เป็นส่วนผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตได้ดีเช่นกัน หลังประสบความสำเร็จจากปี 2565 ที่ได้ร่วมมือกับ ETIX EVERYWHERE พันธมิตรระดับโลก

โดย ITEL ถือหุ้น 33% และ ETIX ถือหุ้น 67% ในนาม ETIX-ITEL และเปิดตัว Data Center แห่งใหม่ ETIX Bangkok 1 ตั้งอยู่ที่ถนนบางนา-ตราด กม.19 โดยขณะนี้มีลูกค้าใช้บริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจะขยาย ETIX Bangkok 2 ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าแห่งแรกถึง 3 เท่า เพื่อรองรับปริมาณความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น

นอกจากนี้ ในปี 2566 ทาง ITEL ยังมีประเด็นสำคัญในการนำธุรกิจย่อย คือ บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (BS) ซึ่ง ITEL ถือหุ้น 51% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำไฟลิ่งตามขั้นตอนเพื่อยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดย BS มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ และติดตั้งระบบเครือข่ายโทรคมนาคมและดิจิทัลโซลูชั่น

ณัฐนัย กล่าวด้วยว่า ใบสำคัญแสดงสิทธิชุดที่ 3 หรือ ITEL-W3 จะเหลือระยะเวลาการใช้สิทธิ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 6 ในระหว่างวันที่ 24-30 มีนาคม 2566 ซึ่งประมาณการรับหุ้นเพิ่มทุนที่เกิดจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์จะเข้าซื้อขายประมาณวันที่  7 เมษายน 2566 และแปลงสิทธิครั้งสุดท้ายที่กำหนดวันใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในวันที่ 12 เมษายน 2566

โดยมีวันซื้อขายครั้งสุดท้าย คือ วันที่ 17 มีนาคม 2566 กำหนดขอขึ้นเครื่องหมาย SP วันที่ 20 มีนาคม -12 เมษายน 2566 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 22 มีนาคม-12 เมษายน 2566

ทั้งนี้ ได้กำหนดระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายตั้งแต่ วันที่ 28 มีนาคม – 11 เมษายน 2566 ส่วนราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญคือ 3.30 บาทต่อหุ้น อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ

หลังจากนั้นวันที่ 13 เมษายน 2566 จะเป็นวันพ้นสภาพเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ซึ่งประมาณการรับหุ้นเพิ่มทุนที่เกิดจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์จะเข้าซื้อขายประมาณวันที่  28 เมษายน 2566 อย่างไรก็ตาม  การใช้สิทธิทั้ง 2 รอบดังกล่าวนั้น หุ้นที่ได้รับจากการแปลงสิทธิ จะมีสิทธิได้รับเงินปันผล ที่อนุมัติ ในอัตราหุ้นละ 0.0635 บาท/หุ้น

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 ที่ผ่านมา ITEL เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีรายได้ 3,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 929 ล้านบาท หรือ 37% จากปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากปี 2564 โดยมีการเติบโตในทุกธุรกิจ ที่สืบเนื่องมาจากการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ทำให้สามารถผลักดันยอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น

“ที่สำคัญ ITEL สามารถรักษาฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และต่อยอดความสำเร็จในการขยายบริการเพิ่มเติม เช่น งาน Drone & Anti-Drone, งาน Smart CCTV และอื่นๆ โดยอาศัยจุดแข็งจากโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพของโครงข่ายที่เหนือระดับ

ทำให้เพิ่มศักยภาพการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด สร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า สร้างรายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยังได้ต่อยอดความสำเร็จในกลยุทธ์ New S-Curve ที่เป็นการให้บริการด้านงาน Big Data, Security และ IoT รวมถึงการเข้าถือหุ้น 51% ใน บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด ทำให้มีรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายเพิ่มขึ้นถึง 638 ล้านบาท” ณัฐนัย กล่าว